การเคหะแห่งชาติ เล็งออก Social Bond หวังระดมทุน 6,900 ล้านบาท หวังสร้างบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย พร้อมหาทางออกหลังยอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่งถึง 70% เดินหน้าลุยก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 จำนวน 1,247 หน่วยวางศิลาฤษ์ในเดือนเมษายน ปี 2563

 

นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ หรือ กคช.ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่าขณะนี้กคช.อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการออกพันธบัตรเพื่อพัฒนาสังคม หรือ Social Bond วงเงิน 6,900 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อนำเงินมาดำเนินการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย และ เพื่อนำเงินมาปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนผ่านโครงการเช่าซื้อ โดยคาดว่าจะสามารถออกพันธบัตรเพื่อพัฒนาสังคมได้ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากคช.เผชิญกับปัญหายอดปฎิเสธสินเชื่อจากธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)พุ่งขึ้นสูงถึง 70% จากการก่อนหน้านี้จะมียอดปฎิเสการขอสินเชื่ออยู่ที่ 30-50%  โดยมีสาเหตุมาจากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้ออกมาตรการ LTV (Loan to Value: LTV ratio)ประกอบกับได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่ของกคช.เองที่เดิมจะการันตีรับซื้อคืนหนี้คืนภายใน 5 ปีกรณีลูกหนี้มีปัญหาหนี้เสียซึ่งกคช.ได้เปิดวงเงินโอดี กับธอส.2,000 ล้านบาท และเงินจากกคช.อีก 2,000 ล้านบาท

นายธัชพล กาญจนกูล

“เราแก้ปัญหาด้วยการให้ลูกค้าเปลี่ยนมาเป็นเช่าซื้อและผ่อนกับกคช.ไปสัก 2-3 ปีแล้วค่อยส่งต่อสู่ระบบขอสินเชื่อกับธนาคาร ที่ผ่านมาเราเคยของบอุดหนุนจากรัฐบาลกว่า 5,000 ล้านบาทเพื่อมาแก้ปัญหาการปฎิเสธสินเชื่อของแบงก์ แต่ได้รับอนุมัติมาเพียง 300 ล้านบาทเศษซึ่งไม่เพียงพอ”นายธัชพล  กล่าว

นายธัชพล  กล่าวด้วยว่า กคช.ดำเนินงานมาครบรอบ 47 ปี ด้วยความภาคภูมิใจในภารกิจด้านพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อยและปานกลางทั่วประเทศ นับตั้งแต่ปี 2519 จนถึงเดือนกันยายน ปี2562 รวมทั้งสิ้น จำนวน 737,151 หน่วย ประกอบด้วย โครงการบ้านเอื้ออาทร 279,977 หน่วย โครงการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด (ปรับปรุงชุมชนในที่ดินเดิมและจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่) 233,964 หน่วย โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน 168,691 หน่วย โครงการเคหะข้าราชการ 50,708 หน่วย โครงการสำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ 2,374 หน่วย โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ 845 หน่วย โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 จำนวน 334 หน่วย และโครงการแก้ไขวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ 258 หน่วย

สำหรับการดำเนินงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย กคช.เดินตามกรอบแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงสวัสดิการพื้นฐานต่างๆ ของรัฐได้เป็นอย่างดี โดยมีผลงานเด่นหลายโครงการที่สามารถตอบโจทย์ของรัฐบาลและขับเคลื่อนต่อเนื่องในปี 2563 ได้แก่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม) ระยะที่ 2 – 4 รวมทั้งสิ้น 6,212 หน่วยในเบื้องต้นจะดำเนินการก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 จำนวน 1,247 หน่วย ประกอบด้วย อาคาร A1 สูง 32 ชั้น 1 อาคาร 635 หน่วย รองรับผู้อยู่อาศัยเดิมจากแฟลตที่ 9 – 17 และแฟลตที่ 63 – 64 และอาคาร D1 สูง 35 ชั้น 1 อาคาร 612 หน่วย รองรับผู้อยู่อาศัยเดิมจากแฟลตที่ 23 – 32 ซึ่งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก.) ให้ความเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณาก่อนดำเนินการรื้อถอนอาคารแฟลตเดิม แฟลตที่ 18 – 22 โดยโครงการฯ ระยะที่ 2 จะทำพิธีวางศิลาฤษ์ในเดือนเมษายน ปี 2563 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนพฤษภาคม 2563

