ออเนอร์ กรุ๊ป เชื่อมั่นศักยภาพเมืองพัทยาเทียบชั้นเมืองท่าหลักโอซาก้าของกรุงโตเกียว เพราะมีความพร้อมด้านเมืองท่องเที่ยวและระบบสาธารณูปโภคครบ ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางเบา ท่าเทียบเรือ  สนามบิน และมอเตอร์เวย์ เดินหน้าลุยลงทุนโครงการอสังหาฯเพื่อขายและเช่าภาคตะวันออก ปักหมุดเมืองพัทยาเตรียมเปิดตัวพูลวิิลล่าหรู 75 ยูนิต ต้นปีหน้าโอนห้องชุดโครงการ วันส์ พัทยา หลังกวาดยอดขายได้แล้วกว่า 70% พร้อมลุยงานก่อสร้างโรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ พัทยา ซิตี้ เพื่อเตรียมเปิดให้บริการปี 2567

นายคริส เชิดสุริยา ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร บริษัท ออเนอร์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ทำเลย่านพัทยา ของจังหวัดชลบุรี ยังคงมีการเติบโตด้านการลงทุนและการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ประกอบการยังเชื่อมั่นในศักยภาพของทำเลที่มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน รวมถึงรัฐบาลได้ยกระดับให้เมืองชลบุรีเป็นหนึ่งในสามจังหวัดพื้นที่ EEC ที่เป็นต้นแบบด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์ ประกอบกับมีนโยบายการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆหลายโครงการมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) ซึ่งปัจจุบันได้มีการส่งมอบพื้นที่ไปแล้ว 100% สำหรับใช้ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง

นอกจากนี้ยังมีโครงการท่าเทียบเรือแหลมฉบังและโครงการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา รวมถึงโครงการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองพัทยา เช่น รถไฟรางเบา (โมโนเรล) เพื่อบริการรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยรถไฟความเร็วสูงให้เข้าสู่พื้นที่ของเมืองพัทยา และโครงการ NEO PATTAYA เพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว EEC ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนให้เมืองพัทยา ไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยว แต่จะกลายเป็น “เมืองท่า”สำคัญของกรุงเทพฯ เทียบได้กับเมืองโตเกียวที่มี “โอซาก้า” เป็นเมืองท่า

“เมืองพัทยามีความพร้อมและมีศักยภาพในหลายด้านรองรับทั้งการท่องเที่ยว อยู่อาศัย และการลงทุน เพราะเป็นเมืองเดียวในเมืองไทยที่มีทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางเบา ท่าเทียบเรือ 2ท่า สนามบิน และถนนมอเตอร์เวย์ รวมถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)เข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.จำนวนกว่า 14,000 ไร่ ในท้องที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ใช้เงินลงทุนประมาณ 1.34 ล้านล้านบาท จะส่งผลดีให้เกิดการจ้างงานใหม่ไม่น้อยกว่า 200,000 ตำแหน่ง เพราะมีระยะเวลาการพัฒนา10 ปี (ปี 2566-2575)”

ดังนั้นแผนการดำเนินงานขอบริษัทในอนาคตยังเน้นการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่เมืองพัทยา รวมทั้งศรีราชา และจังหวัดระยอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินกับเจ้าของที่ดินหลายแปลงสำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขายและปล่อยเช่า โดยโฟกัสไปที่ตลาดคอนโดมิเนียมเป็นหลัก ซึ่งในปีหน้าจะเปิดตัวโครงการใหม่ในรูปแบบพูลวิลล่าจำนวน 75 ยูนิต มูลค่า 200 ล้านบาทบนที่ดิน 8ไร่ในย่านนาจอมเทียนซอย 2 คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ

ด้านนางสาวธิดา เชิดสุริยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือออเนอร์ กรุ๊ป กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการ Mixed use บนที่ดินกว่า 4.5 ไร่ติดถนนพัทยาสาย3ว่า ขณะนี้โครงการวันส์ พัทยา (ONCE PATTAYA) ซึ่งพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น จำนวนห้องชุดรวม 427 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.4-201 ตารางเมตร ราคาขายเฉลี่ย 140,000 บาทต่อตารางเมต มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ทำยอดขายได้แล้วประมาณ 70% แบ่งเป็นลูกค้าคนไทย 50%และชาวต่างชาติ 20% ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่ 2 และซื้อเพื่อการลงทุน ส่วนงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในสิ้นปนี้และเริ่มทยอยโอนห้องชุดให้กับลูกค้าได้ภายในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งถือว่าสร้างเสร็จเร็วกว่าแผนเดิมประมาณ 1ไตรมาส

“ในช่วงระหว่างที่ดำเนินการก่อสร้างคอนโดฯ ONCE PATTAYA บริษัทได้มีการปรับรูปแบบของห้องชุดให้ตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้วยการคอนเนคพื้นที่ห้องชุด2ยูนิตรวมกันเพื่อให้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้นขนาด 51-60 ตารางเมตรแบบ 1-2 ห้องนอน ทำให้จำนวนห้องชุดในโครงการลดลงเหลือ 400 ยูนิตจากเดิมมีทั้งหมด 427 ยูนิต รวมทั้งได้คัดสรรวัสดุก่อสร้างและนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับลูกบ้านอาทิ ผนังห้องที่มีความหนา 15 เซนติเมตร ใช้ระบบสแกนใบหน้าสำหรับเข้า-ออกอาคาร รวมถึงระบบสแกนทะเบียนรถในการเข้า-ออกโครงการ พร้อมติดตั้งเครื่องชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าด้วย”

ส่วนความคืบหน้าของโรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ พัทยา ซิตี้ (HILTON GARDEN INN PATTAYA CITY) ขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้วและได้เริ่มงานก่อสร้างในส่วนที่เป็นฐานรากแล้ว มีมูลค่าก่อสร้างประมาณ 1,500 ล้านบาท เป็นอาคารสูง 29 ชั้นขนาด 300 ห้อง พร้อมร้านค้าปลีก 6 ร้าน ขนาดพื้นที่รวม 28,000 ตร.ม.มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*