Nexter Incubator ปั้นธุรกิจสตาร์ทอัพ ตอบโจทย์คนทำบ้านตอบรับเทรนด์เปลี่ยนผ่าน “คิด สร้าง ซ่อม อยู่” สู่การต่อยอดธุรกิจใหม่ 5 ปี 4 โปรเจกต์ ตอบโจทย์คนทำบ้านยกระดับการอยู่อาศัย

จุดกำเนิดของ Nexter Incubator

นับตั้งแต่ปี 2560 ที่ “Nexter Incubator” ถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดหลักของ SCG Home Business ที่ต้องการสร้าง New S Curve เพื่อต่อยอดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เติบโตไปอย่างต่อเนื่องตามวิสัยทัศน์ Create Better Living จึงได้เริ่มก่อตั้ง “Nexter Incubator” ขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเรื่องของการทำบ้านในทุกช่วงเวลา ผ่านการศึกษาและเก็บข้อมูลจากลูกค้าสู่การต่อยอดและบ่มเพาะเกิดเป็น “ธุรกิจใหม่” ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของ “บ้าน” ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้น

“คิด สร้าง ซ่อม อยู่” โจทย์สำคัญของการพัฒนาธุรกิจ

ในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาตลาดรีโนเวทบ้านเติบโตและขยายตัวเป็นอย่างมากโดยมี 4 ตัวแปรสำคัญที่สร้างผลกระทบต่อที่อยู่อาศัย และเกิดเป็นเทรนด์ใหม่ซึ่งประกอบด้วย

1 New normal after covid-19 pandemic เทรนด์ New Normal หลัง Covid-19 ถือเป็นตัวแปรที่ส่งผลกระทบอย่างแพร่หลายและส่งผลให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไปทั้งในแง่ของพื้นที่และการใช้งาน

2 Aging Society & Healthy Living ถือเป็นเรื่องที่ปัจจุบันสังคมกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องของสุขภาพและกลุ่มผู้สูงอายุที่หลายๆธุรกิจเริ่มนำระบบหรือกระบวนการเข้ามาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตมากขึ้น

3 Environmental Concern & Energy Saving นอกเหนือจากการเป็นอยู่ที่ดีแล้วสังคมปัจจุบันยังต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมและพลังงานเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดี

4 Smart Home & Smart Living บ้านที่ถูกพัฒนาเพื่อรองรับเทคโนโลยีและความทันสมัยเพื่อความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้น

จากเทรนด์ทั้ง 4 ที่เป็นตัวแปรสำคัญทำให้ Nexter Incubator บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพขึ้นเพื่อตอบโจทย์ตลาดและการขยายตัวที่เริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค

ศานิตย์ ภู่บุบผา

นายศานิตย์ ภู่บุบผา ผู้อำนวยการ เน็กซเตอร์ อินคิวเบเตอร์ เปิดเผยว่า การพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพจะเริ่มผลักดันพนักงานภายในของบริษัทให้ก่อตั้งสตาร์ทอัพขึ้นมา ผ่านการนำเสนอไอเดียที่มีความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ซึ่งทาง Nexter Incubator จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและร่วมศึกษาข้อมูลของตลาดเพื่อวิเคราะห์และพัฒนาต่อยอด เมื่อโมเดลของการพัฒนาธุรกิจนั้นชัดเจน พนักงานจะถูกแปรสถานะไปสู่เจ้าของธุรกิจ โดยมี Nexter Incubator คอยเป็นพี่เลี้ยง

“ธุรกิจสตาร์ทอัพที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนอกจากไอเดียที่ถูกนำเสนอมาแล้วยังต้องคำนึงถึงความต้องการของตลาดและความเป็นไปได้บนพื้นฐานของความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เมื่อความชัดเจนเกิดขึ้นและเริ่มเดินหน้าพัฒนาธุรกิจ Nexter Incubatorก็พร้อมบ่มเพาะและผลักดันเพื่อสร้างการเติบโต” นายศานิตย์กล่าว

โดย 5 แกนสำคัญของการผลักดันและบ่มเพาะให้เกิดธุรกิจสตาร์ทอัพขึ้นจาก“คิด สร้าง ซ่อม อยู่” ประกอบด้วย

