พร็อพฟิต สตาร์ทอัพอสังหาฯ พลิกวงการเอเจนท์ไทย ด้วย Online Agent Platform และ Business Model รูปแบบใหม่ ช่วยลดต้นทุนการขาย-เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้โครงการปิดการขายเร็ว- รายได้มากขึ้น ระบุมีนายหน้าในระบบรวมกว่า 900 ราย สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยกว่า 8,000 รายการ ทั้งได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ชี้ถึงเวลาที่รายกลาง-รายเล็กต้องปรับตัว เพื่อพลิกสู่โมเดลการขายและการทำการตลาดรูปแบบใหม่ พิสูจน์ผลงานด้วยยอดขายที่พุ่งไปถึง 2,000 ล้านบาท หลังเริ่มต้นธุรกิจเพียง 18 เดือน วางเป้าขึ้นแท่น “เครือข่ายนายหน้าอสังหาฯ ใหญ่ที่สุดในไทยภายใน 2 ปี” ตั้งเป้ายอดขายรวมปี 64 แตะ 3,200 ล้านบาท
นายฐิติพันธ์ เผ่าทรง
นายฐิติพันธ์ เผ่าทรง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหารบริษัท พร็อพฟิต จำกัด เปิดเผยว่า จากขอบเขตการพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยี ประกอบกับตลาดอสังหาฯไทยที่มีนายหน้าเก่งๆที่เป็นฟรีแลนซ์อยู่จำนวนมาก กลุ่มผู้ก่อตั้ง Propfit ที่มีประสบการณ์โดยตรงจากธุรกิจอสังหาฯ จึงมองเห็นโอกาสในการ Disruptโครงสร้างธุรกิจและตัดสินใจเปิดตัว Propfit (พร็อพฟิต) ซึ่งเป็น Online Agent Platform ที่ใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มศักยภาพให้กับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ให้สามารถทำงานร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ทำให้ช่วยปิดการขายได้ไวและมีรายได้มากขึ้น นับเป็นโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ที่จะมาปฏิวัติวงการตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์จากรูปแบบเดิม

“เรามองเห็นช่องว่างธุรกิจจาก 2 ประเด็น คือหนึ่ง แม้ปัจจุบันผู้บริโภคจะคุ้นชินกับการซื้อขายออนไลน์เองโดยตรง อย่างไรก็ดี สินค้าประเภท high-Involvement อย่างอสังหาริมทรัพย์ยังมีความจำเป็นที่ผู้บริโภคต้องเข้าเยี่ยมชมโครงการเพื่อเปรียบเทียบก่อนการตัดสินใจซื้อ จึงทำให้ที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญ พนักงานขาย และนายหน้ามีความสำคัญในกระบวนการขายและการตัดสินใจของผู้บริโภค  ข้อสอง คือความผันผวนของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 1-2 ปีนี้ เป็นตัวเร่งให้เกิดการเลี่ยนแปลงจากการทำธุรกิจในรูปแบบเดิม โดยเฉพาะองค์กรที่มีความยืดหยุ่นน้อย การบริหารทีมงานแบบเดิมๆ จะสู้กับคู่แข่งที่ปรับตัวได้เร็วและดีกว่าไม่ได้ จึงนับเป็นข้อได้เปรียบขององค์กรขนาดกลางและขนาดย่อมรวมทั้งในทั้งสองข้อนับเป็นโอกาสในธุรกิจของเรา” นายฐิติพันธ์ กล่าว

โดย“Propfit” เป็นแพลตฟอร์มตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้า (Disrupt ) การขายแบบเดิม ๆ ด้วยรูปแบบการทำงาน ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ดีลครบ จบง่าย  ได้มากกว่า ศูนย์รวมคอนโดฯ สำหรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการสร้างช่องทางการเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะการสร้างเครือข่ายในรูปแบบของ Online Agent Platform ที่มีขนาดใหญ่และมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด สามารถเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุมทุกพื้นที่ ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทำหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” ระหว่างเครือข่ายของ “ตัวแทนขาย/นายหน้าอสังหาริมทรัพย์” (Property Agent) และ “ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์” (Property Developer) ทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็กให้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อปิดการขายโครงการอสังหาฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ Propfit จะช่วยลดต้นทุน จากการนำเสนอวิธีการขายในรูปแบบใหม่ โดยผู้ประกอบการฯ ไม่จำเป็นต้องมี Fixed Cost ต้นทุนสำหรับการตั้งทีมขายของตัวเองทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในสภาพตลาดที่มีความผกผัน ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ปัจจุบันได้อย่างดี ด้วย 3 เครื่องมือสนับสนุนที่ใช้งานง่าย บริหารจัดการจบด้วยตัวเองได้ทันทีได้แก่

