เอพีฯเผยหลังระบบสาธารณูปโภคขยายทำเลลาดพร้าว ส่งผลราคาที่ดินปรับสูงจากช่วง 3-4 ปีมาที่300,000-400,000 บาท/ตารางวา ด้านการแข่งขันยังสูงต่อเนื่อง รายใหญ่ผุดคอนโดฯร่วม 10 โครงการ ชูจุดขายด้านทำเล การดีไซน์ พื้นที่ส่วนกลาง และอัดแคมเปญดุ ปัจจุบันราคาเฉลี่ยปรับสูงแตะ 150,000-160,000 บาท/ตารางเมตร Capital Gain ที่ 4-5% แนะเป็นโอกาสดีของผู้บริโภค ซื้อเป็นสินทรัพย์เก็บระยะยาว ด้าน“ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์” ยอดขายพุ่งแล้ว 70% พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์ได้ ก.ค.นี้ คาดปิดขายทั้งโครงการภายในปลายปี64
นายประจักษ์ ประภามณฑล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยถึงศักยภาพทำเลลาดพร้าวในปัจจุบันว่า มีการเปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อเทียบกับในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยมีระบบสาธารณูปโภคที่มากขึ้น ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว และอาคารสำนักงานใหม่ๆ และท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังมีธรรมชาติที่ร่มรื่นด้วย 3 สวนขนาดใหญ่ คือ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์,สวนจตุจักร และสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ขณะเดียวกันราคาที่ดินตามราคาประเมินของกรมธนารักษ์ได้ปรับขึ้นมาที่ 300,000-400,000 บาท/ตารางวา เมื่อเทียบกับเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 200,000-300,000 บาท/ตารางวา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง
ส่วนการแข่งขันคอนโดฯพร้อมอยู่ในย่านลาดพร้า-รัชโยธิน จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาพัฒนาโครงการเป็นจำนวนมากประมาณ 10 โครงการ ส่งผลให้การแข่งขันในย่านดังกล่าวสูงพอสมควร ส่วนใหญ่จะแข่งกันในด้านดีไซน์ ความสะดวกในการเดินทาง พื้นที่ส่วนกลาง เพราะลูกค้าที่ซื้อโครงการในย่านนี้ต้องการหาประสบการณ์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ผู้ประกอบการจัดแคมเปญนำเสนอเงื่อนไขที่ดึงดูดความสนใจลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา ราคาขายเฉลี่ยของทำเลไม่ติดรถไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 120,000 บาท/ตารางเมตร แต่ปัจจุบันราคาเฉลี่ยปรับสูงขึ้นมาที่ 150,000-160,000 บาท/ตารางเมตร และมี Capital Gain ที่ 4-5% ถือเป็นโอกาสดีของผู้บริโภค สามารถซื้อเป็นสินทรัพย์เก็บไว้ได้ในระยะยาว
ด้านการที่สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)จะมีการปรับเปลี่ยนการบังคับใช้เกณฑ์ การจัดทำรูปเล่ม เพื่อประกอบการยื่นขอจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)ใหม่นั้น บริษัทฯก็เฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ หากมีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์จริงก็พร้อมให้ความร่วมมือ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างรอความชัดเจน หลังจากนั้นจึงค่อยมาประมวลผลตามกระบวนการอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนความคืบหน้าโครงการ “ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์”(LIFE LADPRAO VALLEY) ซึ่งเป็นคอนโดฯร่วมทุนฯโครงการที่ 13 ระหว่าง AP กับ พันธมิตรญี่ปุ่น มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป)และเป็นโครงการที่ 2 ในย่านลาดพร้าว ตั้งตรงข้ามเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม สูง 44 ชั้น 1 อาคาร ขนาดตั้งแต่ 28.80-66.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 5.19-11 ล้านบาท หรือราคาเริ่มต้น 149,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 1,140 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท โดยได้เปิดพรีเซลครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ปัจจุบันทำยอดขายได้แล้ว 70% โดยลูกค้าสัดส่วน 90% เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และที่เหลือเป็นการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ซึ่งเป็นคนไทยประมาณ 80% และชาวต่างชาติ 20% ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮ่องกง โดยจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในเดือนกรกฎาคม 2564 นี้ คาดว่าจะโอนจำนวนดังกล่าวได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และยอดขายสัดส่วน 30% ที่เหลือ คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปีนี้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย
“แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติ ไม่สามารถเข้ามาโอนกรรมสิทธิ์ได้ แต่ก็ใช้วิธีการมองอำนาจผ่านสถานกงสุลของแต่ละประเทศเพื่อให้เอเจนท์เข้ามาดำเนินการแทน ส่วนด้านการขายก็ไม่มีปัญหาเรามีแพลตฟอร์มใหม่ ที่เห็นห้องตัวอย่างเสมือนจริง ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เช่นกัน”นายประจักษ์ กล่าวในที่สุด
