แทรนดาร์ อะคูสติก ผู้นำนวัตกรรมอะคูสติก เผยผลวิจัย Sound effect on people หรือมลพิษทางเสียงสร้างปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานถดถอย สุขภาพผู้ใช้อาคารแย่ลง จับมือ”อีโคโฟน แซงโกแบ็ง” จากสวีเดน เปิดตัวแผ่นฝ้าอะคูสติกดูดซับเสียง Wอีโคโฟน โฟกัส เอฟ” เจาะตลาดอาคารสำนักงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล ชี้ผล กระทบจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลดีต่อบริษัท เพราะมีการรีโนเวทอาคารใหม่มากขึ้น รวมถึงกลุ่มที่อยู่อาศัย
กฤษดา สาธุกิจชัย

นายกฤษดา สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและที่ปรึกษาด้านอะคูสติก บริษัท แทรนดาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Trandar) เปิดเผยว่า จากข้อมูลวิจัยของ Lessman ระบุว่า เสียงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อมนุษย์ โดยเฉพาะในการทำงานออฟฟิศต่างๆ ซึ่งพบว่าผู้คนมีความพึงพอใจในสภาพแวดล้อมการทำงานเพียงแค่ 33.4% นั้น เท่ากับว่าอีก 66.6% ไม่พึงพอใจกับสภาพแวดล้อมของเสียงในที่ทำงานนอกจากนี้ยังพบว่าในกลุ่มงานที่ซับซ้อน หากทำงานในสภาพเสียงไม่ดี มีเสียงดังรบกวน จะส่งผลให้สมาธิในการทำงานลดลงถึง 50%

“เสียงรบกวนต่างๆ ในที่ทำงานส่งผลให้คนทำงานมีสมาธิหรือโฟกัสกับงานได้น้อยลง และยังส่งผลให้เกิดการลาป่วยมากขึ้น”

สะท้อนให้เห็นว่าเสียงรบกวน (Noise) เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกรำคาญและเป็นสาเหตให้สุขภาพแย่ลง เพราะโดยปกติคนต้องใช้เวลา 60% ในการมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ต่อหน้า ดังนั้นการถูกรบกวนจากเสียงทำให้ต้องใช้เวลาถึง 25นาทีถึงจะสามารถกลับมามีสมาธิอีกครั้ง และต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 8 นาทีเพื่อกลับมามีสมาธิเท่าเดิม

ทั้งนี่ผลการวิจัยดังกล่าว สะท้อนให้เห๋นว่าหากการออกแบบตกแต่งอาคารสำนักงาน และที่พักอาศัย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของเสียงที่ดีจะช่วยเพิ่มจุดขายให้กับโครงการ

ล่าสุดกลุ่มแทรนดาร์ได้จับมือกับบริษัทอีโคโฟน แซงโกแบ็ง จำกัด จากประเทศสวีเดน พัฒนาผลิตภัณฑ์อะคูสติกดูดซับเสียง (Sound absorption) คุณภาพสูง “อีโคโฟน โฟกัส เอฟ” หรือแผ่นฝ้าอะคูสติกที่ผลิตจากเส้นใยอะคูเทคคุณภาพสูง มีค่าการดูดซับเสียงสูง ช่วยลดเสียงก้อง เสียงสะท้อนภายในห้อง และลดผลกระทบของเสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญกับมนุษย์

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการกระจายแสงและสะท้อนแสงได้ดี ช่วยประหยัดพลังงานทำให้ทั้งห้องมีความสว่างทั่วถึงกัน โดยตัวแผ่นได้รับการรับรองจากองค์กร Asthma and Allergy ของประเทศสวีเดนว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ และไม่ลามไฟตามมาตรฐาน EN จากยุโรป

ทั้งนี้แผ่นฝ้าอะคูสติกอีโคโฟน โฟกัส เอฟ ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการตกแต่งภายในและวงการสถาปัตยกรรมทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักอีโคโฟน โฟกัส เอฟ จะเป็นอาคารสำนักงาน หอประชุมเอนกประสงค์ของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล โดยเฉพาะตลาดอาคารสำนักงาน บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง30%

อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ส่งผลดีให้กับสินค้าของกลุ่มแทรนดาร์ เพราะสถานศึกษาต่างๆ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติ เปลี่ยนการสอนเป็นออนไลน์ เช่นเดียวกับกลุ่มโรงแรมที่ถูกสั่งปิดการให้บริการ ทำให้มีการปรับปรุงอาคาร ห้องประชุมสัมมนาและหอประชุมมากขึ้น ขณะที่บ้านพักอาศัยก็มีการปรับฟังก์ชันการใช้งานรองรับการทำงานในบ้านมากขึ้น  เช่น มีห้องซ้อมดนตรีและสตูดิโอ หรือการเพิ่มห้องทำงานในบ้าน ดังนั้นในปีนี้บริษัทจะขยายฐานลูกค้าไปเจาะกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบ

ส่วนทิศทางการเติบโตของตลาดแผ่นฝ้าอะคูสติกในปีช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นายกฤษดากล่าวว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์อะคูสติกเติบโตขึ้นเฉลี่ย 10%ต่อปี โดยมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 1,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด15% ส่วนในปี 2565 นี้คาดว่าตลาดโดยรวมจะเติบโตขึ้น 20% แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของโควิด-19ก็ตาม แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังดำเนินต่อไป การก่อสร้างอาคารสำนักงานยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*