บริทาเนียชี้ผลเชิงบวกจากความกังวลของการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน หนุนความต้องการซื้อบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น เพราะตอบสนองวิถีชีวิตแบบ New Normal ส่งผลให้แคมเปญ The new era of 6 เปิดตัว 6 โครงการใหม่ในไตรมาส4นี้ กวาดยอดพรีเซล 2 วันทะลุ 500 ล้านบาท

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนในไทยและอีกหลายประเทศ ส่งผลให้รัฐบาลตัดสินใจปิดระบบการรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศรายใหม่ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ถือเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อบริษัทและภาพรวมตลาดบ้านจัดสรร ทำให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฟังก์ชันการใช้งานภายในที่แบ่งแยกเป็นสัดส่วน มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางกว่าเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน

จะเห็นได้จากการการจัดแคมเปญ The new era of 6 โดยเปิดจองรอบ VVIP Day บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮมจำนวน 6 โครงการใหม่เมื่อวันที่ 18 – 19 ธันวาคมที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการคึกคักและสามารถปิดยอดขาย (พรีเซล) ในช่วง 2 วันได้กว่า 500 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษทคาดว่าภาพรวมตลาดบ้านจัดสรรในปี 2565 มีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาประเมินและวงเงินจดจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยมีผลบังคับใช้นับจากวันที่ประกาศกฎกระทรวงในราชกิจจานุเบกษา ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งจะส่งผลดีต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในกลุ่มระดับราคาดังกล่าว

โดยในปี 2565 บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่อีก 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,800 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*