BC  พร็อพเพอร์ตี้เอเจนท์ เครือ เอพี ไทยแลนด์ ปรับแผนธุรกิจผ่านแพลทฟอร์มแบบ real time พร้อมผนึกกำลังกับ 10 พันธมิตรมุ่งสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับสินทรัพย์อสังหาฯ ตั้งเป้าปีหน้าเติบโต 20 %

 

นายขยล ตันติชาติวัฒน์  ผู้อำนวยการ บริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด หรือ BC พร็อพเพอร์ตี้อเจนท์เครือ เอพี ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ตลอด 14 ปีที่ดำเนินธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้อเจนท์ บริษัทฯมีมูลค่าทรัพย์สินรวมแล้วกว่า 140,000 ล้านบาท รวมจำนวนกว่า 20,000 ยูนิตมีความหลากหลายตั้งแต่ระดับลักชัวรี่ ซูเปอร์-ลักซ์ จนถึง อัลตร้า-ลักซ์ ครอบคลุมทุกทำเลของเมือง ระดับราคาขายตั้งแต่ 80,000-301,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ขึ้นไป ในจำนวนดังกล่าวเป็น พร็อพเพอร์ตี้ของเอพี ไทยแลนด์ประมาณ 25 % ส่วนที่เหลืออีก 75 % เป็นพร็อพเพอร์ตี้จากผู้ประกอบการรายอื่นๆ

ทั้งนี้บริษัทฯมีเป้าหมายที่นำพา BC ไปสู่การเป็นพร็อพเพอร์ตี้ เอเจนท์หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่พร้อมให้บริการครบวงจรในที่เดียว (THE 1st DIGITAL PROPERTY AGENT ECOSYSTEM) และเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก ในการบริหารจัดการ การซื้อ ขาย ปล่อยเช่า ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนผ่านดิจิตอลแพลทฟอร์มแบบ real time พร้อมผนึกกำลังกับ 10 พันธมิตรทั้งไทย และต่างชาติ มุ่งสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ ประกอบด้วย

1). ONLINE CENTRALIZATION – เป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลอสังหาฯ ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อผู้ซื้อ-ผู้ขาย-ผู้เช่า เข้ากับระบบสินทรัพย์ที่ BC บริหารจัดการอยู่ทุกรูปแบบ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม มูลค่าสินทรัพย์รวมแล้วกว่า 144,000 ล้านบาท ผ่าน BC Intelligent Platform ที่แสดงผลอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในรูปแบบ 7 ทำเลเด่นทั่วกรุงเทพฯ เพื่อง่ายต่อการค้นหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่ต้องการ รวมถึงฟังก์ชั่น BC Membership Dashboard ที่เอื้อให้ผู้ฝากขาย-ฝากเช่า สามารถบริหารจัดการพอร์ตสินทรัพย์ด้วยตนเองได้แบบ real time

2).THE POWER OF ONLINE NETWORKING – สร้างโอกาสทางธุรกิจและผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับสินทรัพย์ทุกรายการที่ใช้บริการผ่าน BC ด้วยการผสานกำลังกับ 10 พันธมิตรดิจิตอลแพลทฟอร์มอสังหาฯ ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างคอมมูนิตี้ของการซื้อขายเช่า อสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อมต่อข้อมูลทั้งไทย เอเชีย และยุโรป เข้าไว้ด้วยกัน โดยตั้งเป้า ณ สิ้นปี 2019 สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของ BC ผ่านระบบดิจิตอลจะเข้าถึงลูกค้าไม่ต่ำกว่า 96 ล้านวิว/เดือน และมีการคลิกเพื่อเข้าดูข้อมูลต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 4.8 ล้านคลิก/เดือน

3).PROPERTY CONSULTANT ON CLOUD – เครื่องมือที่รวบรวมข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ ขาย ปล่อยเช่า หรือลงทุนไว้ในที่เดียว และคอยนำเสนอ ชี้เทรนด์ตลาดอสังหาฯ ในกลุ่มที่ลูกค้าสนใจอย่างละเอียด

นายขยล กล่าวว่า การยกระดับทิศทางการดำเนินงานครั้งนี้ เพื่อให้ BC เป็นพร็อพเพอร์ตี้ เอเจนท์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ที่ส่งมอบสิทธิประโยชน์สูงสุด ที่ตอบรับกับความต้องการของลูกค้า ผ่าน 3 มิติสำคัญ คือ

  • ศูนย์กลางการเชื่อมต่อฐานข้อมูลอสังหาที่ครบ จบ ในที่เดียว รวบรวมพอร์ตสินค้าไว้อย่างเป็นระบบ ช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ของตนเองได้แบบ real time ให้ผู้ใช้มั่นใจว่า สินทรัพย์ด้านอสังหาฯ ที่อยู่ในการดูแลของ BC จะเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง
  • แตกต่างด้วยการผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมชี้โอกาสและการลงทุนด้วยผลลัพธ์ที่มากกว่า
  • ประตูสู่การลงทุนอสังหาของวันนี้และอนาคต ด้วยเครือข่ายพันธมิตรที่พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจWและผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับสินทรัพย์ทุกรายการที่ใช้บริการผ่าน BC

“เราปรับแผนเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และรองรับการเติบโตของบริษัทฯในปี 2563 ที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 20 %” นายขยล พร้อมระบุว่า ปี 2562 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 15,000ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปีทำได้กว่า 6,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าในประเทศประมาณ 75 % ที่เหลือ 25 % เป็นต่างชาติ  ส่วนผลกระทบเชิงลบหลังจากมาตรการ LTV (Loan to Value) ที่ได้เริ่มใช้กันวันที่ 1 เมษายน 2562 ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อกลุ่มลุกค้าที่ซื้อลงทุน แต่สำหรับกลุ่มเรียลดีมานด์นั้นมีมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มตลาดรีเซลในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมนั้น นายขยล กล่าวด้วยว่า ยังมีโอกาสอยู่มาก ในทำเลใจกลางเมือง ด้วยปัจจัยราคาที่ดินที่ยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีให้ตลาดรีเซลกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ยกตัวอย่างดาต้าสินค้าคอนโดมิเนียมในโซนเพลินจิต-ชิดลม ซึ่งหากดูข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีจะเห็นช่องว่างราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร ระหว่างคอนโดมิเนียมใหม่กับรีเซลคอนโดมิเนียมในโซนเพลินจิต-ชิดลมมีความแตกต่างกันเฉลี่ยประมาณ 40% หากพิจารณาถึงผลกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์ (Capital Gain) สินค้าในกลุ่มลักชัวรี่ ราคาขายประมาณ 150,000-200,000 บาท ต่อ ตร.ม. มีผลกำไรเฉลี่ยที่โตถึง 5.92% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของสินค้ารีเซลได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ BC ให้บริการครอบคลุมทุกเรื่องด้านอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การดำเนินงาน 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1) Resale Business ธุรกิจรีเซล บริการรับฝากขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ BC มูลค่าประมาณ (Property Value) 140,000 ล้านบาท 2) Rental Business ธุรกิจรับฝากเช่าและสรรหาผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยมีมูลค่าค่าเช่ารวมไม่ต่ำกว่า (Rental Value) 3,900 ล้านบาทต่อปี และสุดท้ายกับ 3) Exclusive Sole Agent ธุรกิจการเป็นตัวแทนขายสินค้าใหม่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*