นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการ บริษัทยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กลุ่มยู ซิตี้ได้ทบทวนทิศทางการดำเนินธุรกิจในระยะยาวใหม่อีกครั้ง เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจจากอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นขาลงให้ก้าวไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้น โดยที่บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์และเครือข่าย 3M ของกลุ่มบีทีเอสมาช่วยสร้างการเติบโตให้รวดเร็วขึ้น

ทั้งนี้บริษัทวางแผนจะยุติการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะพยายามขายพอร์ตอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องภายใต้ข้อตกลงและราคาที่สร้างผลกำไรให้แก่บริษัท เพื่อจัดสรรเงินทุนที่ได้รับไปต่อยอดธุรกิจทางการเงินต่อไป ล่าสุดได้ประกาศขายธุรกิจโรงแรมที่เหลืออยู่ในยุโรปเกือบทั้งหมด รวมถึงการขายแบรนด์เวียนนา เฮ้าส์ และส่วนหนึ่งของบริษัทแอ๊บโซลูท โฮเต็ล เซอร์วิส จำกัด โดยคาดว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีและสร้างกำไรให้แก่บริษัททันที

ขณะเดียวกันบริษัททำการซื้อหุ้น 24.9% ในบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 7 พันล้านบาท ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของซิงเกอร์ และเข้าลงทุน 9.9% ในบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 4 พันล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของซิงเกอร์และเจมาร์ท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้

นอกจากนี้ยังได้ใช้เงินลงทุนอีก 1.5 พันล้านบาทเพื่อเข้าซื้อหุ้น 75% ในบริษัทแอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 0.3% โดยบริษัทวางแผนที่จะสนับสนุนให้ A Life ขยายส่วนแบ่งการตลาดผ่านกลยุทธ์ต่าง ๆ ทั้งการแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตขนาดย่อยที่เข้าถึงง่าย การขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตภายใต้เครือข่ายของบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ,ซิงเกอร์ และบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายร่วมกับพันธมิตรใหม่ภายใต้เครือข่าย3M ของกลุ่มบีทีเอส คือ MOVE, MIX และ MATCH  คาดว่าการลงทุนครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้เช่นกัน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*