หากย้อนกลับไป 60 ปี ก่อน จตุจักรยังเป็นเพียงชานเมืองของกรุงเทพฯ ยังมีความเป็นป่า เป็นทุ่งนา ที่ดินส่วนใหญ่ในย่านนี้เป็นของภาครัฐ ยังไม่ค่อยมีความเป็นชุมชน จุดเปลี่ยนที่สำคัญของย่านจตุจักร คือ การพัฒนาที่ดินนำมาใช้ประโยชน์ โดย กรมการขนส่ง หรือ บขส. ได้เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า เป็นสำนักงาน และเป็นสถานีต้นทางของรถ บขส. และรถร่วม บขส. ออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางบางจังหวัด  หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต ทำให้จตุจักรเป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางของกรุงเทพฯ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

จตุจักร HUB การเดินทางเข้า-ออก
ใจกลางเมือง

 

หมอชิต ในเวลาต่อมากลายเป็นศูนย์รวมผู้คนที่เดินทางมาจากภาคเหนือ และภาคอีสาน เพื่อเข้ามายังมหานครกรุงเทพฯ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังที่อื่นๆ แต่ใครที่จะเดินทางออกไปยังภาคเหนือ ภาคอีสาน ต้องเดินทางมาขึ้นรถโดยสารที่หมอชิต  ทำให้หมอชิตเป็นศูนย์รวมของคนที่ต้องเดินทาง แต่ไม่เพียงเท่านั้นหมอชิตยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางของรถเมล์อีกหลายสายเพื่อจะเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ดังนั้น หมอชิต จึงเป็น “จุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญของกรุงเทพฯ”

จุดเปลี่ยนต่อมาคือ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ยกที่ดิน 100 ไร่ ให้เป็นสวนสาธารณะ  และในปีพ.ศ. 2523 ได้เปิดสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สวนจตุจักร เป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ  สวนจตุจักรเป็นปอดใหญ่ โอโซนของคนกรุงเทพฯ  และในปีพ.ศ. 2525 ได้มีการจัดระเบียบพื้นที่หาบเร่แผงลอย โดยให้ใช้พื้นที่ริมถนนพหลโยธินเป็นตลาดนัดพหลโยธิน และให้พ่อค้าแม่ค้าจากสนามหลวงมารวมตัวกันที่นี่ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ตลาดนัดจตุจักร ที่เป็นที่รู้จักมาถึงตอนนี้  และยังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ต้องแวะเวียนมาให้ได้ ตลาดนัดจตุจักร เป็นแหล่งช้อปปิ้งมีสินค้ามากมาย ทั้งตลาดเสื้อผ้ามือสอง ตลาดสัตว์เลี้ยง ตลาดต้นไม้ ตลาดขายของมือสอง เป็นศูนย์รวมของนักช้อปทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของย่านจตุจักร คือ การมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการย้ายสถานีขนส่งกรุงเทพฯ หมอชิตจากฝั่งพหลฯ ไปยังฝั่งถนนกำแพงเพชร  และภาครัฐได้นำที่ดินออกมาเปิดประมูล จึงเกิดการพัฒนาโครงการในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มที่ และในปีพ.ศ. 2542 รถไฟฟ้า BTS สายแรกของประเทศที่เปิดใช้บริการ ในช่วงแรกรถไฟฟ้าสายนี้วิ่งตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท สยาม สีลม ต่อมาได้เปิดให้บริการเชื่อมต่อ 3 จังหวัด ปลายทางสถานีคูคต จังหวัดปทุมธานี – สถานีเคหะสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ และในปีพ.ศ. 2547 รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายแรกก็ได้เปิดให้บริการ มีสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีหมอชิต

ถึงจะมีการย้ายสถานีขนส่งกรุงเทพฯ ออกไป แต่จตุจักรก็ยังคงเป็นศูนย์กลางการเดินทางของคนกรุงเทพฯ ที่มีรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน เข้ามาแทนที่  และยังเป็นจุดศูนย์รวมของรถเมล์ รถตู้โดยสาร อีกหลายสาย

นอกจากรถไฟฟ้า 2 สายนี้แล้ว ในย่านจตุจักรยังใกล้โครงข่ายรถไฟฟ้า ทั้งหมด 5 สาย  เปิดให้บริการแล้ว 3 สาย กำลังจะเปิด 1 สาย และกำลังก่อสร้างอีก 1 สาย  ทำให้ย่านจตุจักรเป็นศูนย์กลางการเดินทาง ที่เชื่อมต่อผู้คนไปยังที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ

รถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ปัจจุบันเชื่อมต่อ 3 จังหวัด ปทุมธานี-กรุงเทพฯ-สมุทรปราการ เป็นสายที่วิ่งผ่านใจกลางย่านธุรกิจอย่างสุขุมวิท อโศก สีลม สาทร
รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน แบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกที่เปิดให้บริการ หัวลำโพง-บางซื่อ ต่อมาเป็น หัวลำโพง-บางแค และช่วงที่ 3 บางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการครบลูป และมีสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีสวนจตุจักร สถานีห้าแยกลาดพร้าว สถานีสุขุมวิท และสถานีสีลม และเชื่อมต่อกับสายสีม่วงที่สถานีเตาปูน
รถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-คลองบางไผ่ เป็นสายที่วิ่งออกไปทางจังหวัดนนทบุรีข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกสายที่มีความสำคัญเชื่อมผู้คนเข้าสู่เมือง
รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต เป็นรถไฟฟ้าตามแนวรถไฟฟ้าสายเหนือ เริ่มจากสถานีกลางบางซื่อ ผ่านจตุจักร หลักสี่ ดอนเมือง และสิ้นสุดที่รังสิต ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงทดลองวิ่ง จะเปิดให้ทดลองนั่งได้ภายในปีนี้
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เป็นสายที่กำลังก่อสร้างความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80%  สถานีเริ่มต้นอยู่ที่สถานีรัชดาภิเษก ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่สถานีลาดพร้าว คาดว่าจะเปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2565

สำหรับการเดินทางในย่านนี้ มีถนนสายสำคัญถึง 2 สายหลัก คือถนนพหลโยธิน  และถนนวิภาวดี ซึ่งถนน 2 สายนี้สามารถเชื่อมต่อกันได้ที่ซอยพหลโยธิน 18 ลัดเลาะมาออกที่ซอยวิภาวดี 3 และวิภาวดี 5  และยังใกล้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และทางด่วนศรีรัช ทำให้การเดินทางย่านนี้สะดวกสบาย

นอกจาก จตุจักร จะเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว จตุจักรยังอยู่ในแผนการพัฒนาศูนย์คมนาคมพหลโยธิน ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน 2,325 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นทั้งหมด 9 แปลง ครอบคลุมพื้นที่ย่านจตุจักร เพื่อส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางบางซื่อ

จตุจักร รายล้อมด้วย MEGA PROJECT

บิ๊กเมกะโปรเจ็กต์ “ศูนย์กลางบางซื่อ” HUB การเดินทางจากทุกทิศทุกทาง ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ศูนย์กลางบางซื่อ เป็นศูนย์กลางระบบรางแห่งใหม่แทนที่สถานีรถไฟหัวลำโพง รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางทุกระบบทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟทางไกล รถไฟชานเมือง รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานดอนเมือง และรถไฟความเร็วสูง โดยมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ถึง 264,862 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 3 แสนคนต่อวัน

การพัฒนาศูนย์กลางคมนาคมพหลโยธิน เพื่อเป็นศูนย์กลางเมืองใหม่  SMART CITY เป็นต้นแบบเมืองอัจฉริยะ นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน มีองค์ประกอบ 6 ด้าน

Mix Used Project หมอชิต คอมเพล็กซ์ ตึกแฝดสูง 36 ชั้น

โครงการหมอชิต คอมเพล็กซ์ เป็นโครงการมิกซ์ยูสมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 70,500 ตารางเมตร เป็นอาคารแฝด สูง 36 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทางเชื่อมต่อกันที่ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น ชั้นที่ 2-10 ชั้นที่ 33 และชั้นที่ 36 โดยชั้นบนสุดของอาคารมีโครงสร้างเชื่อมกันทำเป็นสวนลอยฟ้า มีร้านค้าและสกายวอล์กเชื่อมบีทีเอส หมอชิต ภายในโครงการมีทั้งอาคารสำนักงาน พาณิชยกรรม สถานศึกษา ภัตตาคาร ที่จอดรถ

จตุจักร NEW CBD ย่านธุรกิจศูนย์รวมออฟฟิศเกรดเอ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก

จตุจักร เป็นย่านธุรกิจที่มีความพร้อม เป็น NEW CBD ของฝั่งพื้นที่ทางเหนือของกรุงเทพฯ เป็นย่านที่เต็มไปด้วยสำนักงานออฟฟิศขนาดใหญ่ แหล่งงานใหญ่ของย่านนี้มีทั้งงานราชการ งานรัฐวิสาหกิจ และงานเอกชน อยู่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว แต่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งสำนักงานใหญ่การบินไทย วังเด็ก ซันทาวเวอร์

