ไซมิส แอสเสทฯ จับมือ “Bitkub” เดินหน้าพร้อมรับแลก 4 สกุลเงินดิจิทัล เพิ่มช่องทางความสะดวกในการเป็นเจ้าของบ้านและคอนโดฯให้กับลูกค้าในทุกโครงการ ระบุช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโต ตอบโจทย์นวัตกรรมทางการเงินสมัยใหม่ สนับสนุนการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่ม New Gen มากขึ้น คาดเริ่มเปิดให้บริการได้ภายใน 1 ..64 นี้
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือSA เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เลือก บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน และผู้ให้บริการเทคโนโลยีบล็อกเชน รวมถึงคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency)ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นบริษัทที่มีธุรกรรมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีสภาพคล่องที่สุดในประเทศไทย สำหรับวัตถุประสงค์ของการพัฒนาบริการใหม่นี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการเป็นเจ้าของบ้าน หรือโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ โดยสามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัล(Cryptocurrency) 4 สกุล ได้แก่ BUSD, Telther, DAI และ USDC ผ่าน Wallet ของ Bitkub

โดยโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าร่วมในโครงการนี้ ประกอบด้วยโครงการภายใต้แบรนด์แลนด์มาร์ค , แบรนด์รามาดา, แบรนด์วินแดม และแบรนด์บลอสซั่ม หรือทุกโครงการที่เปิดขายโดยบริษัทฯจะเปิดรับเงินสกุลดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับในตลาดโลก

“บริษัทฯเล็งเห็นโอกาสของการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการเป็นเจ้าของสินค้าและใช้บริการ โดยมองว่าปัจจุบันมีผู้สนใจในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก  ทำให้มองว่าจะเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่ม NEW GEN ที่คุ้นเคยกับการใช้เงินดิจิทัลในชีวิตประจำวัน ซึ่งปัจจุบัน Bitkub เป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล  ขณะที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการเปิดบัญชีกับ Bitkub เป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้ลูกค้าสามารถให้ลูกค้านำเงินดิจิทัลมาใช้ร่วมกันได้ และมองว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและตอบโจทย์นวัตกรรมทางการเงินสมัยใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดใช้บริการในวันที่ 1 ตุลาคม ปี2564”นายขจรศิษฐ์ กล่าว

นายขจรศิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการต่างๆที่ผ่านมาของบริษัทฯตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าจำนวนมาก อาทิ โครงการ รามาดา เรสซิเดนซ์  สุขุมวิท 87, โครงการ รามาดา พลาซา เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 48, โครงการ วินแดม การ์เด้น เรสซิเดนซ์  สุขุมวิท 42 เป็นต้น รวมทั้งบริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่จำนวน 1 โครงการ ติดทางลงสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีทุ่งสองห้อง มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งสอดคล้องไปกับกลยุทธ์ชำระเงินดิจิทัลแทนเงินสด เพื่อเจาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่เป็นกลุ่มนักศึกษา คนรุ่นใหม่ และในอนาคตคาดว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ใช้สกุลเงิน Cryptocurrency ในชีวิตประจำวันได้เพิ่มเติม ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*