พื้นที่ CBD (Central Business District) คือย่านศูนย์กลางธุรกิจที่เต็มไปด้วยกิจกรรมทางสังคมทั้งในแง่ของการใช้ชีวิต การอยู่อาศัย ศูนย์กลางของแหล่งงาน ศูนย์รวมการค้า การคมนาคมที่ให้บริการสมบูรณ์พร้อม โดยกรุงเทพมหานครมีพื้นที่เพียง 1 % เท่านั้น ขณะที่มีพื้นที่สำนักงานรวมกันมากถึง 40% ของทั้งกรุงเทพฯหรือประมาณ 3.8 ล้านตารางเมตรจากพื้นที่ทั้งหมดของสำนักงานในกรุงเทพฯ คือ 9.3 ล้านตารางเมตร ซึ่งพื้นที่ CBD ในปัจจุบันคงไม่มีการขยายขอบเขตหรือพื้นที่ออกไปมากกว่านี้ เพียงแต่จะมีทำเลที่เป็นพื้นที่ CBD ย่อยๆ เกิดขึ้นกระจายอยู่ในหลายทำเลมากขึ้น เพราะปัจจุบันนั้นคงไม่มีทำเลใดมาทดแทนหรือมีทำเลใดที่จะมีพื้นที่สำนักงานมากกว่าพื้นที่ CBD อย่าง “สาทร-สีลม” ในอีกหลายปีข้างหน้า เนื่องจากความเป็น CBD นั้น วัดกันที่พื้นที่สำนักงาน

ความเป็นพื้นที่ CBD ของ “สาทร-สีลม” นั้นชัดเจนมาตั้งแต่ในอดีต จะเห็นได้จากอาคารสำนักงานในพื้นที่ ความหลากหลายของอาคารหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ โดยเริ่มตั้งแต่ตามแนวถนนสาทรรวมทั้งแยกต่างๆ และเชื่อมต่อกับถนนสีลม สุรวงศ์ ไปจนถึงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเกือบทุกประเภท ตั้งแต่พื้นที่ค้าปลีกหลากหลายรูปแบบที่ไม่ไกลออกไปจากพื้นที่นี้ โรงแรมระดับ 5 ดาว อาคารสำนักงานเกรด A ขนาดใหญ่ซึ่งมีบริษัทขนาดใหญ่ของต่างประเทศหลายบริษัทเลือกทำเลแห่งนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานด้วยเช่นกัน รวมไปถึงโครงการมิส์ยูสขนาดใหญ่อย่าที่กำลังก่อสร้างทั้ง พาร์คสีลม ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และ วันแบงคอก เป็นต้น ที่อยู่ไม่ไกลออกไปจากพื้นที่แห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นแนวเส้นทางพาดผ่านของรถไฟฟ้า BTS สายสีลม ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางและทำให้ย่าน “สาทร-สีลม” เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด และเป็นหนึ่งในทำเลที่ติด 5 อันดับราคาที่ดินสูงสุดในประเทศไทย

โครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ “สาทรสีลม” หรือในพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่ล้วนเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับราคาค่อนข้างสูงทุกโครงการ อาจจะสามารถพูดได้ว่าเป็นโครงการระดับ Luxury ได้เลย ซึ่งมีอัตราการขายสูงเช่นกันและมีบางโครงการเป็น Branded Residence ด้วยแต่ก็ยังเป็นระดับ Luxury ที่ไม่ได้มีความพิเศษหรือแตกต่างกับโครงการระดับ Luxury ในทำเลหรือพื้นที่อื่นๆ เพราะรูปแบบโครงการ รูปแบบของอาคารยังไม่ได้แตกต่างจากโครงการอื่นๆ มากนัก มีเพียงอาคารคิงเพาเวอร์ มหานครเท่านั้นที่รูปแบบของอาคารโดดเด่นมีความเป็นเอกลักษณ์