ส่วนบริเวณฝั่งตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว มีทั้ง ปตท.สำนักงานใหญ่ สำนักงานใหญ่บีโอไอ และกระทรวงพลังงาน รวมถึงตึกชินวัตร 3 ที่มีเส้นทางทะลุเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินได้

และอาคารสำนักงานใหญ่ฝั่งถนนวิภาวดีใกล้กับห้าแยกลาดพร้าว ที่กำลังก่อสร้างอย่าง S OASIS ตั้งอยู่ในซอยเฉยพ่วง เป็นโครงการอาคารสำนักงาน และพื้นที่เชิงพาณิชย์สูง 31 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ขนาดพื้นที่ใช้สอย 54,000 ตร.ม. ประกอบด้วย พื้นที่สำนักงาน 345 ยูนิต ร้านค่า 15 ยูนิต ที่จอดรถยนต์จำนวน 875 คัน ในพื้นที่โครงการ 6 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา  กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสร้างเสร็จปีพ.ศ. 2565

นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญที่พร้อมรองรับการใช้ชีวิต ทั้งสถานศึกษา ทั้งโรงเรียนหอวัง มหาวิทยาลัยเซนจอห์น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม โรงพยาบาลใหญ่ที่อยู่ใกล้ย่านนี้ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โรงพยาบาลเปาโล เกษตร

จตุจักร OZONE ของคนกรุงเทพฯ

รวม 3 สวนสาธารณะเป็นอุทยานสวนจตุจักร อุทยานระดับโลก

การรวม 3 สวนสาธารณะ เป็นแผนจากโครงการในการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะในการดูแลของ กทม. มีแผนการปรับปรุงทางเชื่อม 3 สวนสาธารณะบนพื้นที่ของถนนกำแพงเพชร 3 ได้แก่ สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ, สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และสวนจตุจักร เพื่อทำเป็น อุทยานสวนจตุจักร บนพื้นที่กว่า 727 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ศูนย์กลางการคมนาคมของกรุงเทพมหานคร ทำให้ อุทยานสวนจตุจักร กลายมาเป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ใหญ่กว่าสวนหลวง ร.9 ที่มีพื้นที่ 500 ไร่

จตุจักร HANG OUT AREA ย่านไลฟ์สไตล์
ของคนกรุงเทพฯ

นอกจากสำนักงานออฟฟิศ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สถานที่สำคัญต่างๆ ย่านจตุจักรยังเป็นศูนย์รวมแหล่งไลฟ์สไตล์ ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งเลย ทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่เปิดให้บริการมากว่า 40 ปีแล้ว และฝั่งตรงข้ามมีห้างชิคๆ อย่าง Union Mall เป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั้นมากมายทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เป็นห้างขวัญใจเด็กแนว  หรือจะขยับไปอีกหน่อย ก็มีห้างเมเจอร์รัชโยธิน เมเจอร์ อเวนิว นอกจากนี้ยังมีตลาดนัดจตุจักร แหล่งรวมสินค้าต่างๆ มากมาย ยังมี เจเจ มอลล์, มิกซ์ จตุจักร และยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ชิคๆ เป็นแหล่งแฮงเอาต์ที่รองรับการใช้ชีวิต

จตุจักรทำเลราคาที่จับต้องได้

 

ทำเลย่านจตุจักร เรียกได้ว่าย่านธุรกิจแห่งใหม่ เป็นศูนย์กลางการเดินทางของกรุงเทพฯ จุดเชื่อมต่อด้านการค้าการลงทุน แหล่งงานขนาดใหญ่ และยังเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ที่สำคัญอีกย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ และยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในแผนพัฒนาศูนย์คมนาคมพหลโยธิน ทำให้ราคาที่ดินในย่านมีการปรับตัว โดยเฉพาะบริเวณ 2 ฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต มีแนวโน้มปรับราคาขึ้นอีกหลายระดับในอนาคต หากการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเปิดให้บริการของศูนย์คมนาคมพหลโยธิน โดยราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์รอบปี 2559-2562 ถนนวิภาวดีรังสิตที่อยู่ในพื้นที่เขตห้วยขวาง พญาไท ดินแดง มีราคาอยู่ที่ 2.2 แสนบาท/ตารางวา (ตร.ว.) ถนนวิภาวดีรังสิต ในเขตจตุจักร ราคาอยู่ที่ 1.5-2.6 แสนบาท/ตร.ว. และถนนวิภาวดีรังสิต ในเขตดอนเมือง ราคาอยู่ที่ 1.2 แสนบาท/ตร.ว. จึงไม่น่าแปลกใจที่นักพัฒนาจะเลือกลงทุนในทำเลนี้ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดมิเนียม ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ราคา Resale ปรับตัวสูงขึ้นจาก Pre Sale 7.5-15.5% ต่อปี อัตราผลตอบแทนจากค่าเช่าคอนโดฯ มือสองอยู่ที่ 3.5-6.2%