1.Stock inventory  ช่วยให้สามารถเข้าถึงสต๊อกโครงการต่างๆกว่า 8,000 ยูนิต

2.Proposal module สามารถส่งข้อมูลรายการให้ลูกค้าสะดวกและเรียลไทม์

3.Sales Pipeline Management ระบบบริหารการขายประสิทธิภาพสูง (Free beta) โดยเครือข่ายนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จะได้รับข้อมูลสนับสนุนจาก Propfit ทั้งด้านการตลาดและบริการด้านการขาย (Marketing & Sale Service ) ตอบโจทย์การขายอสังหาริมทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มยอดขาย และลดต้นทุนด้านการตลาด โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งทีมขาย

“ข้อได้เปรียบสำหรับการทำงานกับแพลตฟอร์มของ Propfit คือ “Matching Mechanism” หรือระบบที่ Propfit เก็บข้อมูลเป็นรายสัปดาห์ ที่จะช่วยจับคู่ระหว่างยูนิตคอนโดมิเนียมเข้ากับความถนัดเฉพาะตัวของแต่ละตัวแทนขาย/นายหน้าอสังหาฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการที่ตัวแทนขายหรือนายหน้าอสังหาฯ ในแต่ละกลุ่มจะมีความถนัดเฉพาะตัว ทั้งในเรื่องของราคา พื้นที่ รวมถึงฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกกลุ่มนายหน้าให้เหมาะกับโครงการ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดันให้นายหน้าสามารถปิดการขายได้รวดเร็ว นอกจากนี้ Propfit ยังมีประสบการณ์ทำการตลาดให้กว่า 90 โครงการในเกือบทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่มีข้อมูลลูกค้าครอบคลุมและอัปเดตอยู่ตลอด จึงเหมาะกับผู้ประกอบการฯ ที่เปิดโครงการใหม่ ที่ยังไม่เคยทำการตลาดจับกลุ่มลูกเป้าหมายในทำเลนั้นๆ มาก่อน ซึ่งจะช่วยให้ทำการตลาดขายได้เร็วขึ้นและใช้งบน้อยลง” นายฐิติพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้หลังจากที่บริษัทเปิดตัว Propfit ในระยะเวลาเพียง 18 เดือน พบว่ามีการตอบรับที่เกินความคาดหมาย โดยได้รับความเชื่อมั่นจากทั้งอสังหาฯ รายใหญ่ อาทิ บริษัท เอพี(ไทยแลนด์)จำกัด(มหาชน)หรือ AP,บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ,บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)หรือ PS  และบริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)หรือ SIRI ฯลฯ และบริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายกลาง อาทิ Asset 5 และ Divine Development รวมทั้งเครือข่ายนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ที่สนใจร่วมงานกับบริษัทมากกว่า 900 รายและมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากโครงสร้างส่วนแบ่งคอมมิชชั่นที่สูงกว่าในระดับปกติและการสนับสนุนด้านแพลตฟอร์มการทำงาน ที่ทำให้ปิดดีลได้ง่ายขึ้น สามารถเข้าถึงรายการอสังหาริมทรัพย์ในสต๊อกกว่า  8,000 รายการ และรับลูกค้าจากระบบเพื่อเริ่มปิดการขายได้ทันที

โดยล่าสุด Propfit สามารถทำยอดขายคอนโดมิเนียมแล้วคิดเป็นมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง ซึ่งนับเป็นบทพิสูจน์ถึง Business model ใหม่ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจได้โดยไม่มีข้อจำกัด นอกจากนี้บริษัทยังได้วางเป้าหมายทางธุรกิจ โดยการตั้งเป้าเป็นเครือข่ายนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ภายในระยะเวลา 2 ปี” โดยในปี 2564 บริษัทวางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 3,200 ล้านบาท

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*