ภายในอาคารอาคารคิงเพาเวอร์ มหานคร ยังมีพื้นที่ค้าปลีกในชื่อของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ที่ปรับพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ ฟรี สาขา คิง เพาเวอร์ มหานคร เป็น Concept Store ในชื่อ “เฟิร์สเตอร์ (Firster)” บนพื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ “โรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร (The Standard, Bangkok Mahanakhon)” จำนวน 155 ห้อง และส่วนของมหานครคิวบ์ ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่ค้าปลีก ร้านอาหารที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี นอกจากนี้ในส่วนของดาดฟ้ายังมี “มหานคร สกายวอล์ค” จุดชมวิวกรุงเทพมหานครบนความสูงกว่า 310 เมตรที่ชั้น 78 ถือเป็นจุดขายสำคัญ

นอกจากนี้อาคารคิงเพาเวอร์ มหานคร ยังมีส่วนของที่อยู่อาศัยหรือคอนโดมิเนียมจำนวน 209 ยูนิตตั้งอยู่ที่ชั้น 23 – 73 ของอาคาร อยู่ภายใต้ชื่อ The Ritz-Carlton Residences Bangkok เป็นคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ที่ได้แบรนด์โรงแรมระดับ Luxury ที่แท้จริงของโลกอย่าง The Ritz-Carlton เข้ามาเป็นผู้บริหารส่วนของคอนโดมิเนียม ดังนั้น ส่วนของการบริการต่างๆ และการบริหารพื้นที่ส่วนกลางของส่วนคอนโดมิเนียมชัดเจนว่าอยู่ในการกำกับดูแลของ The Ritz-Carlton

ถือเป็นคอนโดมิเนียมที่เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของส่วนต่างๆ ของโครงการแล้วสามารถพูดได้เลยว่า หาไม่ได้อีกแล้วในประเทศไทย เพราะเพียงแค่รูปแบบอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ และส่วนอื่นๆ ของอาคารเข้ามาเสริมทำให้ The Ritz-Carlton Residences Bangkok เป็นคอนโดมิเนียม Super Luxury ที่ตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่า อีกทั้งโครงการยังขายแบบกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ (Freehold) บนทำเลใจกลาง CBD ที่แทบจะหาที่ดินแบบ Freehold ได้น้อยลงในทุกวัน ซึ่งแบรนด์ The Ritz-Carlton เองก็ไม่ได้รับบริหารส่วนของที่อยู่อาศัยมากนักในประเทศไทย

เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก (The Ritz-Carlton Residences Bangkok) ได้ชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของ “มหานคร” อีกแห่งในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยมูลค่ามากถึง 18,000 ล้านบาท บนพื้นที่รวม 135,000 ตารางเมตร และอาคารแห่งนี้ก็กลายเป็นแลนด์มาร์ก (Landmark) แห่งใหม่ใจกลางย่าน CBD ของกรุงเทพฯนับตั้งแต่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดตัวในปี 2559

การันตีถึงความเอ็กซ์คลูซีฟในบรรยากาศการพักผ่อนสไตล์เพนท์เฮ้าส์ในกล่องกระจกใสขนาดใหญ่ หรือ สกายบ็อกซ์ พร้อมด้วยวิวที่สวยงามของสวนลุมพินี แม่น้ำเจ้าพระยา และอ่าวไทย ไม่ว่าจะท่านจะเข้าพักอาศัยเอง ซื้อเพื่อการลงทุน หรือเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหาความเป็นอยู่สไตล์ลักชัวรี่ในกรุงเทพฯ

โดยในช่วงนี้มีโปรโมชั่นสุดพิเศษ คือ “Hot Deal Price” ราคาพิเศษ 47.9 ล้านบาท สำหรับยูนิตขนาด 140.99 ตารางเมตร ชั้น 25 เป็นยูนิตแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 Powder Room 1 ห้องนอน Maid ซึ่งมีห้องน้ำในตัว แถมฟรี Furniture Package by Chanintr Living โดยราคานี้สิ้นสุดภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อได้ที่ Richmont’s Christie’s International Real Estate หรือ โทร +66 (0)95-532-4695

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*