แอสเซทไวส์ฯเผย โครงการ “เคฟ ทียู”สวนกระแสโควิด-19 ยอดขายดีเกินคาด ยอดโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ทะลุเป้า ส่งสัญญาณไตรมาส 3/64 แกร่ง ระบุโครงการสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มนักศึกษา และผู้ปกครอง ทำให้ผลตอบรับดีเกินคาด เผยมียอดขายรอโอนสะสมไว้แล้ว 7,600 ล้านบาท มั่นใจสนับสนุนผลงานปีนี้โตเข้าเป้า
นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่บริษัทยังคงสามารถสร้างยอดขายใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง จากการนำกลยุทธ์การขายแบบออนไลน์ รวมถึงการออกแคมเปญที่สร้างแรงจูงใจเพิ่มขึ้น ล่าสุดโครงการ “เคฟ ทียู” (Kave TU) มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดจองในช่วงที่ผ่าน ผลปรากฏว่า กระแสตอบรับดีมาก สามารถทำยอดขายได้เกินกว่า 90% ส่งผลให้บริษัทฯสามารถโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ปลายเดือนกันยายน 2564ได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ และสนับสนุนผลงานในไตรมาส 3/2564 และ ไตรมาส 4/2564 เติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โครงการ“เคฟ ทียู” (Kave TU) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร แต่งครบ จำนวน 1,016 ยูนิต ตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีพื้นที่ส่วนกลาง และ Facilities ที่จัดหนักจัดเต็มกว่า 5,800 ตารางเมตร ,ห้องทำกิจกรรมทุกรูปแบบ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้มีการเดินทางที่สะดวกสบาย และเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทาง ทั้งรถ และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (สถานีธรรมศาสตร์รังสิต )

“โครงการ “เคฟ ทียู” มียอดขายที่ดีมาก บริษัทฯสามารถโอนกรรมสิทธิเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และทำธุรกรรมการโอนกรรมสิทธิได้อย่างรวดเร็ว แม้จะยังไม่มีการเปิดภาคเรียนแบบปกติ แต่ด้วยความพิเศษของโครงการที่โดนใจ กลุ่มนักศึกษา และผู้ปกครอง รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยจัดเต็ม สร้างความเชื่อมั่นให้กับบรรดาผู้ปกครองที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยให้กับบุตรในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย ซึ่ง “เคฟ ทียู” จึงเป็นโครงการที่มีคุณภาพ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ (New Normal ) และตอกย้ำความเป็นผู้นำของ ASWในการพัฒนาคอนโดฯที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ของกลุ่มนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักได้เป็นอย่างดี” นายกรมเชษฐ์  กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงเน้นนโยบายการสร้างยอดขาย และการรับรู้รายได้ต่อเนื่องในทุกรูปแบบ ซึ่งโดยในไตรมาส 4/2564 โครงการ ” โมดิซ สุขุมวิท 50″ (Modiz Sukhumvit 50) มูลค่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอโอน(Backlog) มูลค่ากว่า 7,600 ล้านบาท ดังนั้นจึงทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ บริษัทฯยังสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 4,205 ล้านบาท

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*