“แกรนด์ ยูนิตี้” พร้อมสู้ศึกอสังหาปี’65 ชูยุทธศาสตร์ Excellence in Values ส่งแบรนด์คอนโดฯน้องใหม่ ‘blue’เปิดตัว 3 โครงการมูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาท  ประเดิมโครงการแรก “บลู พหลโยธิน 35 ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท*

นางสาวทัดดาว จิระสวัสดิ์

นางสาวทัดดาว จิระสวัสดิ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (GRAND UNITY)  เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการพลิกเกมการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่จะมีการปรับเปลี่ยนและทบทวนกลยุทธ์องค์กร หรือ The Year of Optimization โดยเน้นวิสัยทัศน์ Excellence in Values ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ  Product Excellence การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ผนวกกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้  Service Excellence การดูแลลูกค้า Grand Unity Family  ที่มีทั้งบริการโฮมแคร์ หรือ Home-Friendly แจ้งรับบริการผ่าน Grand Unity Application ไปจนถึงการดูแลและบริหารจัดการอาคารโดยบริษัทเซนเซส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด  และ People Excellence การเสริมความรู้และทักษะให้กับพนักงานภายใต้แนวคิด Customer-Centric Mindset

นอกจากนี้ยังเน้นการเลือกทำเลศักยภาพในพื้นที่กรุงเทพฯที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง และพร้อมด้วยสาธารณูปโภคและระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุค New Normal และสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคมากที่สุด

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,700 ล้านบาท และเป้ารายได้ 3,500 ล้านบาท โดยมี 2 โครงการที่จะสร้างเสร็จและทยอยโอนในปีนี้ คือ ดินิม จตุจักร และอนิล สาทร 12 ส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่จะมี 3 โครงการภายใต้ “BLUE Series” แบรนด์ “blue” มูลค่าโครงการรวม 2,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ในทำเล พหลโยธิน 35,สุขุมวิท 89 และสุขุมวิท 105

ประเดิมเปิดตัวโครงการแรก บลู พหลโยธิน 35 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท มีห้องชุดจำนวน 322 ยูนิต  แบ่งเป็นอาคาร A 160 ยูนิต และอาคาร B 162 ยูนิต  มีฟังก์ชั่นห้องชุดให้เลือก 6 รูปแบบ เป็นห้องชุดแบบ 1ห้องนอนประมาณ 75% ขนาด 24-27 ตารางเมตร และแบบ 1 ห้องนอนพลัส 25% ขนาด   34– 37.50 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ fully furnished ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 75,000-100,000 บาท รองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่วัยเริ่มต้นทำงานอายุประมาณ 27-30ปี โดยกำหนดเปิดพรีเซลในวันที่ 26 – 27 กุมภาพันธ์นี้

ส่วนการออกแบบโครงการได้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยน Function ของ Space ใหม่เฟอร์นิเจอร์ Adaptive Design ซึ่งถูกออกแบบมาเฉพาะโครงการ blue เท่านั้น นอกจากนี้ยังได้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางไว้ครบครันครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 ชั้น โดยสามารถเชื่อมต่อกันตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไปถึงชั้นบน พร้อมออกแบบ Space ทางเชื่อมแบบ Sky Bridge ที่เชื่อมส่วนกลางทั้ง 2 อาคาร นอกนจากนี้ยังมี Co-Working Space, Game Room, Fitness, Yoga Room, สระว่ายน้ำ รวมไปถึง Greenery Space สวนภายใน Court และพื้นที่จอดรถทั้งโครงการรวม 40%

สำหรับโครงการตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35 ใกล้กับแยกรัชโยธิน ห่างจากจากรถไฟฟ้า BTS สถานีรัชโยธินประมาณ  1.5 กิโลเมตร และสถานีพหลโยธิน 24 ประมาณ 1.7 กิโลเมตร

นางสาวทัดดาวกล่าวเสริมว่า ทำเลย่านพหลโยธินยังมีดีมานด์เข้ามาต่อเนื่อง ทำให้อัตราการดูดซับยังไปได้ดี  แม้จะมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากเป็นย่านธุรกิจที่มีบริษัทเอกชนตั้งอยู่ในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายอาคาร ทำให้มี Traffic และการเข้าออกพื้นที่ย่านนี้ค่อนข้างสูง นอกจากนี้มีรถไฟฟ้าให้บริการเชื่อมกันหลายสาย โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ หมอชิต-คูคต ที่เชื่อมต่อตรงเข้าเมืองได้ง่าย ขณะที่ถนนสายหลัก พหลโยธิน ก็เชื่อมต่อเข้ากับย่านสำคัญได้สะดวก เช่น รัชโยธิน, วิภาวดีรงัสนิต และรัชดาภิเษก

ดังนั้นบริษัทจึงเน้นกลยุทธ์การแข่งขันกับคู่แข่งด้วยความคุ้มค่าด้านราคาให้กับลูกค้า รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่มีถึง 3 ชั้นมีครบทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องโยคะ และลู่วิ่ง เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมี Adaptive Furniture ที่ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ เช่น ชุดโซฟาในห้องนั่งเล่นสามารถกางทางด้านหลังเป็นโต๊ะทานข้าวหรือทำงานได้, Coffee Table ที่สามารถตั้งขึ้นมาเป็น Side table สำหรับวางแทบเลตหรือโนตบุ๊กได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*