ไรมอน แลนด์ฯเผยแนวโน้มไตรมาส 2/63 ไวรัสโควิด-19 กระทบตลาดอสังหาฯต่อเนื่อง ลูกค้าไทยเทศ ยังชะลอซื้อโอนโครงการ มั่นใจกระแสเงินสดเพียงพอจ่ายคืนตราสารหนี้ เร่งระบายสต๊อก 5 โครงการ เสริมสภาพคล่อง ระบุ Backlog รวมมูลค่า 7,881 ล้านบาท
นายไลโอเนล ลี
นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือRML เปิดเผยถึง แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/2563 จะยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ทำให้ลูกค้าชาวไทยและต่างชาติชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป โดยเฉพาะในเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา   ที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดการเดินทางเข้าและออกประเทศ ลูกค้าชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ จึงมีผลให้การโอนโครงการเป็นไปได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมความพร้อมด้านฐานะการเงิน และมีแผนรักษากระแสเงินสด โดย RML เป็นผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งคำนึงถึงการรักษาสภาพคล่องทางการเงินให้แข็งแกร่ง เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ท้าทายและลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯฟื้นตัวได้หลังวิกฤตนี้ผ่านพ้นไป ปัจจุบันกระแสเงินสดมีเพียงพอที่จะจ่ายคืนตราสารหนี้ที่ครบกำหนดในเดือนกรกฎาคม จำนวน 712 ล้านบาท และในเดือนธันวาคม จำนวน 200 ล้านบาท โดยที่ไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจไตรมาส 2/2563 บริษัทมีแผนเร่งระบายสต็อก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ The Lofts Asoke, โครงการ Diplomat 39, โครงการ Diplomat Sathorn,โครงการ The River และโครงการ Unixx จำนวน  86 ยูนิต รวมมูลค่า 2,286 ล้านบาท(ลบ.)  เพื่อเพิ่มยอดขาย (Presales) เสริมสภาพคล่องกระแสเงินสดของบริษัท โดยประเมินว่ายอดขายน่าจะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง จากมาตรการภาครัฐประกาศคลายล็อกดาวน์ ซึ่งบริษัทเตรียมเปิดโชว์รูมให้ลูกค้าเข้าชมโครงการ The Lofts Silom, Tait12,  The Loft Ratathewi, The Estelle Phrom Phong และ The River พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกันเคร่งครัด ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและควบคุมจำนวนผู้เข้าชมโครงการ  อีกทั้งใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) โปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถดูห้องตัวอย่างได้แบบเสมือนจริง        ก่อนเข้าเยี่ยมชมที่โครงการควบคู่กันไป โดยกลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าจะกระตุ้นความต้องการตัดสินใจซื้อ และสร้างโอกาสปิดการขายกับกลุ่มลูกค้าภายในประเทศ ในยุค New Normal

“ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้มีความท้าทาย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งในการประคับประคองธุรกิจให้รอดพ้นจากวิกฤตได้ และมีภูมิคุ้มกันในการรับมือกับปัญหาที่ใหญ่กว่าในอนาคต ซึ่งบริษัทเตรียมความพร้อมรับมือกับความเสี่ยงหรือโอกาสของธุรกิจที่จะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวิกฤตนี้ไป” นายไลโอเนล  กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 อยู่ที่ 7,881 ล้านบาท รวมทั้งหมด 8  โครงการ ได้แก่

1.โครงการ Tait12  มูลค่า 2,598.0 ล้านบาท  คิดเป็น33%

2.โครงการ The Lofts Silom มูลค่า 2,322.1 ล้านบาท คิดเป็น 29.5%

3.โครงการ The Estelle Phrom Phong มูลค่า 2,072.7 ล้านบาท คิดเป็น 26.3%

4.โครงการ The Lofts Ratchathewi 579.8 ล้านบาท คิดเป็น 7.4%

5.โครงการ The Lofts Asoke มูลค่า 126.0 ล้านบาท คิดเป็น 1.6%

6.โครงการ The River มูลค่า 91.7 ล้านบาท

7.โครงการ Unixx

8.โครงการ MEWS เย็นอากาศ ซึ่งใน 2 โครงการสุดท้ายรวมมูลค่า 90.7 ล้านบาท

โดยคาดว่าทั้ง 8 โครงการจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป

สำหรับโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จคิดเป็นมูลค่า 3,712.8 ล้านบาท และที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง 3 โครงการ มูลค่า 8,006.0 ล้านบาท

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*