ท่ามกลางความท้าทายที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังเผชิญอยู่อย่างรอบด้านจากภายใน และภายนอกประเทศ ทั้งปัจจัยด้านเศรษฐกิจ รวมถึงสงครามการค้าที่ปะทุขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกา กับ จีน สองประเทศมหาอำนาจของโลกที่ดูเหมือนจะไม่มีใครพูดถึงในช่วงนี้ หลังจากผู้คน (เกือบ) ทั่วทั้งโลกต่างพยายามหาหนทางที่จะหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้รุนแรง รวดเร็ว และขยายวงกว้างเกินกว่าที่จะคาดเดาจนหลายๆ คนเกิดความกังวลโรคอุบัติใหม่ (อาจ) นำโลกเข้าสู่ยุค “วิกฤตสุขภาพ” (Health Crisis)…วิกฤตรอบใหม่นี้ดูเหมือนจะเป็น “ตัวเร่ง” ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดให้กับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์มาใช้ที่จะนำพาธุรกิจอสังหาฯ ตีฝ่าวงล้อมวิกฤต

นายสัมมา คีตสิน อดีตผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ในฐานะนักเศรษฐศาตร์อสังหาริมทรัพย์ กล่าวให้ความเห็นว่า วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดในปี 2540 หรือที่เรียกว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง” สถาบันการเงินล้ม และกระทบธุรกิจอสังหาฯ กระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยแบบตรงๆ แต่วิกฤตรอบนี้ที่เกิดจากโควิด-19  เกิดขึ้นทั่วโลกทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย ทำให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้างหลายด้านโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข ส่วนที่มีผลกับธุรกิจอสังหาฯก็จะเป็นภาคบริการที่ได้รับผลกระทบเชิงลบแบบตรงๆ ก่อนเลยนั่นคือ ธุรกิจโรงแรม ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยจะได้รับผลกระทบทางอ้อมตามมา เห็นได้ชัดอุปสงค์ (Demand) หายไป ประชาชนไม่มีอารมณ์ที่จะออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือไม่ก็ไม่อยากใช้จ่ายในช่วงนี้คนมีเงินก็เก็บเงินสดไว้

นายสัมมา คีตสิน

“คำถามที่ตามมาโควิด-19  จะจบเมื่อไหร่ ถ้าค้นพบวัคซีนที่จะรักษาได้เร็ว ก็จบเร็ว แต่ถ้าไม่ใช่ วิกฤตนี้ลากยาวกว่าซับไพร์มมากกว่าต้มยำกุ้ง ก็เป็นเรื่องใหญ่” นายสัมมา กล่าวพร้อมกับระบุว่า ถ้าหากสามารถหยุดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในไตรมาส 3 ผู้คนออกมาทำกิจกรรมด้านเศรษฐกิจทุกอย่างก็เดินหน้า ส่วนที่ว่าจะทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยลดลงมากแค่ไหน หากเป็นอย่างที่แบงก์ชาติคาดการณ์ว่า วิกฤตครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจติดลบกว่า 5%  อสังหาฯ ก็จะลดลงมากกว่านั้น

เมื่อ Demand หดตัวฝั่ง Supply ก็ไม่ควรออกมาเยอะ บริษัทอสังหาฯ ก็ปรับตัวเร็วชะลอเปิดโครงการใหม่ รักษา สภาพคล่อง ควบคุมปริมาณก่อสร้างให้สมดุล จับมือกับธนาคารพันธมิตรจัดแคมเปญพิเศษเพื่อเร่งการโอน และบริการวางแผนทางการเงิน รวมถึงการปรับวิธีการขาย การตลาดใหม่นำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ที่เห็นชัดเจนแบบก้าวกระโดดก็คือ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่จะพาธุรกิจอสังหาฯ ก้าวผ่านความท้าทาย ซึ่งก็สอดคล้องกับพฤติกรรมของตลาดผู้บริโภคยุคใหม่

Emergency Plan” ปฎิบัติการแก้เกม Social Distancing

หากพิจารณาการประกาศแผนธุริจของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปี จะเห็นว่าความเสี่ยงที่ถูกนำมาคิดหลักๆ ก็มีเพียง การชะลอตัวของเศรษฐกิจ, LTV และ สงครามการค้า ส่วนวิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ที่เกิดขึ้นกับภาคธุริจอสังหาฯ ผู้ประกอบการจึงไม่ได้บวกหรือคิดเผื่อความเสี่ยงนี้เข้าไปในแผนธุรกิจปี 2563 ตั้งแต่ต้นเหมือนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเหนือการควบคุมจะอยู่รอด ก็ต้องปรับตัวให้ทัน ระดมสรรพกำลังของพนักงานแทบทุกจะหน่วยงานมาช่วยกัน อะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องทำผ่านปฎิบัติการที่เรียกว่าEmergency Plan” ก็คงไม่ผิดนักในภาวะการณ์ที่ลูกค้าอยู่บ้านตามมาตรการ Social Distancing ทำให้หลายๆ ครอบครัวหรือหลายๆ บริษัท ตัดสินให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ได้

