การตกแต่งบ้าน ก็เป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่ต้องใส่ใจรายละเอียด เพื่อให้บ้านออกมาดูดี สวยงาม เป็นหน้าเป็นตาของเจ้าของบ้าน และทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายสไตล์ที่นิยมแต่งกันทั้งสไตล์มินิมอล เน้นความเรียบง่าย ไม่ต้องมีของตกแต่งมากมาย  สไตล์คอนเทมโพรารี แต่งบ้านแบบร่วมสมัยผสมผสานแบบยุคเก่ายุคใหม่ เน้นโทนสีกลางๆ ทำให้ดูอบอุ่น แต่ก็มีความหรูหรา  สไตล์คอตเทจ แนวคันทรีๆ มีความวินเทจนิดๆ จุดเด่นนิยมเอาลายดอกไม้มาใช้ คู่กับโทนสีพาสเทลอ่อนๆ ทำให้ดูสวยงามสบายตา   และอีกหนึ่งสไตล์ที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เพราะกำลังเป็นที่นิยม ทั้งแต่งบ้าน ออฟฟิศ ร้านอาหาร รวมถึงคาเฟ่ ก็คือ สไตล์ลอฟท์ ที่มีความ ดิบ เท่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถดึงดูดคนได้ไม่น้อย

วันนี้เราจะพาไปชมสถานที่แห่งหนึ่งที่ตั้งใจเปลี่ยนบ้านเก่าหลังนี้เป็นคาเฟ่ ดิบ เท่ๆ  ทุบผนัง เคาะปูน โชว์เสา โชว์คาน ในสไตล์ลอฟท์ พร้อมเปิดทุกมุมมองภายในร้าน และนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศ กันที่ S i R  HOME CAFÉ แต่ก่อนที่จะไปชมคาเฟ่ ขอทำความรู้จักกับสไตล์ลอฟท์กันก่อน

เริ่มต้นรู้จักสไตล์ลอฟท์

ถ้าให้เปรียบเทียบ สไตล์ลอฟท์ กับ คน  ก็คงนึกถึงผู้ชายเท่ๆ คนหนึ่ง ที่มีความดิบ แต่ไม่ถึงกับเถื่อน เป็นคนกล้าพูด กล้าทำ และเป็นคนเปิดเผย เป็นคนเซอร์ๆ สวมเสื้อยืด กับกางเกงยีนส์ขาดๆ แต่กลับดูดีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ที่เน้นโครงสร้างสถาปัตยกรรมภายในเป็นหลัก เผยให้เห็นโครงสร้างภายในทั้งเสา คาน โครงเหล็กต่างๆ เน้นความโปร่งสบาย เพดานสูง ทำให้ดูดิบๆ  การจัดวางเฟอร์นิเจอร์นิยมเป็นแบบลอยตัว

จากโรงงานเก่าสู่บ้านสไตล์ลอฟท์

แล้วจริงๆ สไตล์ลอฟ์มีที่มาที่ไปอย่างไร ก็ตอบบอกว่าเริ่มจากยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ ทำให้บรรดาโรงงานต่างๆ พากันปิดตัวไป แต่ความต้องการเรื่องที่อยู่อาศัยกลับเพิ่มมากขึ้น ทำให้คนหันมาซื้อโรงงานเก่าเพื่อนำมาปรับปรุงเป็นที่พักอาศัย ในช่วงแรงก็นำวัสดุเก่าโนโรงงานมาดัดแปลงตกแต่งที่อยู่อาศัยให้สวยงามน่าอยู่ จึงเป็นที่มาของสไตล์ลอฟท์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่งอย่างไรให้ลอฟท์ดิบเท่

อย่างที่รู้กันว่าสไตล์ลอฟท์เน้นเผยให้เห็นโครงสร้างของอาคาร ปูนเปลือย แล้วจะแต่งยังไงให้ดูเหมือนลอฟท์  ก็เริ่มจาก

