ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) กล่าวว่า จากการสำรวจภาคสนามตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5จังหวัด (ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี และมหาสารคาม) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564  พบว่ามีอุปทานที่อยู่อาศัยหน่วยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยจำนวน 1,583 ยูนิตเท่านั้น ลดลง 24.4% มีมูลค่ารวม 4,861 ล้านบาท ลดลง 20.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่เปิดตัวใหม่เป็นบ้านจัดสรรทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นสินค้าบ้านเดี่ยวประมาณ 964 ยูนิต และทาวน์เฮ้าส์ 380 ยูนิต

ขณะที่สินค้าคอนโดมิเนียมไม่มีการเปิดตัวใหม่เข้ามาในตลาด เนื่องจากผู้ประกอบการมีการแผนชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป เมื่อเทียบกับช่วงปี 2563 ที่มีการเปิดตัวทั้งหมด  929 ยูนิต โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมามีการเปิดตัวใหม่มากถึง 629 ยูนิต จังหวัดขอนแก่น 236 ยูนิต และมหาสารคาม 64 ยูนิต

โคราชแชมป์เปิดตัวบ้านใหม่-Total Supplyมากสุดในตลาด
ส่วนจังหวัดที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุดคือ นครราชสีมาจำนวน 570 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 558 ยูนิต และทาวน์เฮ้าส์ 12 ยูนิต อยู่ในพื้นที่ของย่านจอหอจำนวน 362 ยูนิต บ้านใหม่-โคกกรวด 92 ยูนิต และสุรนารี-ปักธงชัย 87 ยูนิต ระดับราคาสินค้าที่เปิดตัวจะอยู่ช่วงราคา 2-3 ล้านบาทจำนวน 255 ยุนิต และ3-5 ล้านบาทจำนวน 215 ยูนิต

ทั้งนี้เมื่อรวมสินค้าที่เปิดขายอยู่ในตลาดและสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้อุปทานที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่มีการขายในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนรวม 13,785 ยูนิต มูลค่ารวม  45,699  ล้านบาท โดยกระจุกตัวอยู่ในจังหวัดนครราชสีมามากที่สุด 6,165 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 4,564 ยูนิต และอาคารชุด 1,619 ยูนิต  และจังหวัดขอนแก่นจำนวน  3,976 ยูนิต เป็นบ้านจัดสรร 3,366 ยูนิต และอาคารชุด 610 ยูนิต

ขณะที่สินค้าขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกก็ลดลงทั้งจำนวนและมูลค่า โดยมียอดขายใหม่แค่ 2,141 ยูนิตเท่านั้น ลดลง 24.9% แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 1,633 ยูนิต และอาคารชุด 508 ยูนิต มูลค่า 6,474 ล้านบาท ลดลง 30.3% โดยจังหวัดนครราชสีมา ทำยอดขายใหม่ได้ 827 ยูนิต เป็นบ้านจัดสรร 484 ยูนิต  และอาคารชุด 343 ยูนิต

สต็อกสินค้าเหลือขาย 1.1 หมื่นยูนิต-คอนโดฯกว่า 2 พันยูนิต
ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขายอยู่ในตลาดสูงถึง 11,560 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 40,526 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 จำนวนหน่วยลดลง 8% โดยเป็นการลดลงของอาคารชุดเหลือขายประมาณ16.2% จำนวน 2,173 ยูนิต เนื่องจากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการปรับแผนไม่มีการเปิดตัวคอนโดฯใหม่เข้ามาเพิ่ม

ส่วนบ้านจัดสรรเหลือขายลดลง 5.8% จำนวน 9,387 ยูนิต สินค้าบ้านเดี่ยวมีเหลือขายในตลาดมากที่สุด 5,565 ยูนิต รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 1,999 ยูนิต และบ้านแฝด 1,400 ยูนิต

ในจำนวนเป็นสต็อกสินค้าเหลือขายที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมามากที่สุด 5,254ยูนิต เป็นอาคารชุด  1,276 ยูนิต กระจายอยู่ในพื้นที่เมืองโคราช 724 ยูนิต บ้านใหม่-โคกกรวด 275 ยูนิต และเขาใหญ่ 190 ยูนิต ระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีราคาขายอยู่ในระดับ 1.5-2 ล้านบาท ส่วนบ้านจัดสรรมีจำนวน  3,978 ยูนิต

สำหรับแนวโน้มของตลาดที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกช่วงครึ่งปีหลัง 2564 ดร.วิชัยประเมินว่า อัตราการขยายตัวของหน่วยโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก และจะเพิ่มขึ้นประมาณ 54.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 43.9%  โดยเฉพาะสินค้าคอนโดฯจะมีการเปิดตัวใหม่เพิ่ม โดยประเมินว่าจังหวัดนครราชสีมา จะมีสินค้าเปิดใหม่ประมาณ 975 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 862 ยูนิต และอาคารชุด 113 ยูนิต จังหวัดขอนแก่นจำนวน  589 ยูนิต เป็นบ้านจัดสรร 443 ยูนิต และอาคารชุด 146 ยูนิต จังหวัดอุดรธานีจำนวน  245 ยูนิต จังหวัดอุบลราชธานี 142 ยูนิต  เป็นบ้านจัดสรรทั้งหมด และจังหวัดมหาสารคามจำนวน  63 ยูนิต เป็นบ้านจัดสรร 42 ยูนิต และอาคารชุด 21 ยูนิต

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*