“พรีบิลท์” โชว์ผลงานไตรมาสแรกปี 2564 กวาดกำไรสุทธิ 57.66 ล้านบาท เติบโต 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  หลังโกยรายได้ 1,076.33 ล้านบาท เผยรายได้หลักมาจากการโอนบ้านหรู”พรรณนา” ย่านพุทธมณฑลสาย 3  ส่วนธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้างมีมูลค่างานในมือ (Backlog) กว่า 7,300 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 53% มั่นใจปีนี้รายได้-กำไรเติบโตก้าวกระโดด

นายวิโรจน์  เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส1ที่ผ่านมา บริษัทยังคงสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไรได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2563  โดยมีกำไรสุทธิ 57.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.02 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 40.64 ล้านบาท และมีรายได้ 1,076.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.05 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจาการรับรู้รายได้จากยอดโอนบ้านแนวราบโครงการ “พรรณนา” ซึ่งเป็นโครงการแรกที่บริษัทลงทุนเอง ตั้งอยู่ย่านพุทธมณฑลสาย 3 พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวระดับหรูมูลค่าโครงการประมาณ 1,269 ล้านบาท จำนวน 98 ยูนิต ขนาดเนื้อที่ 100 ตารางวาขึ้นไป ล่าสุดทำยอดขายเฟส 1 ได้แล้ว 80% และกำลังอยู่ระหว่างเตรียมเปิดขายเฟสที่  2 ตั้งเป้าว่าปีนี้จะสามารถสร้างรายได้จากการโอนบ้านในโครงการพรรณนาเพิ่มขึ้นอีกกว่า 600 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมเปิดโครงการใหม่ “พิมนารา” ย่านถนนศรีนครินทร์-หนามแดง  มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 99 ยูนิต ปัจจุบันอยูระหว่างก่อสร้างบ้านตัวอย่างและจะเริ่มเปิดพรีเซลได้ในช่วงไตรมาส3 โดยคาดว่าภายในปีนี้จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมี backlog ที่จะเปลี่ยนเป็นรายได้ จากการร่วมลงทุนโครงการอสังหาฯกับพันธมิตร  อาทิ โครงการ Quinto ย่านเสนานิคม ซึ่งบริษัทได้ร่วมลงทุนกับกลุ่มพรีเมี่ยม เพลส กรุ๊ป ในสัดส่วน 49% เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์สร้างเสร็จพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการ 1,462 ล้านบาท ปัจจุบันทำยอดขายได้แล้ว 84%

และโครงการ Eigen ร่วมทุนกับบริษัทรีโว เอสเตท จำกัด และบริษัทเค.อาร์.ซี.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ตั้งอยู่ซอยพัฒนาการ 99 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น มูลค่าโครงการ 721 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 64 % วางแผนจะปิดโครงการได้ในปี 2565

โดยทั้ง 2 โครงการนี้ บริษัต้งเป้าจะทำยอดโอนรวมกันภายในปีนี้ประมาณ 952 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการร่วมทุนกับกลุ่มรีโว เอสเตท และเค.อาร์.ซี.เอ็นจิเนียริ่ง พัฒนาโครงการใหม่ในรูปแบบบ้านแนวราบย่านจตุโชติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถพัฒนาและพร้อมโอนได้ในไตรมาส 4ปีนี้ประมาณ 123 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นจากงานรับเหมาก่อสร้าง ที่เป็นรายได้หลักของบริษัท โดยเริ่มมีงานก่อสร้างและส่งมอบงานได้มากขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา  ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่าในปี2564  จะส่งมอบงานก่อสร้างได้มากกว่าปี 2563 ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่รอทยอยรับรู้รายได้รวมมูลค่ากว่า 7,300 ล้านบาท โดยจะเป็นการรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 53% และในปี 2565 ประมาณ  42%

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*