“ Emergency Plan” ที่บริษัทพัฒนาอสังหาฯ นำมาใช้ ก็คือ การขายแบบ“ Telesale” และ“ไลฟ์สด” เพื่อขาย ผ่านวีแชต เฟซบุ๊ก หรือการเปิดให้ลูกค้าจอง (Booking) ผ่านช่องทางออนไลน์อื่นๆ 24 ชั่วโมง ที่บริษัทพัฒนาระบบขึ้น หรือบางบริษัทก็ให้เอเยนต์ดำเนินการบ้างก็มี ให้พนักงานขายเป็นคน “ไลฟ์สด” ก็ทำ ซึ่งต่างจากสมัยก่อนจะเห็นไลฟ์สดเฉพาะในช่วงแรกๆ เพื่อเปิดตัวโครงการใหม่เท่านั้น

ท้่งนี้ การเปิดช่องทางการขายใหม่ได้ทั้งชม ช้อป ผ่านทางระบบออนไลน์ 24 ชั่วโมงของบริษัทอสังหาฯ เลือกใช้วิธีนี้เข้าถึงลูกค้า  อาทิ

  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)หรือ SIRI นำโครงการมาขายผ่านระบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง ด้วยการเปิดตัว Sansiri 24 Online Booking” ด้วยระบบติดต่อและรับคำปรึกษาจากที่ปรึกษาการขาย Online Agent ผ่าน Live Chat หรือ VDO Call รวมถึงเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้ข้อมูล ปัจจุบันยอดขาย Online Booking ของแสนสิริมีสัดส่วนเพียง 5% ในอนาคตการซื้อขายผ่านระบบ Online Booking จะเพิ่มสูงขึ้นโดยในปี 2564 อาจจะสูงถึง 30%
  • บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดขายผ่านออนไลน์ Ananda iStore” กับ 3 ช่องทางใหม่ คือ ช่องทางแรก: ANANDA ONLINE BOOKING เป็นการย้าย Sales Gallery มาไว้ในมือคุณผ่านออนไลน์ platform ช่องทางที่2 : FACEBOOK ANANDA DEVELOPMENT การเปิด FACEBOOK SHOP ที่พร้อมตอบทุกแชทผ่าน FACEBOOK MESSENGER และช่องทางที่ 3 : LINE OA “CHAT & SHOP” เปิดช่องทางใหม่ให้คุณแบบ Exclusive กับ แชท 1 ต่อ 1 พร้อมบริการผู้ช่วยส่วนตัว สอบถามและพูดคุยตรงกับเซลล์ได้ทุกโครงการ ผ่าน LINE OA ของแต่ละแบรนด์ และเตรียมพบ LINE MY SHOP ช้อปผ่าน LINE OA ทุกช่องทาง 24 ชม. 
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS ปรับกลยุทธ์การขายโดยเน้นในทุกช่องทาง Online Booking กดจองซื้อบ้านได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน www.pruksa.com และยังมีการจัดแคมเปญพิเศษเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และสื่อสารผ่านทาง Facebook Live  รวมถึงการให้บริการผ่าน Line ที่มีผู้สนใจอย่างต่อเนื่อง
  • บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด ใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านการขายออนไลน์ทุกช่องทางเป็นครั้งแรก กับโครงการเปิดขายอยู่ 2 โครงการ คือ “เดอะ เชดด์ สาทร 1” (The SHADE Sathon 1) และ อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล” (ETERNITY TOWN PRIMROSE Vacharaphol) สามารถติดต่อซื้อขายผ่านทาง VDO Call โดยนัดหมายออนไลน์กับเจ้าหน้าที่ซึ่งจะให้บริการเป็นประจำทุกวัน
  • บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านรูปแบบการขายและบริการออนไลน์ ที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด 12 โครงการ สามารถติดต่อซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ Online Booking กด จอง ง่าย ได้ทุกวัน” ผ่าน grandunity.co.th และเจ้าหน้าที่ยังคงให้บริการเป็นประจำทุกวัน ระหว่างเวลา 9.00-18.00 น. โดยการโทรนัดหมายเพื่อเข้าเยี่ยมชมโครงการ รวมไปถึงการขอรับบริการด้วยการพาชมโครงการผ่านทางวิดีโอคอล ลูกค้าไม่ต้องมาที่โครงการด้วยตนเอง
  • บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดช่องทางขายใหม่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่าน SC BOOKING FROM HOME” ด้วยแนวคิด “ห่างกัน แค่ไหน … ก็ซื้อบ้านได้” กว่า 40 โครงการ ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสามารถชมบ้านแปลงจริง บรรยากาศจริง ที่พร้อมเข้าอยู่ (Ready to move) ทุกโครงการ โดยลูกค้าสามารถเลือกวิธีการช้อปง่ายๆ ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้คือ ช่องทางที่ 1.ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ และดูรายละเอียดโครงการต่างๆได้ที่ https://bit.ly/2Jz7siI หรือโทร 1749 พร้อมให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ ช่องทางที่ 2.ทัก Chat สอบถามข้อมูลโครงการได้ตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ Facebook Chat : ttp://m.me/scassetLine : @scasset http://line.me/R/ti/p/%40scasset และช่องทางที่ 3.Chat & Book ได้ที่ https://bit.ly/39s48k1
นายณัฎฐกิตติ์ ศิริรัตน์

