ธปท.ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะ 3 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิต รถยนต์ และที่อยู่อาศัย เริ่มตั้งแต่17 พฤษภาคม – 31 ธันวาคมนี้

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบต่อภาคธุรกิจบริการ โรงแรม ร้านอาหาร รถบริการรับส่งคน ซึ่งมีพนักงานและลูกจ้างได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้หายไปหรือลดลง และมีสัญญาณว่าลูกหนี้รายย่อยมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง

ทั้งนี้จากการประเมินของสถาบันการเงิน พบว่าลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการเดิมยังคงต้องการความช่วยเหลือต่อเนื่องและมีลูกหนี้ใหม่ที่ต้องการรับความช่วยเหลือเพิ่ม ดังนั้น ธปท. จึงได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการทางการเงิน ผ่านสมาคมและชมรมต่าง ๆ รวม 8 แห่ง ประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทย,สมาคมธนาคารนานาชาติ,สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ,สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย,สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ,สมาคมธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไทย,ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต-สมาคมธนาคารไทย และชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล  ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ โดยยกระดับมาตรการเดิมให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น และมุ่งเน้นช่วยลดภาระหนี้ในระยะยาวครอบคลุมสินเชื่อ 4 ประเภท ประกอบด้วย

บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้ยาวขึ้น และจ่ายอัตราดอกเบี้ยลดลง

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพิ่มทางเลือกการพักชำระค่างวด ส่วนลูกหนี้จำนำทะเบียนรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ให้มีทางเลือกในการคืนรถ และหากมีภาระหนี้คงเหลือจากการขายประมูล ให้ผู้บริการทางการเงินสามารถช่วยลดภาระหนี้ให้สอดคล้องกับสถานะของลูกหนี้

 เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ควบคุมอัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาไม่ให้สูงขึ้นกว่าอัตราดอกเบี้ยเดิม และปรับวิธีการคิดดอกเบี้ยช่วงที่พักบนค่างวดที่พักชำระหนี้ ส่วนลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ให้มีทางเลือกในการคืนรถ และหากมีภาระหนี้คงเหลือจากการขายประมูล ให้ผู้บริการทางการเงินสามารถช่วยลดภาระหนี้ให้สอดคล้องกับสถานะของลูกหนี้

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน เพิ่มทางเลือกด้วยการพักเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยบางส่วน และให้ลูกหนี้สามารถทยอยชำระคืนเป็นขั้นบันได (step up) ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

ทั้งนี้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบสามารถขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม – 31 ธันวาคม 2564 ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้ให้บริการทางการเงิน นอกจากนี้ ธปท. ยังได้ขยายเวลาของมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564

ธอส.ขานรับธปท.เพิ่มอีก 2 มาตรการ
ล่าสุด ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ประกาศเพิ่ม 2 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ด้วย “โครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ปี 2564” ประกอบด้วย มาตรการที่ 11  เลือกจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ(ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย)เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมนี้ สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือของธนาคารมาก่อน รวมทั้งมีสถานะบัญชีปกติ และไม่อยู่ระหว่างการประนอมหนี้ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 17 – 29 พฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ยังได้ขยายความช่วยเหลือลูกค้าเดิมที่อยู่ในมาตรการที่ 12 ให้ลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และสินเชื่อประเภทแฟลต สามารถเลือกจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ(ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25%,50% หรือ 70% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันภายในเดือนตุลาคมนี้ หรือเลือกพักชำระหนี้ได้ถึงเดือนตุลาคม ในกรณีที่ได้รับผลกระทบทำให้รายได้ไม่เพียงพอในการชำระหนี้

โดยกลุ่มลูกค้าที่อยู่ระหว่างการรับความช่วยเหลือในมาตรการที่ 12 และจะครบกำหนดความช่วยเหลือในเดือนพฤษภาคมนี้ สามารถยื่นคำขอเข้ามาตรการนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน ส่วนลูกค้าที่จะครบกำหนดในเดือนมิถุนายน  แจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ลูกค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการที่ 12 เรียบร้อยแล้ว เมื่อครบระยะเวลาความช่วยเหลือตามมาตรการ จะสามารถทยอยผ่อนชำระหนี้ที่พักไว้ทั้งหมดภายใน 36 เดือนโดยเริ่มผ่อนชำระดอกเบี้ยที่พักชำระไว้ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*