-เพดานสูงโปร่ง ด้วยสไตล์ลอฟท์ เน้นเปิดพื้นที่ให้กว้าง คล้ายกับโรงงาน โกดัง ที่เพดานสูง เพื่อให้ระบายอากาศได้ดี ทำให้บรรยากาศในบ้านปลอดโปร่ง เปิดรับแสงสว่างให้ส่องทั่วบ้าน

-เน้นโชว์โครงสร้างภายในทั้ง เหล็ก เสา อิฐ ปูนเปลือย ซึ่งโครงสร้างแบบดิบๆ นี้ ถือเป็นเสน่ห์ของสไตล์ลอฟท์เลยก็ว่าได้ ทั้งให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย  แต่กลับดูดี ดิบ เท่ มีเอกลักษณ์ และสไตล์ลอฟ์ทยังเน้นโชว์ท่อแอร์ ท่อน้ำและท่อสายไฟ เพื่อให้ได้กลิ่นอายของโกดังและโรงงาน

– ส่วนโทนสีหลักที่ใช้  คือขาว ดำและเทา ซึ่งเป็นโทนสีหลักที่ใช้ตกแต่งภายในโกดังหรือโรงงาน สีขาวมาจากสีของพื้น ผนังหรือเพดาน ดำมาจากโครงสร้างของเหล็ก และเทามาจากปูนเปลือยหรือปูนขัดมัน ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความต่างจากโทนสีหลักของบ้าน เพื่อทำให้บ้านดูมีมิติมากขึ้น

-เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ส่วนใหญ่เป็นแบบลอยตัว ไม่นิยมแบบบิ้วอิน  เพราะสามารถยกหรือเคลื่อนย้าย เพื่อให้ง่ายต่อการปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้อย่างหลากหลาย รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบเรียบง่าย เน้นประโยชน์ใช้สอย นิยมใช้ไม้ หรือหนัง เหล็ก เพื่อให้กลมกลืนกับตัวโครงสร้าง

-ให้แสงสว่างส่องถึงทั่วบ้าน  แต่หากมีมุมอับเลือกใช้โคมไฟช่วยเป็นจุดๆ ไป เดิมโรงงานมักใช้กระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้แสงสว่างส่องได้อย่างทั่วถึง แต่การทำบ้านอยากลดขนาดหน้าต่างลง และติดมูลี่ เพื่อไม่ให้แสงจ้าเกินไป และทำให้บ้านอยู่สบายขึ้น ส่วนมุมไหนที่แสงส่องไม่ถึง จะเลือกติดโคมไฟแทน เช่น ติดโคมไฟเหมือนโต๊ะอาหาร  วางโคมไฟไว้มุมโซฟา และไม่ใช้แสงที่จ้าเกินไป ทำให้ได้อารมณ์ไปอีกแบบ

ลอฟท์แล้วดีอย่างไร เสียอย่างไร

สำหรับใครที่ชื่นชอบการตกแต่ง และอยากตกแต่งตามแบบสไตล์ลอฟท์ เราขอแนะนำถึงข้อดี ข้อเสียของการตกแต่งก่อน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ข้อดีของการตกแต่งสไตล์ลอฟท์

– บ้านสไตล์ลอฟท์มีดีไซน์หลังคาและเพดานที่สูง ทำให้บ้านดูปลอดโปร่ง โล่งสบายและกว้างขวางมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย

– บ้านดูสว่างและอากาศถ่ายเทสะดวกมากขึ้น เพราะหน้าต่างบ้านสไตล์ลอฟ์ทมีขนาดค่อนข้างกว้างและยาว จึงทำให้เปิดรับแสงจากธรรมชาติและลมได้อย่างเต็มที่

-บ้านดูโล่ง และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ เพราะบ้านสไตล์ลอฟ์ทเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและสะดวก ในขณะเดียวกันบ้านสไตล์ลอฟ์ทมักเปิดพื้นที่โล่ง ไม่ค่อยสร้างกำแพงมากนัก บริเวณบ้านจึงดูกว้างปรับเปลี่ยนมุมต่างๆ ภายในบ้านได้ง่าย

