แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่นจับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประกาศความพร้อมขานรับนโยบายเปิดประเทศของภาครัฐดินหน้าให้บริการโรงแรมในเครือ18แห่งทั่วระเทศต้อนรันักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างาติ ล่าสุดเปิดตัวโรงแรมใหม่แห่งที่ 19 ด้วยการรีโนเวรงแรมเก่า เมโทรโพลถนนถลางเมือภูเก็ต เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์”จำนวน 248 ห้อง พร้อมห้องสวีท และห้องสัมมนาอีก5ห้อง

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า กลุ่มโรงแรมของบริษัทจำนวน18แห่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จากนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ตั้งอยู่ในหัวเมืองสำคัญอย่างกรุงเทพฯและภูเก็ต ที่เปรียบเสมือนประตูด่านแรกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า รวมถึงแพ็คเกจ “Test & Rest SHA+ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยบริการที่พักพร้อมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2564 และในช่วงต้นปีหน้าจะมีกำลังซื้อจากกลุ่มนัท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงที่เริ่มเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกๆ รวมถึงการจัดงานในรูปแบบการประชุมออนไลน์ งานแต่งงาน งานสัมมนาขององค์กรและธุรกิจต่างๆ ล่าสุดตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้มียอดจอง Booking จากนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว70%

นอกจากนี้กลุ่ม AWC ยังเดินหน้าเสริมพอร์ทโฟลิโอธุรกิจโรงแรมด้วยการเปิดให้บริการโรงแรมแห่งที่19ในวันที่ 9พฤศจิกายนที่ผ่านมาย่านถนนถลาง เมืองภูเก็ต โดยใช้ชื่อว่า คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ เป็นโรงแรมขนาด 248 ห้องพักที่บริหารโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เครือโรงแรมระดับโลก

ปัจจุบันกลุ่มโรงแรมในเครือทั้ง 18 แห่งทั่วประเทศ ตั้งอยู่ใน 6 เมืองท่องเที่ยวสำคัญ คือกรุงเทพฯ กระบี่ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ และเกาะสมุย โดยมีจำนวนห้องพักรวมกันกว่า 4,941 ห้อง ซึ่งผ่านการรับรองและให้บริการตามมาตรฐานของ Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA+ รวมถึงมาตรฐานของเชนบริหารโรงแรมระดับโลก ที่ให้ความสำคัญและเข้มงวดในเรื่องความสะอาด สุขอนามัย และความปลอดภัยของแขกผู้มาใช้บริการ ทั้งในส่วนของห้องพัก ห้องอาหาร รวมถึงสระว่ายน้ำ และบริการสปาภายในโรงแรม

ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงภาพรวมและผลตอบรับหลังการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า บรรยากาศของการท่อเที่ยวเริ่มดีขึ้นหลังจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเฉลี่ย 2,000-3,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกามีจำนวนมากที่สุด รองลงมาเป็นชาวเยอรมนี อังกฤษ ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน

ขณะที่ททท.ก็ได้ทำกิจกรรมผ่านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมและมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว “Visit Thailand Year 2022” ด้วยแนวคิด “Amazing New Chapters” ของ ททท. ทั้ง 29 สำนักงานทั่วโลก

ทำให้มั่นใจว่าในปี 2564 นี้ ประเทศไทยจะสามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน และจะสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 625,700 ล้านบาท และในปี 2565 ประเมินว่าจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 1,938,034 ล้านบาท จากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ 160 ล้านคน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ 18 ล้านคน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*