นอกจากนี้ กคช.ยังได้จัดสร้างโครงการอาคารเช่า เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้เช่าที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานและมีสภาพแวดล้อมที่ดี โดยในปี 2560 – 2562 คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบจัดสร้างโครงการอาคารเช่าแล้ว 11,903 หน่วย ขณะนี้บางโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง และบางโครงการอยู่ระหว่างจัดหาผู้รับจ้าง ขณะเดียวกันการเคหะแห่งชาติยังได้จัดโปรโมชั่น “เช่าทั่วไทย” บ้านเช่าราคาพิเศษให้กับประชาชน เริ่มต้นเพียง 999 บาท ซึ่งเป็น 1 ใน “ของขวัญปีใหม่ พม. สำหรับประชาชนปี 2563” โดยเปิดจองผ่านระบบออนไลน์ http://999.nha.co.th ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม – 30 มิถุนายน 2563 มีโครงการเข้าร่วม 10,000 หน่วย ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 15,451 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มกราคม 2563)

นอกจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว กคช.ยังได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยจัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2562 เห็นชอบในหลักการให้กคช.จัดทำโครงการดังกล่าว วงเงิน 5,207 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินในตลาดปกติได้ และไม่มีประวัติทางการเงินเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารการให้สินเชื่อเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยปีงบประมาณ 2563 สำนักงบประมาณได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กคช.จำนวน 346 ล้านบาท และคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อโครงการสินเชื่อฯ ได้ไม่น้อยกว่า 80 % ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ

ขณะเดียวกันกคช.ยังให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุตามนโยบายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยจะดำเนินการจัดสร้าง โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 4 มุมเมือง (กรุงเทพฯ และปริมณฑล)  พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ โดยการเคหะแห่งชาติจะพัฒนาโครงการเอง หรือร่วมดำเนินการกับภาคเอกชน (Joint Operation) ซึ่งได้พิจารณาพื้นที่เป้าหมาย 4 พื้นที่ ได้แก่ โครงการบ้านกตัญญูคลองหลวง 1 และ 2 จังหวัดปทุมธานี 360 หน่วย โครงการบ้านผู้สูงอายุ จังหวัดนครปฐม (ทุ่งกระพังโหม) จำนวน 210 หน่วย โครงการบ้านผู้สูงอายุ สุวินทวงศ์ กรุงเทพฯ จำนวน 30 หน่วย และโครงการบ้านผู้สูงอายุ จังหวัดสมุทราปราการ (บ้านคลองสวน) จำนวน 530 หน่วย หรือเปิดโอกาสให้เอกชนสัมปทานโครงการที่อยู่อาศัยของกคช.และนำอาคารมาปรับปรุงรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ รวมทั้งบริหารจัดการดูแลผู้สูงอายุแบบเบ็ดเสร็จ ภายใต้เงื่อนไขของกคช.กำหนดร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้อง

โครงการบ้านราคาประหยัดมาตรฐานสูง (Smart Home) เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กคช.นำนวัตกรรมการก่อสร้างที่อยู่อาศัยมาจัดสร้างบ้านที่มีคุณภาพดีเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในสังคมยุคใหม่ โดยนำนวัตกรรมการก่อสร้างแบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จ หรือระบบ Precast มาใช้ เพื่อย่นระยะเวลาการก่อสร้างให้เร็วขึ้น ช่วยลดปัญหาด้านแรงงานไม่เพียงพอ และสามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ดี ซึ่งกคช.ได้ออกแบบบ้านเดี่ยวชั้นเดียวในลักษณะ Universal Design อาศัยอยู่ร่วมกันได้ทุกช่วงวัย ขนาดเนื้อที่ 20 ตารางวา มี 3 รูปแบบ ได้แก่ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 22, 28 และ 36 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ระหว่าง 350,000 – 550,000 บาท โดยจัดสร้างบ้านตัวอย่างที่บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ในวันและเวลาราชการ  ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่ที่จะดำเนินการก่อสร้างในอนาคต

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*