-ดีไซน์ที่เรียบง่าย ดิบ หยาบ แต่ดูดี เท่ เป็นเสน่ห์ของบ้านสไตล์ลอฟ์ท ซึ่งลักษณะเด่นอยู่ที่วัสดุที่ให้อารมณ์และความรู้สึกเป็นธรรมชาติ อย่างผนังปูนเปลือยหรือผนังอิฐบล็อกดิบๆ หรือผนังที่ถูกตีออกให้เห็นโครงสร้างของบ้าน การตกแต่งบ้านจะแสดงถึงลักษณะนิสัยของเจ้าของ และยังเป็นหน้าเป็นตาแก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

ข้อเสียการตกแต่งสไตล์ลอฟท์

-ดีไซน์บ้านที่ไม่ค่อยมีกำแพงเพื่อดูดซับเสียงมากเท่าไหร่ และยังโล่ง โปร่ง ทำให้เสียงภายนอกเล็ดลอดเข้ามา หรืออาจจะเกิดเสียงก้องกังวานภายในบ้านได้ง่ายๆ

-พื้นที่เก็บของน้อย เพราะความที่เน้นการตกแต่งแบบน้อยๆ เฟอร์นิเจอร์แบบเรียบง่าย พื้นที่จัดเก็บของหรือพื้นที่สำหรับตู้และลิ้นชักอาจไม่เพียงพอ

-ควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านได้ยาก เพราะมีพื้นที่ทั้งโล่งและโปร่ง แถมมีหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้การควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านทำได้ยาก แต่ก็สามารถแก้ไขได้หากมีแสงส่องเข้ามามากเกินไปก็ลองติดมูลี่เพื่อบังแสง  หรือในจุดที่แสงส่องไม่ถึงเป็นมุมอับ อาจลองหาโคมไฟสักอันมาวางเพื่อช่วยเพิ่มแสง และยังทำให้อบอุ่นอีกด้วย

SiR HOME CAFÉ ที่ลอฟท์ ดิบ เท่ ไม่ซ้ำใคร

S I R HOME CAFÉ เล็กๆ ที่เปลี่ยนบ้านที่เคยเป็นทั้งบ้าน และออฟฟิศ สตูดิโอเก่า มาเป็นคาเฟ่ในสไตล์ลอฟท์ ดิบ หยาบ  แต่เท่ และดูดีมีสไตล์มากๆ  เมื่อมองเผินๆ จากด้านก็คงไม่รู้ว่าเป็นคาเฟ่ที่มีสไตล์แบบนี้  ด้านหน้าเว้นที่สำหรับต้นไม้ใหญ่เอาไว้ ในวันข้างหน้าให้แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ด้านในตกแต่งตามสไตล์ลอฟท์ที่กะเทาะเอาผนังออก เปิดให้เห็นโครงสร้างเดิมของบ้าน ผนังบางส่วนกะเทาะให้เห็นถึงอิฐบล็อกสีแดง บางส่วนขัดมันจนเงา ส่วนพื้นก็เทปูนจัดเงาได้ความดิบๆ เทาๆ กับโทนสีขาวของร้าน ที่ตัดกับเคาร์เตอร์บาร์สีดำ ทำให้ร้านดูดี ดิบ เท่ มีเอกลักษณ์มาก

และมุมด้านหลังร้านก็เว้นช่องว่างไว้ให้ต้นไม้ได้เติบโด เพื่อให้ร่มเงาในวันข้างหน้า

ผนังปูนเปลือยขัดมันจนเงา กับรอยแตกของผนังปูน ดูหยาบ ดิบ แต่เท่ และสวยงาม  และด้านหน้าเลือกใช้กระจกบานใหญ่เพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามา

พื้นก็เทปูนขัดเงาธรรมดาๆ แต่กลับเข้ากันได้ดีกับผนัง แลการเลือกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเรียบง่ายแต่กับทำให้ห้องดูดีขึ้นมาอีก

