ผู้บริหารสขภัณฑ์ “โตโต้”เชื่อรัฐบาลไทยหนุนบริษัทข้ามชาติลงทุนต่อเนื่อง รับตลาดสุขภัณฑ์แข่งดุ เผยแผนปี60 เร่งขยายฐานลูกค้ารุกผุดโชว์รูมในกทม.-ตจว. พร้อมอัดงบประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมากขึ้น ฟุ้งอนาคตยอดขายติดอันดับ1ใน10 ของโลก ปีนี้ตั้งเป้าโต30%

An image

นายฮิโรยูกิ ซูซูกิ ประธาน บริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ “โตโต้”กล่าวถึงแนวโน้มตลาดสุขภัณฑ์ในปี 2560 ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น โดยศักยภาพของประเทศไทยน่าจะผลักดันให้เกิดการขยายตัวได้อีกมาก แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2559ที่ผ่านมาจะไม่ดีนัก แต่ตนเชื่อว่าในด้านธุรกิจของโตโต้แล้ว จะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ประกอบกับรัฐบาลไทยยังคงให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนของบริษัทข้ามชาติ ทำให้บริษัท โตโต้ฯ สนใจที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และจากการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีในอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้ผลิตภัณฑ์ของโตโต้จะได้รับการตอบรับจากตลาดไทยตามเป้าหมายที่วางไว้

 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตลาดสุขภัณฑ์ในประเทศไทยมีการแข่งขันมาก และทำการตลาดได้ยาก ประกอบกับบริษัทฯเข้ามาทำตลาดในประเทศช้ากว่าผู้ประกอบการรายอื่น โดยเข้ามาได้เพียง 3 ปีเท่านั้น ผู้บริโภคจึงไม่ค่อยรับรู้แบรนด์โตโต้มากนัก จะรู้จักแต่ในกลุ่มผู้ประกอบการและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง  โดยที่ผ่านมาสินค้าของบริษัทฯจะเป็นการจำหน่ายใน 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มสุขภัณฑ์ สัดส่วน 50% และกลุ่มก๊อกน้ำ สัดส่วน 50% โดยจำหน่ายผ่านผู้ประกอบการสัดส่วน 40% และจำหน่ายกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปผ่านดีลเลอร์ สัดส่วน 60%

An image

สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทในปี2560 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่าประมาณ 20% ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการสร้างอัตราเติบโต โดยสามารถทำได้ระดับ 30% จากเป้าที่วางไว้ 20% และในปีนี้ ได้เพิ่มเป้าหมายการเติบโตมาอยู่ที่ระดับ 30% โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นในพื้นที่กรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัด 30% ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าจากโครงการอสังหาริมทรัพย์สัดส่วนถึง 40% ปัจจุบัน โตโต้ มีส่วนแบ่งตลาดด้วยตัวเลขหลักเดียว ทั้งนี้ ทางโตโต้ ยังเดินหน้าตามแผนระยะสั้น ตั้งแต่ปี 2558 ไปสิ้นสุดปี 2562 ให้ติดอันดับ 1ใน 3 แบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคคนไทย

 

บริษัทยังคงดำเนินนโยบายเชิงรุกสำหรับการทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจะเร่งขยายฐานตลาดในประเทศทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะเน้นกลุ่มตลาดระดับกลาง-บน ซึ่งจะมีการขยายตัวแทนจำหน่ายและเปิดโชว์รูมเพิ่ม เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า รวมทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินงานของโตโต้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก โดยที่ผ่านมาจะเน้นขายผ่านดีลเลอร์ และลูกค้าระดับไฮเอนด์ ดังนั้นในปีนี้จึงมีการให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เพื่อพัฒนาดีลเลอร์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ปัจจุบันมีดีลเลอร์ โชว์รูม 20 แห่งทั่วประเทศไทย แบ่งเป็นกทม.10 แห่ง และต่างจังหวัด 10 แห่ง (หัวเมืองท่องเที่ยวหลัก) โดยหลังจากนี้จะใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมากขึ้น จากเดิมที่มีการใช้สื่อน้อยมากต่ำกว่า 10% รวมไปถึงการเพิ่มทีมบริการหลังการขายมากขึ้น

An image

โดยที่ผ่านมาโตโต้ จากประเทศญี่ปุ่นสามารถทำยอดขายได้เป็นอันดับ1 มาโดยตลอด รองลงมาคือจีนและสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ และเชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยอาจจะก้าวขึ้นมามียอดขายขึ้นติดอันดับ 1 ใน 10 ก็เป็นได้ สำหรับในอาเซียนประเทศที่ทำยอดขายให้โตโต้อันดับ 1 คือ อินโดนีเซีย รองลงมาคือ เวียดนาม และไทย

 

ทั้งนี้ ทางบริษัทเตรียมเปิดโชว์รูมใหม่ที่อาคารจีทาวเวอร์แกรนด์พระราม 9 ขนาดพื้นที่ 700 ตารางเมตรเพื่อนำเสนอนวัตกรรมใหม่และผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัท ในวันที่ 1 มีนาคม 2560 ส่วนต่างจังหวัดจะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี , นครราชสีมา , ระยอง , พิษณุโลก และ นครศรีธรรมราช ซึ่ง 2 จังหวัดหลังมีสินค้าเกี่ยวกับสุขภัณฑ์ระดับพรีเมียมทำตลาดอยู่ ทำให้เชื่อว่าจะสามารถทำตลาดได้ ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาอยู่ 20 แห่ง

 

ในปีนี้ นอกจากขยายสาขาแล้ว ทางโตโต้ ได้เตรียมงบลงทุนด้านเครื่องจักรเพิ่ม โดยเฉพาะไลน์ผลิตเกี่ยวกับสินค้าที่มีนวัตกรรมมากขึ้น ทั้งนี้ โตโต้ มีโรงงานผลิตอยู่ที่จ.สระบุรี ที่ผลิตสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมมาตรฐานระดับโลก ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตสินค้า TOTO ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนโดยมีกำลังการผลิตสุขภัณฑ์ในปัจจุบันอยู่ที่ 500,000 ชิ้นต่อปี ส่วนสินค้าประเภทก๊อกน้ำ อ่างล้างหน้า และอ่างอาบน้ำนั้นมียอดผลิตรวม 115,000 ชิ้นต่อปี

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*