“ ไลฟ์สดขายบ้านเราเริ่มครั้งแรกวันที่ 27 มีนาคม และเราจะไลฟ์ทุกวันเสาร์ ลูกค้าสามารถดูบรรยากาศภายในโครงการ ดูรายละเอียดต่างๆ ของตัวบ้านได้” นายณัฎฐกิตติ์ ศิริรัตน์ หัวหน้าสายงานการตลาดบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวพร้อมกับบอกว่า นอกจากนี้ทีมออนไลน์บริษัทฯ ยังได้นำเอาบ้านสร้างเสร็จจริง (ไม่ใช่บ้านตัวอย่าง) เป็นบ้านพร้อมอยู่มาจัดทำเป็น Video ถ่ายภาพให้ลูกค้าเห็นทั่วทุกมุม นำเอาแบบแปลนบ้านมาให้ลูกค้าเห็นชัดๆ  เพื่อให้ผู้ซื้อบ้านในแต่ละโครงการที่มีวีดิโอตัวอย่างให้ดู ส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากๆ สำหรับปีนี้และในอนาคต

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวและคอนโดฯ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์วิกฤตนี้บริษัทฯ รับมือด้วยการขายผ่านออนไลน์ อาทิ Facebook Live นำเทคโนโลยีที่บริษัทพัฒนาโปรแกรมเองที่เรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นตัวคัดกรองข้อมูลทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้แม่นยำขึ้น และต้นทุนถูกกว่าการใช้สื่อออฟไลน์

นายปิยะ ประยงค์

“วันนี้เราใช้การตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 80-90% หรือเกือบ 100 % จากที่ก่อนหน้าที่มีสัดส่วนอยู่กว่า 30-40% ”

นอกจากนี้ พฤกษาฯ ยังได้เปิดแพลตฟอร์มการจองบ้านออนไลน์พร้อมราคาและเงื่อนไขสุดพิเศษ (Hot Deals) ผ่านทาง www.pruksa.com  และยังมีการจัดแคมเปญพิเศษเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และสื่อสารผ่านทาง Facebook Live  รวมถึงการให้บริการผ่าน Line ที่มีผู้สนใจอย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการมีรายได้เสริมในช่วงนี้สมัครเป็นนายหน้าขายอสังหาฯ (Freelance Broker) ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การขายมาก่อน  โดยจะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขายอยู่ที่ 2.5%

บังคับสังคมก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัล :  สร้างโอกาสต่อยอดให้ผู้เล่นในตลาดอย่างเต็มรูปแบบ

หากพิจารณาถึงกลยุทธ์การตลาดและการขาย หรือเรียกอีกอย่างว่า Sale Innovation ที่บริษัทอสังหาฯ ต่างๆ เน้นใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการสื่อสารสร้างประสบการณ์การขายแบบไร้รอยต่อให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนได้เยี่ยมชมโครงการเองที่บ้าน เป็นการอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดฯ ในช่วงนี้ ส่วนที่ว่าจะเวิร์กหรือไม่เวิร์กแค่ไหนอย่างไรเชื่อว่าคงมีการทบทวนกับข้อมูลที่ได้อย่างเข้มข้นอีกครั้ง

…แต่ที่แน่ๆ วิกฤตครั้งนี้บังคับให้คนในสังคมต้องหันมาใช้เทคโนโลยี และสร้างโอกาสต่อยอดให้ผู้เล่นในตลาดผ่าน “ การตลาดออนไลน์” กลยุทธ์ที่พลิกโอกาสธุรกิจอสังหาฯ ยุค Health Crisis ซึ่งผู้บริโภคจะเกิดความคุ้นเคยและเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้เทคโนโลยีอย่างถาวรมากขึ้น… นั่นคือ ร่องรอยที่เห็นได้ชัดเจนในวงการตลาดอสังหาฯเมืองไทยตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงมีนาคมตลอดทั้งเดือนหรือกว่า 1 เดือนที่เกิดจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เป็นเสมือนฝันร้ายของทั้งเศรษฐกิจโลก? และเศรษฐกิจไทย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*