ภายในร้านเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เหล็ก และหนังเป็นหลัก ยิ่งทำให้ส่งเสริมกับสไตล์ลอฟท์อย่างมาก เลือกใช้ของตกแต่งเป็นของวินเทจไม่มากชิ้น ทำให้เข้ากัน และไม่โดดเด่นเกินไป ยังคุมโทนได้ดี  สำหรับมุมที่เราชอบมากมุมหนึ่ง คือ มุมโซฟาหนังด้านใน กับผนังปูนที่ถูกกระเทาะจนเห็นอิฐบล็อกสีแดงด้านใน  โต๊ะไม้ตัวเล็กวางไว้ตรงกลุ่ม มุมด้านหนึ่งมีโคมไฟ มุมอีกด้านมีต้นยางอินเดียฟอร์มสวยต้นหนึ่ง  กับเครื่องพิมพ์ดีดเก่าหนึ่งตัว  ทำให้มุมนี้ยิ่งดูสวยงามตามแบบฉบับสไตล์ลอฟท์

เฟอร์นิเจอร์ไม้ตัดขอบด้วยเหล็กสีดำ กับร้านสไตล์ลอฟท์ ดูเข้ากันลงตัวมาก

เคาน์เตอร์บาร์สีดำ ดูเหมือนจะโดดเด่นที่สุดในร้าน เพราะเป็นจุดที่ทุกคนต่างต้องเดินมาสั่งเครื่องดื่มที่ตรงนี้ แต่กลับจัดว่าในมุมที่ลงตัวทำให้ร้านดูเท่มากยิ่งขึ้น

สำหรับเมนูของทางร้านยังมีให้เลือกไม่มากนักเน้นไปที่เครื่องดื่มที่มีทั้ง Coffee และ Non Coffee และเมนูที่เราเลือกวันนี้คือ Dirty Coffee เมนูยอดนิยมของคาเฟ่  และเป็นเมนูซิกเนอเจอร์ของที่นี่ด้วย ความพิเศษอยู่ที่ตัวกาแฟที่ทางร้านเอามาใช้ทั้งหอม นุ่มละมุน กับนมสดที่แช่เย็นจัด จับเข้าคู่กับกาแฟยิ่งทำให้อร่อย ดิบๆ เท่ๆ แบบนี้ยิ่งดื่มในบรรยากาศสไตล์ลอฟท์ของร้านยิ่งอร่อย เป็นเมนูที่แนะนำให้ลอง  และสำหรับสาวสายหวานที่ร้านก็มีเมนู ยูนิคอร์น เมนูปั่นสูตรเฉพาะของที่ร้าน ที่ทั้งหอม หวาน สดชื่น และช่วงวันหยุดแบบนี้ลองออกไปนั่งจิบกาแฟ ในคาเฟ่สไตล์ลอฟท์ ที่มีดีไซน์โดดเด่น เปิดโล่ง คุณอาจได้ไอเดียดีๆ ในการแต่งบ้านกลับไปก็ได้ใครจะรู้


Dirty Coffee ที่สีของกาแฟ และนมกำลังไล่สีกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ดูเหมือนสีของผนังปูนที่ค่อยๆ ไล่กันอย่างเป็นกันเอง

Unicorn เมนูสีสันสดใสที่ดูเหมือนจะขัดกับหน้าตาดิบเท่ของร้าน แต่กลับอร่อยหวานละมุนมากๆ สมกับที่เป็นซิกเนอเจอร์ของร้าน

สำหรับการเดินทางมา SiR HOME CAFÉ คาเฟ่อยู่ในซอยรัชดา 18 แนะนำให้มาโดยรถสาธารณะ เพราะคาเฟ่อยู่ติดถนน อีกด้านเป็นหมู่บ้านที่จอดรถน้อย สามารถนั่ง MRT มาลงที่สถานีสุทธิสาร และต่อรถแท็กซี่เข้ามาในซอยรัชดา 18 ได้ไม่ไกล สังเกตดีๆ ร้านจะอยู่ทางขวามือ

SiR HOME CAFÉ  ซอยรัชดา 18
ร้านหยุดทุกวันจันทร์
เวลาเปิด-ปิด : อังคาร-ศุกร์ 8.00-17.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 9.00-18.00 น.
พิกัดกันหลงทาง https://goo.gl/maps/LbgHrqHVZgrLoXFA8

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*