แอสเสท เวิรด์ คอร์ปฯในกลุ่มเจ้าสัวเจริญ ประกาศเช่าที่ดินริมน้ำประวัติศาสตร์ “ล้ง 1919” จากตระกูล “หวั่งหลี”ระยะยาว 64 ปีเศษ ด้วยงบลงทุน 3,436 ล้านบาท ผุดบิ๊กโปรเจกต์มิกซ์ยูสรูปแบบ“The Integrated Wellness Destination” บริหารโดย The Ritz Carlton Hotel Company อนาคตหวังเชื่อม 12 ทำเลทองในเครือริมเจ้าพระยาเป็น “The River Journey” แลนด์มาร์คศูนย์สุขภาพริมน้ำในระดับสากล หวังดึงนักท่องเที่ยวคนรักสุขภาพจากทั่วโลกสู่จุดหมายปลายทาง
นางวัลลภา ไตรโสรัส
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์  คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 บริษัท เอดับบลิวซี บาย ริเวอร์ฟรอนท์ จำกัด (บริษัทย่อยที่ AWC ถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม 100%) ได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กับ บริษัท หวั่งหลี จำกัด เพื่อเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ “ล้ง 1919” ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับตลาดน้อย โดยมีเนื้อที่เช่ารวมประมาณ  8 ไร่กว่า   เป็นระยะเวลาประมาณ 64 ปีเศษ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน รวมประมาณ 3,436 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย  ค่าเช่ารวม 1,269.2 ล้านบาท และเงินลงทุนในการพัฒนาโครงการประมาณ 2,166.8 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการคุณภาพที่มีมาตรฐานใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย สร้างปรากฎการณ์ “The Integrated Wellness Destination” ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของคนรักสุขภาพดึงดูดนักท่องเที่ยวด้านสุขภาพจำนวนมากจากทั่วโลก

“การลงนามในสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับ บริษัท หวั่งหลี จำกัด ในครั้งนี้ แสดงถึงความร่วมมือของ AWC และเครือข่ายพันธมิตรในการยกระดับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทางตระกูลหวั่งหลี ผู้เป็นเจ้าของที่ดินให้ความไว้วางใจในการร่วมสร้างคุณค่าในระยะยาวร่วมกับ AWC พัฒนาสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อสร้างคุณค่าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวด้านสุขภาพระดับโลก ซึ่งจะเชื่อมโยงกับ 12 โครงการทั้งในปัจจุบันและในอนาคตของ AWC ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสอดคล้องกับแนวคิด “The River Journey” ประสบการณ์ท่องเที่ยวริมน้ำที่สำคัญของประเทศไทย โดยจะพัฒนาเป็นแลนด์มาร์คศูนย์สุขภาพริมน้ำในระดับสากล สู่จุดหมายปลายทางที่สำคัญของคนรักสุขภาพจากทั่วโลก” นางวัลลภา กล่าว

นางวัลลภา กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากที่ตั้ง “ล้ง 1919”เป็นอาคารอนุรักษ์เก่าแก่ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการวางแผนและออกแบบ โดยจะยังคงอนุรักษ์อาคารที่เป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วไว้ แต่ในส่วนของโรงแรมจะเป็นการพัฒนาอาคารใหม่ขึ้นมาก ซึ่งภายในโครงการจะมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประมาณ 100,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยโรงแรม (LHONG 1919 HOTEL) จำนวน 86 ห้องพัก เบื้องต้นประมาณราคาพักไว้ที่ 10,000 กว่าบาทต่อคืนขึ้นไป แต่หากเป็นในช่วงที่ตลาดโรงแรมมีอัตราการเติบโตสูง ราคาก็จะสูงขึ้นไปกว่านี้ และที่อยู่อาศัย(LHONG 1919 THE TOWER RESIDENCE) จำนวน 56 ยูนิต ซึ่งจะแบ่งเป็นโซน Wellness และบางส่วนจะขายลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ทั้งนี้ต้องใช้เวลาในการออกแบบอย่างน้อย 2 ปี จึงจะสามารถเปิดเผยราคาขายออกมาได้ โดยทั้งหมดจะบริหารภายใต้การดำเนินงานของ “เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน” ซึ่งจะเปิดให้บริการในได้ในปี 2569

“โครงการนี้เราคงมีจะมีคำว่า “ล้ง”ซึ่งเป็นชื่อเล่าในตำนานคงไว้เช่นเดิม และคงอาคารศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ซึ่งมีเทพ 3 องค์ไว้เช่นเดิม ถือเป็นจุดสำคัญที่ต้องอนุรักษ์ไว้ทั้งหมด ขณะเดียวกันก็ต้องมีการพัฒนาเพิ่มในส่วนของ Branded Residence  ซึ่งต้องดูฮวงจุ้ยเป็นหลักด้วย โดยการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นั้นสามารถสร้างคุณค่าศิลปวัฒนธรรม และยังได้ดูแล Wellness ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทย ซึ่งทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพของโลกได้ ” นางวัลลภา กล่าว

นายวุฒิชัย หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท หวั่งหลี จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เป็นการพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้แลนด์มาร์คประจำตระกูลที่เป็นศูนย์รวมความภาคภูมิใจของครอบครัวซึ่งมีความมั่นใจ   ในพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างแน่นแฟ้น อย่าง AWC ว่าจะมาร่วมพัฒนาให้ที่ดินผืนนี้มีคุณค่าอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป โดยมี The Ritz-Carlton พันธมิตรระดับโลกมาร่วมพัฒนาให้เป็น world-class destination จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนร่วมในฐานะพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจเพื่อการสร้างโครงการที่มีคุณภาพระดับสากลในครั้งนี้
ทั้งนี้บริษัท หวั่งหลี จำกัด ผู้ให้เช่าตกลงส่งมอบการครอบครองพื้นที่เช่าภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และจดทะเบียนการเช่า 30 ปี  (เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2598) พร้อมกับคำมั่นของผู้ให้เช่าว่าจะให้เช่าต่ออีก 30 ปี (เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2599 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2628) โดยผู้ให้เช่าตกลงไม่คิดค่าเช่าสำหรับช่วงระยะเวลาพัฒนาโครงการซึ่งนับตั้งแต่วันที่ผู้ให้เช่าส่งมอบการครอบครองพื้นที่เช่าจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*