1.Retail Experience; การพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในร้านค้าปลีก เพื่อส่งมอบประสบการณ์ในการทำบ้านที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

2.Service Solution; การพัฒนาบริการเรื่องการทำบ้าน เพื่อตอบโจทย์ “คิด สร้าง ซ่อม อยู่” ของเจ้าของบ้าน

3.Healthy Living; การพัฒนาการอยู่อาศัยที่ช่วยเสริมสร้างความสมดุลทางกาย จิต ปัญญา และสังคม

4.Smart Living; การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านการอยู่อาศัย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

5.Net Zero Living; การพัฒนานวัตกรรมสำหรับการอยู่อาศัย ที่จะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก

หลังจากที่ธุรกิจสตาร์ทอัพแข็งแรงขึ้นสู่ตลาดการเติบโตจะถูกแยก (Spin) ออกมาเฉพาะ ซึ่งมี 2 ลักษณะ ได้แก่ “Spin-in” คือ ทาง Business นำธุรกิจดังกล่าวเข้ามาอยู่ใน Core Business และ “Spin-off” คือ ทางพนักงานของ เอสซีจี จะออกไปดำเนินธุรกิจต่อด้วยตนเองในฐานะเจ้าของธุรกิจ โดยมีทาง SCG Home เป็นผู้ถือหุ้นบางส่วน สามารถระดมเงินลงทุนจากแหล่งอื่นๆ ได้เพิ่มเติม

5 ปี 4 โปรเจกต์

นายศานิตย์ เล่าว่า “ระยะเวลาผ่านไป 5 ปี ตอนนี้สำเร็จไปแล้ว 4 โปรเจ็กต์ ถือเป็นความสำเร็จขั้นหนึ่ง โดยในแต่ละปีนั้นมีไอเดียและโมเดลที่ถูกนำเสนอกว่า 20 โปรเจกต์ แต่การที่จะคลอดออกมาเป็นธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการลองผิด ลองถูก ซึ่งจะเห็นว่าโมเดลนั้นไปรอดหรือไม่ การจะผ่านขั้นตอนแต่ละขั้นตอนจึงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ดังนั้น หากเกิดธุรกิจขึ้นใหม่ปีละ 1-2 โปรเจกต์ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว” โดยที่ผ่านมาทาง Nexter Incubator มีการเปิดตัวแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ “คิด สร้าง ซ่อม อยู่” ของเจ้าของบ้านออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ

  • Design Connext (ดีไซน์ คอนเนค) แพลตฟอร์มผู้ช่วยเจ้าของบ้านเพื่อสร้างบ้านที่ตรงใจ ด้วยผู้ออกแบบที่เหมาะสม
  • SCGHOME.com แพลตฟอร์มออนไลน์ของร้าน SCG HOME (ที่ปัจจุบันถูก Spin-in เป็นที่เรียบร้อย)
  • Q-CHANG (คิวช่าง) แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจรทั่วประเทศโดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีผู้ใช้ลูกค้าใช้บริการรวมถึง 100,000 ราย สร้างรายได้กว่า 280 ล้านบาท เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดจากปีที่แล้วที่อยู่ 87 ล้านบาท อีกทั้งยังมีการศึกษาตลาดในพื้นที่อาเซียนเพิ่มเติม (อยู่ในระยะของการตัดสินใจว่าจะ Spin-in หรือ Spin-Off)
  • My Home (มาย โฮม) แอปพลิเคชันผู้ช่วยที่จะทำให้เจ้าของบ้านสามารถดูแลบ้านได้ดูดีอยู่เสมอ ช่วยตรวจสอบปัญหาบ้านก่อนบานปลาย

สุดท้ายแล้วการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยมี Nexter Incubator เป็นผู้บ่มเพาะในฐานะของพี่เลี้ยงจะสร้างการต่อยอดเพื่อเสริมแกร่งให้กับ SCG Home Ecosystem พร้อมทั้งช่วยยกระดับธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นซึ่งจะสร้างแหล่งรายได้สำคัญเพิ่มเติมจากธุรกิจเดิม หรือบางครั้งธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นอาจใหญ่กว่าธุรกิจเดิมที่เป็นธุรกิจแม่ก็มีความเป็นไปได้…

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*