ศุภาลัย เดินหน้ารุกโครงการแนวราบ จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่อง  ผุดบ้านเดี่ยว-บ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น “ศุภาลัย วิลล์ อยุธยา” ราคาเริ่มเพียง 3 ล้านต้น   พร้อมเปิดพรีเซลวันที่ 14-15 พ.ย.63 นี้                  
นางสาวธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์
นางสาวธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน)หรือ SPALI  เปิดเผยว่า จากการเปิดตัวโครงการ “ศุภาลัย พรีโม่ อยุธยา” ในจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน2563 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภค มาจากการที่ผู้บริโภคมั่นใจในบริษัทฯ และเชื่อมั่นในคุณภาพ      การออกแบบ ภายใต้มาตรฐานระดับสากล ISO 9001 : 2015  โดยออกแบบโครงการคุณภาพ เพื่อสร้างความสุขและตอบโจทย์ผู้บริโภคภายใต้สังคมที่สมบูรณ์แบบมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทฯมีความพร้อมที่จะเดินหน้ารุกตลาดแนวราบใน จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุก Segment  ด้วยการเปิดตัวโครงการ “ศุภาลัย วิลล์ อยุธยา” เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการขยายครอบครัว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 31 ไร่  พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ภายใต้แนวคิด “New Definition of Life…with Superior Living” นิยามใหม่ของชีวิต…กับสิ่งที่เหนือกว่า  พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่  ตั้งแต่ 128-197 ตารางเมตร(ตร.ม.) โดยบ้านแฝด ขนาดเริ่มต้นที่ 35.2-40.7 ตารางวา บ้านเดี่ยว ขนาดเริ่มต้นที่ 50.2-94.9 ตารางวา  ราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้านบาทต้นๆ จำนวน 185 แปลง มูลค่าโครงการ 703 ล้านบาท(ลบ.) โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มเปิดพรีเซลในวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2563  ณ Sales Gallery
นายชัยจักร วทัญญู

นายชัยจักร วทัญญู  ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน)หรือ SPALI  กล่าวถึง การออกแบบบ้านแฝดซีรีย์ใหม่ 2 ชั้น “ศุภกวินทร์” ว่าเน้นการออกแบบสไตล์โมเดิร์น คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยมากขึ้น ส่วนรับแขกของบ้านออกแบบให้เชื่อมต่อส่วนรับประทานอาหารและส่วนครัว      เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้พักอาศัย มีการแบ่งสัดส่วนให้มีพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังมีช่องแสง Skylight โดยใช้ระบบฝ้าโปร่งแสง เพิ่มแสงสว่างภายในบ้าน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี และห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว และระเบียงห้องที่กว้าง อีกทั้งภายในโครงการถูกออกแบบให้อยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวของสวนสาธารณะส่วนกลางเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
“บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นสร้างสรรค์บ้านที่ดีในสังคมคุณภาพ ด้วยการใช้นวัตกรรมการประหยัดพลังงาน   ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ได้แก่ การเลือกใช้ประตู-หน้าต่าง UPVC ป้องกันเสียงจากภายนอก   เข้าสู่ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี กระจกอนุรักษ์พลังงานเบอร์ 5 และกระจกเขียวตัดแสง ที่ช่วยลดความร้อน    เข้าสู่ตัวบ้าน มาพร้อมโครงสร้างอิฐมวลเบาไม่อมความร้อน หลอดไฟ LED ช่วยประหยัดพลังงาน     และฉนวนกันความร้อน นอกจากนี้ยังมีระบบ Home Automation ที่เพิ่มความปลอดภัย และสะดวกสบาย                           ในการอยู่อาศัยมากขึ้น” นายชัยจักร กล่าวในที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*