ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในหัวข้อ “กลุ่มแรงงานก่อสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล” ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร)อาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พิจารณาปรับมาตรการเพื่ออให้พื้นที่หรือสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร สถานที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับแรงงาน งานก่อสร้าง และการเดินทางเคลื่อนย้ายแรงงาน ตามข้อม 2 แห่งข้อกำหนด(ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ซึ่งได้เคยมีประกาศหรือคำสั่งให้ปิดสถานที่หรือหยุดดำเนินการหรือเคยได้รับการผ่อนคลายแบบมีเงื่อนไข แต่ต่อมาสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ตามมาตรฐานทางสาธารณสุข หรือได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อให้สถานที่มีสภาวะที่ถูกสุขลักษณะแล้ว โดยให้เปิดหรือดำเนินการได้ภายใต้หลักเกณฑ์ มาตรการ และแนวทางกำกับติดตามประเมินผลที่กระทรวงสาธารณสุขหรือทางราชการกำหนด ซึ่งรวมถึงการมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการหรือผู้รับผิดชอบในพื้นที่หรือสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคารดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal)  เพื่อป้องกันการระบาดในแรงงานก่อสร้าง และเมื่อเกิดการระบาดในพื้นที่ต้องการปรับระดับความเข้มข้นของมาตรการ ทั้งนี้ ยังคงให้ดำเนินกิจการต่อไปภายใต้มาตรการการเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างที่พักและสถานที่ทำงานภายใต้การกำกับควบคุม (Sealed Route)  มีการบริหารจัดการในการแยกผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ และกลุ่มเปราะบาง มีบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งมีการจัดเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะไม่ใช้บังคับกับพื้นที่ สถานที่ หรือกิจกรรมที่มีประกาศหรือคำสั่งปิดหรือห้ามดำเนินกิจกรรมเนื่องจากปรากฏการแพร่ระบาดแบบเฉพาะเจาะจงเป็นรายกรณี

อีกทั้งมีการปรับเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมและการเดินทางของกลุ่มแรงงานก่อสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) และสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กองยุทธศาสตร์สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม (ศปม.)กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล พิจารณาผ่อนคลายมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าออกของแรงงานก่อสร้างที่เดินทางข้ามเขตจังหวัดในเส้นทางคมนาคมเข้าออกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลตามความในข้อ 7 (2) แห่งข้อกำหนด (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2564  ให้สอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามข้อ ๖ (๒) แห่งข้อกำหนดฉบับนี้ด้วย

โดยมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างทั่วราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด–19 ในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในเขตพื้นที่อื่นนอกจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณานำมาตรการการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) และมาตรการการเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างที่พักและสถานที่ทำงานภายใต้การกำกับควบคุม (Sealed Route) มาใช้บังคับให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่และลักษณะของพื้นที่หรือสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร สถานที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับแรงงาน งานก่อสร้าง และการเดินทางเคลื่อนย้ายแรงงาน ในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในพื้นที่ความรับผิดชอบด้วย

นายปิยะ ประยงค์
คลายล็อกช่วยการก่อสร้างเดินหน้ากระแสเงินสดหมุนเวียน
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า กรณีการคลายล็อกดาวน์กลับมาเปิดแคมป์คนงานก่อสร้างนั้น ส่งผลดีต่อภาคการก่อสร้างของผู้ประกอบการโดยรวม ขณะที่พฤกษาฯ จะได้อานิสงส์จากการคลายล็อกดาวน์ ทำให้งานก่อสร้างกลับมาเดินหน้าตามกำหนด จะช่วยให้มีกระแสเงินสดจากการทยอยโอนห้องชุดจาก 7 โครงการ ซึ่งครอบคลุมทุกแบรนด์ ทุกเซกเมนต์ในตลาดคอนโดฯ ที่กำลังจะก่อสร้างเสร็จและทยอยส่งมอบในปี 2564  นี้ โดยจะทำให้มีรายได้จากการโอนใน 7 โครงการดังกล่าว 5,000-6,000 ล้านบาท หรือกว่า 50% ของโครงการทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ในกลุ่มสินค้าแนวราบ ซึ่งพฤกษาฯมียอดขายล่วงหน้า(พรีเซล)ไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาทนั้น ก็จะสามารถกลับมาเร่งงานก่อสร้าง เพื่อให้สามารถส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าได้ทันตามกำหนด จะช่วยให้พฤกษาฯมีรายได้จากการโอนในกลุ่มสินค้าเข้ามาเพิ่มในไตรมาสนี้อีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเร่งงานก่อสร้างนั้น พฤกษาฯจะต้องดำเนินภายใต้การมาตรการ Bubble and seal ซึ่งเป็นการควบคุมแรงงานก่อสร้าง ป้องกันการแพร่ระบาดการติดเชื้อ โดยแรงงานต้องควบคุมการเดินทางระหว่างที่ทำงานกับที่พักอาศัยตามข้อกำหนด ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนดไว้

“เพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในแคมป์คนงาน พฤกษาฯได้เตรียมวัคซีนไว้ฉีดให้กับแรงงานก่อสร้างกว่า 10,000 คน นอกจากนี้ ยังวางมาตรการควบคุมดูแลแรงงานก่อสร้างเพื่อให้สอดรับกับมาตรการภาครัฐด้วย” 

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม

คาดงานก่อนสร้างกลับมาเดินหน้า 100%

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน)หรือ SPALI กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีราชกิจจานุเบกษาประกาศออกมาเพื่อคลายล็อกแคมป์คนงานและไซต์งานก่อสร้าง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหลายสำนักงานเขตก็ได้มาสำรวจแคมป์คนงานให้มีความปลอดภัยขึ้น มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้น้อยลง ซึ่งในส่วนของบริษัทฯเองก็มีการปฏิบัติและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  เพื่อให้แคมป์งานมีความปลอดภัยขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯมีแคมป์คนงานและไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มากกว่า 20-30 แห่ง คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากประกาศคลายล็อกแล้ว หวังว่าประชาชนรอบข้างแคมป์งานและไซต์งานจะมีความเข้าใจในระดับหนึ่ง เพราะทำให้สามารถกลับมาก่อสร้างโครงการได้ตามปกติ แต่ยังต้องอยู่ในเงื่อนไข Bubble and Seal ในเบื้องต้นคิดว่าสามารถก็ทำงานได้ 100% แต่คนงานที่มีความเสี่ยงก็ไม่ให้มาทำงานและแยกโซนแคมป์ที่มีอากาศระบายได้ดี พื้นที่เปิดโล่ง อย่างชัดเจน

 

“คิดว่ารัฐบาลอยากดูแลโควิด-19 ควบคู่กับการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลมองว่าแคมป์งานก่อสร้างเป็นผู้ร้ายก่อให้เกิดการแพร่ระบาด แต่ที่ผ่านมาก็ยังเห็นว่าแม้มีการประกาศปิดล็อกแคมป์คนงานและไซต์งานก่อสร้าง ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งอยากให้ทุกคนปลอดภัย เพื่อให้ประเทศไทยเดินต่อไปได้”

นายอุทัย อุทัยแสงสุข

ฝากตีความ Bubble and seal ให้เคลียร์

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)หรือ SIRI กล่าวว่า การสั่งปิดแคมป์คนงานและไซต์งานก่อสร้างเป็นระยะเวลานาน จะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ เพราะอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นธุรกิจหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศต่อปีคิดเป็นมูลค่าอย่างมหาศาล และการประกาศสั่งปิดแคมป์และไซต์งาน 30 วัน ก็สร้างมูลค่าความเสียหายไปแล้วประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาท/เดือ ซึ่งยังไม่รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

“บางโครงการแคมป์และไซต์งานอยู่คนละที่ หากแต่ละโครงการสามารถควบคุมการแพร่ะระบาดได้ดี ก็ควรมีการผ่อนปรน และการคลายล็อกก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องมีการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเบื้องต้นเข้าใจว่าก่อนจะมีการดำเนินการก่อสร้างต่อจะต้องมีการขออนุญาตกับแต่ละเขตก่อน และต้องมีการตีความให้ชัดเจนว่า bubble and seal นั้นครอบคลุมอย่างไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปคุยและทำความเข้าใจกับแต่ละสำนักงานเขต ในหลายไซต์งานก่อสร้าง โดยปัจจุบันแสนสิริฯมี 70-80 ไซต์งาน รวมมูลค่าโครงการประมาณ 100,000 ล้านบาท”

นายสุรเชษฐ กองชีพ

คลายล็อกแต่เจอปัญหาขาดแคลนแรงงาน

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า การคลายล็อกแคมป์คนงานก่อสร้างและไซต์งานนั้น ส่งผลดีต่อโครงการที่มีแผนจะโอนในปี 2564 นี้ ซึ่งหลังการคลายล็อก คาดว่าจะทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเร่งระดมแรงงานตามไซต์งานต่างๆ และเร่งก่อสร้างโครงการที่จะส่งมอบ หรือโอนในปีนี้ เพื่อให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งจะทำให้ได้รับค่างวดงานก่อสร้างเข้ามาใช้เป็นกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า การล็อกดาวน์แคมป์ก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมา ทำให้แรงงานก่อสร้างในระบบหายไปค่อนข้างมาก ดังนั้นแม้จะคลายล็อกแล้วสถานการณ์ขาดแคลนแรงงานในตลาดก็จะยังไม่ดีขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*