อนันดาฯเผยผลงานไตรมาสแรกปี’64 โกยยอดขายได้ 3,979 ล้านบาท เกินเป้า17% ส่วนยอดโอนพลาดเป้าเล็กน้อยทำได้3,059 ล้านบาท พร้อม Sold out โครงการไอดีโอ โมบิ อโศก มูลค่าโครงการกว่า 3,200 ล้านบาทไปแล้ว ปีนี้ลุยเปิดโปรเจ็กต์ร่วมทุน 5 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 24,422 ล้านบาทย่านทองหล่อ สุรวงศ์ สะพานควาย สุขุมวิท 38 และลำสาลี
นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก ปี 2564ว่า บริษัทสามารถทำยอดขายและยอดโอนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,379 ล้านบาท แต่ทำยอดขายรวมได้ 3,979 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 17% ซึ่งส่วนใหญ่มาโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่ยังมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังรุนแรงอยู่ก็ตาม
แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง 1,065 ล้านบาท เป็นคอนโดฯ 340 ล้านบาท และบ้านแนวราบ 725 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 2,914 ล้านบาท เป็นยอดขายจากโครงการร่วมทุน โดยล่าสุดได้ปิดการขาโครงการไอดีโอ โมบิ อโศก มูลค่าโครงการกว่า 3,200 ล้านบาทไปแล้ว
ส่วนยอดโอนตั้งเป้าไว้ 3,143 ล้านบาทแต่ทำได้ 3,059 ล้านบาท ลดลงต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย โดยสัดส่วนยอดโอนจากลูกค้าชาวต่างประเทศยังอยู่ในรระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 21%
นอกจากนี้บริษัทยังมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา หรือ EBITDA จากการดำเนินงานของธุรกิจหลักกว่า 225 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายยอดโอนไว้ที่ 16,008 ล้านบาท และยอดขาย 18,570 ล้านบาท โดยยอดขายและยอดโอนจะมาจากกลุ่มสินค้าคอนโดฯ 87% และบ้านแนวราบ13% ซึ่งปีนี้จะเตรียมเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 24,422 ล้านบาทและเป็นโครงการร่วมทุนทั้งหมด บนทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้า ย่านทองหล่อ สุรวงศ์ สะพานควาย สุขุมวิท 38 และลำสาลี
โดยโครงการแรกจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 มีมูลค่าโครงการ 1,870 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 4โครงการจะเปิดตัวในไตรมาส 4 มูลค่าโครงการรวม 22,552 ล้านบาท
ข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มอนันดาฯมีแบ็คล็อคหรือยอดขายรอโอนอยู่ในมือแล้ว 14,265 ล้านบาท จะรับรายได้ในปีนี้ 3,847 ล้านบาท ปี 2565 จำนวน 9,430 ล้านบาท และปี 2566 อีก 988 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสินค้าเหลือขายอยู่ในมือ 49,323 ล้านบาทจากมูลค่าโครงการที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 110,415 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสินค้าคอนโดฯเหลือขาย 40,629 ล้านบาท และบ้านแนวราบ 8,693 ล้านบาท
