บมจ.แอสเซทไวส์ โชว์ยอดขายครึ่งปีแรกแตะ 2,540  ล้านบาท ชี้คอนโดฯแบรนด์เคฟ ”ทำยอดจองคึกคัก ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามแผน 20% ครึ่งปีหลังลุยเปิด 5 โปรเจ็กต์ใหม่มูลค่ารวม 9,700 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายสะสมแล้วกว่า 2,540 ล้านบาท หลังจากไตรมาสแรกทำยอดขายได้ 970.4 ล้านบาท โดยยอดขายหลักประมาณ 40%มาจากการการห้องชุดแบรนด์เคฟ (KAVE ) ที่เน้นตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักขอบริษัท รวมทั้งได้นำกลยุทธ์การขายแบบออนไลน์และการแคมเปญที่สร้างแรงจูงใจเพิ่มขึ้นท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากแรงกดดันของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 3  ทั้งนี้บริษัทยังเชื่อมั่นว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 4,205 ล้านบาท

เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ 2 โครงการ คือ เคฟ ทียู จำนวน 1,016 ยูนิตมูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ล่าสุดทำยอดขายได้แล้วกว่า 90% มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ภายในไตรมาส 3 นี้ และโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 จำนวน 582 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4

สำหรับแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ บริษัทยังตามแผนงานที่วางไว้ 6 โครงการมูลค่า 10,850 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกเปิดตัวไปแล้ว โครงการ คือ เคฟ ศาลายา จำนวน 588 ยูนิต มูลค่า 1,150ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลัง จะเปิดตัวโครงการทั้งหมด 5 มูลค่าโครงการรวม 9,700 ล้านบาท ประกอบไปด้วย โครงการแอทโมซ บางนา จำนวน 1,103 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท โครงการเคฟ เอวา อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสร์ รังสิต มีทั้งหมด 5อาคารจำนวน 1,27 ยูนิต และร้านค้าอีก 13 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท

โครงการโมดิซ คลาวด์ รามคำแหง อยู่ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหง  อาคารสูง 44ชั้นจำนวน 1,204 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท โครงการโมดิซ ศรีราชา มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท และโครงการบ้านภูริปุรี ลาดพร้าว 41 เป็นโฮมออฟฟิศ 3ชั้นครึ่งจำนวน 6 ยูนิต มูลค่าโครงการ 87 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆเพิ่ม  โดยล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทบริษัท ดิจิโทไนซ์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท เพื่อรองรับการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลและอื่นๆ พร้อมแต่งตั้งที่ปรึกษา บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด ซึ่งมีควมาเชี่ยวชำนาญการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของบ้านและคอนโดมิเนียมทุกโครงการในเครือผ่านการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโทเคอเรนซี่เป็นเงินบาท เพื่อใช้ในการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมในเครือแอสเซทไวส์

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*