จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตสูงถึง 14,383,348 ล้านคน  เพิ่มขึ้นจากในปี 2561 ที่ประมาณ 14,012,863 ประมาณ  2.64% และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกกว่า 477,324.35  ล้านบาท จำแนกเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึงกว่า 10,328,952  ล้านคน และสำหรับในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตแล้วกว่า 6,142,789 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.4% จากในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า จำแนกเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 4,460,126 ล้านคน ซึ่งยังคงเพิ่มขึ้นจากในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 60,772 คน คิดเป็น 1.38% สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมากว่า 187,723.1 ล้านบาท และจากการเปิดตัวของเมกะโปรเจคขนาดใหญ่จากบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ที่เปิดตัวโครงการ เซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ต เฟส 3 ในช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 20,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 136 ไร่ มีพื้นที่โครงการมากถึง 400,000 ตารางเมตร หรือ ตร.ม.

บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ยังมีอีก1 โปรเจคที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในเกาะภูเก็ต เป็นศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ ภายใต้ชื่อว่า ปอร์โต เดอ ภูเก็ต  ( Porto de Phuket ) บนพื้นที่รวม 50 ไร่ มีพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์การค้ารูปแบบใหม่แห่งหลังและแห่งเดียวที่ผสมผสานดีไซน์ ไลฟ์สไตล์ รีเทลและพื้นที่ธรรมชาติอย่างลงตัวในรูปแบบโอเพ่นแอร์ ทำเล ของโครงการตั้งอยู่ในตำบลเชิงทะเลอยู่ใกล้ ลากูน่า ภูเก็ต แหล่งที่พักอาศัยระดับไฮเอนท์อันดับ 1 ของจังหวัดภูเก็ต โดยจะเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวสไตล์ FIT (Free and Independent Traveler) , นักท่องเที่ยวจากชาติตะวันตกที่มีกำลังซื้อสูง (Western High Spenders) และประชากรที่อาศัยอยู่บริเวณศูนย์การค้าปอร์โต เดอ ภูเก็ต โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณปีปลายปี 2562

นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงการ บลู เพิร์ล ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ของ บริษัท เดอะ มอลล์ กรุ๊ป มีขนาดเนื้อที่รวมประมาณ 150 ไร่ พื้นที่ทั้งหมดของโครงการอยู่ที่ 650,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนราวๆ 10,000 ล้านบาท นอกจากนี่ ยังมีการพัฒนา โครงการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตเฟส 3 ของ  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มูลค่าลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท เพื่อ ขยายการรองรับผู้โดยสารสูงสุด 25 ล้านคน/ปี

ผลจากการลงทุนในโครงการต่างๆข้างต้นนั้น นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ได้ส่งผลให้โครงการคอนโดมิเนียมบริเวณโดยรอบได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการที่เตรียมจะพัฒนาโครงการใหม่บริเวณรอบๆ และจากกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก  และอานิสงค์จากการเติบโตของการท่องเที่ยวและแผนการพัฒนาโครงการพื้นที่ฐานอีกหลายโครงการจากภาครัฐในภูเก็ตที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 1-2 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำหรับตลาดคอนโดมิเนียม ณ เดือน พฤษภาคม ปี2562 มีแนวโน้นที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันปิดการขายไปแล้วกว่า 70.8% จากหน่วยที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด และยังคงมีกลุ่มนักลงทุนจากต่างชาติสนใจลงทุนคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ต และมีการซื้อแบบเหมาอาคารจากลงทุนต่างชาติในช่วงที่ผ่านมา ทั้งจาก ฝรั่งเศส จีน และ ยูเครน

จากข้อมูลตัวเลขอุปทานคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในแต่ละปีในจังหวัดภูเก็ต พบว่าในช่วงปี 2555 – 2556 มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2555 มีอุปทานเปิดขายใหม่สูงถึง 6,429 หน่วย และปี 2556  อีกประมาณ 5,545 หน่วย เนื่องจากในช่วง 2 ปีดังกล่าวมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากกรุงเทพมหานครเข้าไปพัฒนาคอนโดมิเนียมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตกันเป็นจำนวนมาก ทั้ง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น แต่หลังจากปี 2556 เป็นต้นมา

คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในแต่ละปีในจังหวัดภูเก็ตมีเพียงแค่ปีละ 2,000 -3,000 ยูนิตต่อปี เท่านั้น แต่พบว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 ที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตแล้วมากกว่า 10 โครงการ ประมาณ 2,742 หน่วย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก บวกกับโครงการการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนในท้องถิ่นซึ่งจะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญให้ตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตมีแนวโน้มมีดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 นี้จะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในจังหวัดภูเก็ตอีกกว่า 3,500 ยูนิต

ณ เดือน พฤษภาคม ปี 2562 คอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดภูเก็ต มีทั้งสิ้นประมาณ 97 โครงการ 19,767 หน่วย  มูลค่าการพัฒนารวมกกว่า 69,000 ล้านบาท โดยอำเภอถลางเป็นพื้นที่ที่มีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 7,220 หน่วย หรือประมาณ 36.5% ของคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด รองลงมา คือ อำเภอกะทู้ 6,525 หน่วย หรือประมาณ 33% และอำเภอเมืองภูเก็ต 6,022 หน่วย หรือประมาณ 30.5%  ซึ่งจากการเข้ามาพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ต เฟสใหม่ เมกะโปรเจค มูลค่าการลงทุน 20,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 136 ไร่ พื้นที่โครงการประมาณ 300,000 ตารางเมตร จาก  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN  เป็นการขยายการลงทุนต่อจากเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต โดยเพิ่มโรงแรมระดับพรีเมียม ศูนย์ประชุมนานาชาติ และแอทแทรคชั่น ใน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) เดอะ มิสทีค ฟอร์เรสต์ (The Mystic Forest)  2) อะควาเรีย (Aquaria) เป็นการร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียเพื่อสร้างโลกใต้ทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึง อะควาสเคป (Aqua Scape) สถานที่จัดแสดงพรรณไม้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก 3) เทลส์ ออฟ ไทยแลนด์ (Tales of Thailand) ย่านตลาดน้ำและของดีจากทั่วทุกภาค  ซึ่งส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตยังเป็นอีกพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากทั้งผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

อนโดมิเนียมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ณ เดือนพฤษภาคม ปี 2562  พบว่า จากจำนวนคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมดประมาณ  19,767 หน่วย ปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 14,000 หน่วย หรือประมาณ 70.8% เหลือขายอยู่ในตลาดประมาณ 5,767 หน่วย หรือประมาณ 29.2% จากข้อมูลจะเห็นว่า หน่วยเหลือขายคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องและลดลงมากที่สุดในปี2559 ที่เหลือขายในตลาดเพียง 3,034 หน่วย แต่ในช่วงปี 2561 – พฤษภาคม ปี 2562 ที่ผ่านมามีโครงการคอนโดมิเนียมกว่า 7,800 ยูนิตที่เปิดขายใหม่ในตลาดคอนโดมิเนียมภูเก็ต จึงทำให้หน่วยเหลือขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี2561 ที่ผ่านมา แต่จะพบว่า ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต จะมีอัตราการขายที่สูงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 83% เนื่องจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขายส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เปิดขายมานานแล้ว

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในจังหวัดภูเก็ตที่มีอัตราการเติบโตมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการใช้จ่ายของภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยวที่ชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจด้านการบริการ และการบริโภคของเอกชนปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ทั้งปัจจัยเกื้อหนุนด้านจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากขึ้น รวมถึงนโยบายการพัฒนาเมืองภูเก็ต เฟส 3 เช่น โครงการภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้, การพัฒนารถไฟฟ้ารางเบา LRT ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2565 ตลอดจนแผนการขยายท่าเรือน้ำลึก เพื่อให้รองรับเรือโดยสารระหว่างประเทศและเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ และแผนการแก้ปัญหาการจราจรด้วยการสร้างอุโมงค์ รองรับการขยายตัวของเมืองภูเก็ตในอนาคต ซึ่งจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าจึงทำให้โครงการคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

คอนโดฯ 3-5 ล้านบาทขายดีสุด / กลุ่มลูกค้าจากจีน-ฝรั่งเศสนิยมซื้อยกตึก

โครงการคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตที่ขายดีที่สุดอยู่ในช่วงระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท รองลงมาคือในช่วงราคา 1-2 ล้านบาท  ซึ่งส่วนใหญ่โครงการคอนโดมิเนียมที่ในช่วงระดับราคา 1-2 ล้านบาท จะเป็นคอนโดใจกลางเมืองที่เปิดขายมาในช่วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา และยังเหลือขายอยู่ในตลาด และจากข้อมูลยังพบว่า โครงการคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตที่อยู่ในช่วงระดับราคา 5 – 7.5 ล้านบาท และเกิน 10 ล้านบาท ก็เป็นอีกช่วงราคาที่ค่อนข้างขายดีโดยโครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เปิดขายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก หากมองที่ราคาขายต่อตารางเมตรจะพบว่าราคาในช่วง 80,000 -130, 000 บาทต่อตารางเมตร  เป็นช่วงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของโครงการคอนโดมิเนียมภูเก็ต

โดยทำเลที่ขายดีส่วนใหญ่จะอยู่ใน หาดสุรินทร์ กมลา บางเทา ในหาญ ราไวย์ และบริเวณโดยรอบศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ถือว่าเป็นทำเลที่โดดเด่นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาของตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ต โดยโครงการทั้ง 6 ทำเลดังกล่าวเน้นการขายแบบการรันตีค่าเช่าโดยมีทั้ง 5% 3 ปี และ 7% 3 ปี แตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่ทุกโครงการ มียอดขายในส่วนของต่างชาติ 49% ค่อนข้างจะเต็มทุกโครงการ แต่หากมีลูกค้าชาวต่างชาติสนใจเพิ่มเติมก็จะขายแบบเช่าระยะยาวแบบ 30 + 30 + 30 ปี  เพื่อเป็นการเปิดโอกาสการขายที่เพิ่มขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาพบว่า  มีกลุ่มลูกค้าจากจีนและฝรั่งเศสเป็นจำนวนมากที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตแบบยกตึก โดยเฉพาะในคอนโดมิเนียมในใกล้ชายหาดในทำเล ราไวย์ ในหาญ บางเทา และกมลา

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตนั้นมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของการท่องเที่ยว ที่มีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยคาดการณ์ว่าในปี 2561 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตมากกว่า 13 ล้านคน  โดยข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ณ เดือน ธันวาคม ปี 2560 ที่ผ่านมา  จังหวัดภูเก็ตสร้างรายได้จากจำนวนผู้เข้าพักแรมชาวไทยมูลค่า 5,686 ล้านบาท และสร้างรายได้จากจำนวนผู้เข้าพักแรมต่างชาติ มูลค่า 42,757 ล้านบาท  โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ เช่น จีน รัสเซีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออก เป็นต้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*