ไทยแลนด์ อีลิทฯเผยผู้ประกอบการอสังหาฯตอบรับเซ็นสัญญาร่วมโปรแกรม Elite Flexible One แล้ว 14 ค่าย รวม 61โครงการ พบไซมิส แอสเสทฯนำโครงการพร้อมอยู่เข้าร่วมมากสุด 9 โครงการ รองลงมาเป็น เอพี(ไทยแลนด์) และอนันดาฯ ล่าสุดเตรียมจ่อเป็นพันธมิตรอีก 4 ราย มั่นใจช่วยดันผู้ประกอบการปิดขายโครงการได้เร็ว นำกระแสเงินสดเข้าหมุนเวียนในบริษัท-ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
นายสมชัย สูงสว่าง
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้ดำเนินโครงการบัตรสมาชิก “ไทยแลนด์   อีลิท” เปิดเผยถึง ความคืบหน้าของโปรแกรมพิเศษ Elite Flexible One” ว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้เดินหน้าเจรจาร่วมจัดทำบันทึกความเข้าใจในข้อตกลงความร่วมมือพิเศษโปรแกรม Elite Flexible One กับกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยแล้วกว่า 20  ราย โดยทุกรายต่างมีศักยภาพและความแข็งแรงทั้งภาพลักษณ์ของแบรนด์และของสินค้า รวมถึงนโยบายการดำเนินงานที่สอดคล้องกันในความเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงกำลังซื้อของนักลงทุนชาวต่างชาติและสมาชิกอีลิทคาร์ด มาลงทุนเพิ่มทั้งการซื้อแบบ Freehold และ Leasehold ได้อย่างแน่นอน

ปัจจุบันมีกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ ส่งโครงการเข้าร่วมโปรแกรม “Elite Flexible One” แล้วกว่า 50 โครงการ และอีกหลายโครงการที่อยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อม รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนกว่า 80 โครงการ โดยแต่ละกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ ต่างมีกลยุทธ์ในการทำตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการตลาดและการขายแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งแนะนำบัตร Elite Flexible One ให้เป็นที่รู้จักผ่านการโฆษณาในสื่อต่างๆที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อ การยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ความเป็นเลิศ (Product Excellence) ด้วยการเลือกสรรวัสดุคุณภาพเพื่อให้ตอบทุกเหตุผลของการอยู่อาศัย รวมถึงบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ (Service Excellence) เป็นต้น

ทั้งนี้โครงการที่จะนำเข้าร่วมโปรแกรม Elite Flexible One  จะต้องเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ หรือโครงการที่ใกล้แล้วเสร็จและนำมาเพิ่มเติมในภายหลังได้ โดยยังสามารถคงชื่อบริษัทเดิมได้  ปัจจุบันมีบริษัทอสังหาฯเซ็นสัญญาร่วมโครงการ และเริ่มทำตลาดโปรโมทโปรแกรม Elite Flexible One  แล้ว จำนวน 14 บริษัท รวม 61 โครงการ โดยเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 8 โครงการ ได้แก่

1.บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด(มหาชน) หรือ RML เข้าร่วม  3 โครงการ

2.บริษัท เอพี(ไทยแลนด์)จำกัด(มหาชน)  หรือ AP เข้าร่วม 8 โครงการ

3.บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)หรือ SIRI  เข้าร่วม 6 โครงการ

4.บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ ORI  เข้าร่วม 5 โครงการ

5.บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ ANAN  เข้าร่วม 7 โครงการ

6.บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด(มหาชน) หรือ SA เข้าร่วม 9 โครงการ

7.บริษัท วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) เข้าร่วม 1 โครงการ

8.บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ SENA เข้าร่วม 4 โครงการ

9.บริษัท 888 ทองหล่อ จำกัด เข้าร่วม 1 โครงการ

10.บริษัท ดิ อิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด ในเครือบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ CI  เข้าร่วม 1 โครงการ

11.บริษัท ร่วมอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด ในเครือบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ CI  เข้าร่วม 2 โครงการ

12.บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เข้าร่วม 3 โครงการ

13.บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด  เข้าร่วม 4 โครงการ

14.บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด เข้าร่วม 7 โครงการ

 

ทั้งนี้พบว่า จาก 14 บริษัทดังกล่าวข้างต้น มีบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด(มหาชน) ส่งเข้าร่วมมากที่สุด จำนวน 9 โครงการ รองลงมาเป็นบริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน) จำนวน 8 โครงการ และอันดับ 3 คือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมีอีก 4 บริษัท ที่อยู่ในระหว่างการเตรียมเซ็นสัญญาอีก 4 บริษัทฯ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้

จากท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 และสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันนี้
บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าโปรแกรมพิเศษ Elite Flexible One นั้น จะเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงให้เศรษฐกิจดีขึ้น ด้วยการขับเคลื่อนให้กลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูงเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งเพื่อต้องการผลักดันให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขายโครงการได้เร็วขึ้น เพื่อสร้างกระแสเงินสด ทำให้มีเม็ดเงินชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนและใช้จ่ายในประเทศไทย สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ และทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ด้วยดี รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ผ่านบัตรสมาชิกในรูปแบบของโปรแกรมพิเศษ “Elite Flexible One”

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*