ออเนอร์ กรุ๊ป มั่นใจภาครัฐดันพัทยาเป็น “มหานครแห่งEEC” เดินหน้าพัฒนาอสังหาฯพื้นที่EEC ต่อเนื่อง ประกาศภายใน 3-4  ปี ผุดอีก 2 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ “โมชั่น” รวมมูลค่า 1,700 ล้านบาท ทั้งเล็งขยายฐานพื้นที่มาบตาพุด รองรับการเติบโต ล่าสุดเซ็นสัญญากลุ่ม Hilton นำแบรนด์ “ฮิลตัน การ์เด้น อินน์” บริหารโรงแรมระดับ 4 ดาว  HILTON GARDEN INN PATTAYA CITY” มั่นใจปีแรกยอด Booking สูงกว่า 70% ด้าน “วันส์ พัทยา”ยอดขายพุ่งแล้ว 50%
นายคริส เชิดสุริยา ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหาร เครือบริษัทในกลุ่มออเนอร์ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในพัทยา เปิดเผยว่า จากการผลักดันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) จะส่งผลให้ในอนาคตพัทยาจะกลายเป็น “มหานครแห่งEEC” เพราะจะกลายเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม 4.0  และการอยู่อาศัย โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ที่สัดส่วนการลงทุนกว่า 50% อยู่ในพื้นที่รอบพัทยาทั้งหมด ซึ่งพัทยาเหนือ จะถือเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญในการเดินทาง โดยในทำเลนี้ยังมีที่ดินแปลงใหญ่ของแลนด์ลอร์ดในพื้นที่อีกประมาณ 2-3 แปลงๆละประมาณ 20 ไร่ รอการพัฒนาในอนาคตอีกด้วย  ส่วนพื้นที่ในย่านนาจอมเทียน ก็ยังมีที่ดินที่อีกแปลงที่รอระยะเวลาในการขยายตัว ซึ่งส่วนใหญ่เหมาะในการพัฒนาโครงการแนวราบ

 

ขณะเดียวกันโครงการอสังหาฯของบริษัทฯก็มีการพัฒนาที่สอดรับกับEEC ทั้งที่พักอาศัยและโรงแรม และยังเดินหน้าพัฒนาโครงการในพื้นที่พัทยาและจังหวัดในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่า Disruption นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์มากนัก ดังนั้นในระยะเวลา 3-4 ปี กลุ่มออเนอร์ มีแผนที่จะพัฒนาอีกประมาณ 2 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 1,700 ล้านบาท ได้แก่

1.โครงการ “โมชั่น สุขุมวิท พัทยา” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูง ซึ่งมีแผนจะพัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ขนาด 25-50 กว่าตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.8- 4 ล้านบาทเศษ หรือเริ่มต้นที่ 80,000-90,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 251 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอความชัดเจนของการออกแบบสถานีของกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร คาดว่าจะมีความชัดเจนในต้นปี 2563 เชื่อว่าเมื่อโครงการดังกล่าวเปิดขายแล้ว จะสามารถทำสถิติปิดการขายได้ภายในระยะเวลา 1-2 เดือน

2.โครงการ“โมชั่น เซ็นทรัล พัทยา” ตั้งอยู่บริเวณพัทยากลาง บนพื้นที่ 4 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ราคาประมาณ 1.5 ล้านบาทขึ้นนไป  มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ ซึ่งคอนเซ็ปต์จะต้องมีความ Srong คาดว่าจะเปิดตัวได้ประมาณปี 2564

นอกจากนี้ในอนาคตภายในระยะ 3 ปีนี้ บริษัทฯยังสนใจที่จะพัฒนาโครงการในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง อีกด้วย เนื่องจากมองว่าเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่กำลังมีอัตราการเติบโตมาก ประชากรมีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย ซึ่งบริษัทฯสามารถพัฒนาได้ทั้งแนวราบและแนวสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพที่ดินที่ซื้อมา จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้

ล่าสุดได้มีการเซ็นสัญญากับกลุ่ม Hilton ในการนำแบรนด์ “ฮิลตัน การ์เด้น อินน์” (HILTON GARDEN INN) มาบริหารโรงแรมระดับ 4 ดาว  HILTON GARDEN INN PATTAYA CITY”บนพื้นที่ 2 ไร่ จากทั้งหมด 4 ไร่ ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวคอนโดมิเนียม “วันส์ พัทยา” (ONCE PATTAYA) ไปแล้ว  ทั้งนี้โรงแรมดังกล่าวพัฒนาในนามบริษัท ออเนอร์ นอร์ท พัทยา จำกัด สูง 30 ชั้น จำนวน 320 ห้องพัก ราคา 2,900-7,000 บาท/คืน โดยใช้เม็ดเงินในการลงทุนประมาณกว่า 1,100 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2565 โดยในปีแรกคาดว่าจะมีอัตราการเข้าพัก (Booking)กว่า 70%

“แม้ว่าเราจะมีประสบการณ์ในการพัฒนาโรงแรมในพัทยามา 3 แห่งแล้ว แต่เพื่อต้องการยกระดับสินค้าให้สู่มาตรฐานสากล จึงได้ดึงกลุ่ม Hilton นำแบรนด์ “ฮิลตัน การ์เด้น อินน์” (HILTON GARDEN INN) มาบริหารโรงแรมระดับ 4 ดาว  “HILTON GARDEN INN PATTAYA CITY” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสของเรา และในอนาคตหากจะมีการพัฒนาโรงแรมต่อเนื่อง จะใช้เชนบริหารอีกหรือไม่คงต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง” นายคริส กล่าว

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “วันส์ พัทยา” (ONCE PATTAYA) ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ จากทั้งหมด 4 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น 1 อาคาร มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.00-59.80 ตารางเมตร มีให้เลือก 4 รูปแบบ ด้วยการออกแบบฟังก์ชั่นใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงาม รองรับการอยู่อาศัยทั้งระยะสั้น และระยะยาว ประกอบด้วย

  • ห้องแบบ Studio ขนาด 28.00-28.60 ตารางเมตร
  • ห้องแบบ 1 Bedroom + 1 Bathroom  ขนาด 34.00-34.80 ตารางเมตร
  • ห้องแบบ 2 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 51.80 ตารางเมตร
  • ห้องแบบ 2 Bedroom + 2 Bathroom ขนาด 58.50-59.80 ตารางเมตร

ราคาขายเริ่มที่ 2.85-22 ล้านบาท  จำนวน 427 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท กำหนดเงินดาวน์ 20% สำหรับลูกค้าคนไทย ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติกำหนดเงินดาวน์ 50% โดยได้เริ่มพรีเซลไปเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้ว 50 % ซึ่งเป็นลูกค้าคนไทยประมาณกว่า 70% และต่างชาติกว่า 20% ส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย รองลงมาเป็น เกาหลี,เวียดนาม และไต้หวัน เป็นต้น  คาดว่าจนถึงปลายปี 2562 จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 80% ด้านการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 4/2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2/2565

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*