สำหรับคอนโดฯ ใหม่ที่เปิดตัวในช่วงที่ผ่านมาเฉลี่ยปีละ 1-2 โครงการ แต่ก็กระแสเงียบๆ ไปบ้าง  ส่วนใหญ่จะเปิดอยู่แนวเส้นรถไฟฟ้าทั้ง สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง โดยเฉพาะในพื้นที่บางซื่อ-เตาปูน จากราคาเฉลี่ยประมาณ 50,000 บาท/ตร.ม.  ก็ขยับขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันราคาเฉลี่ยแตะ 100,000 บาท/ตร.ม.

ส่วนทำเลจตุจักร-บางซื่อเองก็มีการปรับตัวของราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาโดดเด่นที่สุด คงหนีไม่พ้นบริเวณสถานีจตุจักรที่มีราคาเปลี่ยนแปลงเฉลี่ย 15.5% ต่อปี ด้วยความพร้อมสมบูรณ์แบบของทำเลที่มีความสะดวกสบายทั้งศูนย์กลางการเดินทาง แหล่งงานขนาดใหญ่ แหล่งไลฟ์สไตล์คนเมือง รายล้อมด้วยโครงการเมกะโปรเจ็กต์  ทำให้บางโครงการที่เปิดใหม่ได้กระแสการตอบรับอย่างดีจน Sold out  และวันนี้เรามีอีกหนึ่งโครงการย่านจตุจักรที่ราคาเปิดตัว Pre Sale ดีที่สุด และถูกสุดในทำเลนี้กับโครงการ DENIM Jatujak ที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 95,000 บาท/ตร.ม. และเป็นโครงการ Highrise อีกด้วย ถ้าเทียบกับโครงการอื่นในทำเลเดียวกันถือว่าราคาดีกว่ามาก

 

DENIM Jatujak  โครงการที่จะทำให้
จตุจักรเปลี่ยนไป…

DENIM Jatujak  คอนโดมิเนียมไฮไลท์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนเมือง บนทำเลจตุจักรศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่สามารถบาลานซ์ชีวิตทั้ง 3 ด้าน LIVE WORK PLAY ศูนย์กลางการเดินทางสะดวก เชื่อมต่อทุกการเดินทางด้วยสถานีกลางบางซื่อ ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน และศูนย์กลางไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เป็นโครงการที่สะท้อนอัตลักษณ์ตัวตน พร้อมด้วยส่วนกลางที่อัดแน่นหลากหลายกิจกรรมให้เลือกใช้ชีวิตได้อย่างไร้ขีดจำกัดแบบ UNPLANNED

ตัวอาคารโดดเด่นด้วนการตกแต่งสไตล์เรียบง่าย แต่คงความเท่ ทันสมัย มีความประณีตของเส้นแนวตั้ง ลดทอนตัวอาคารที่ละขั้น ตามความสูงของอาคาร ออกแบบในลักษณะของ Art Deco ใช้เส้นสายที่เรียบง่าย และแข็งแรง เต็มไปด้วยพลัง พร้อมกับพื้นที่สวนที่โครงการให้มาถึง 2 ไร่ เป็นสวนขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับส่วนกลางที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกบ้าน พร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางที่แทรกตัวอยู่ในทุกอาคารให้คุณสนุกสนานไปกับการใช้ชีวิตอย่าง UNPLANED อย่างที่ใจต้องการ

พื้นที่ส่วนกลางสำหรับสายสุขภาพ ห้องออกกำลังกาย 2 ชั้น ที่ด้านล่างมีโซน Weight Training & Machine ส่วนชั้นล่างเป็นพื้นที่ Yoga & Pilates ได้เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และยืดเหยียด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ   และสระว่ายน้ำ Active Pool ระบบน้ำเกลือขนาดเทียบเท่าสระโอลิมปิก พร้อมชมวิวเมืองกรุงเทพฯ และยังมี Jogging Track เอาใจสายวิ่ง

และส่วนกลางโซน Lifestyle Facilities พื้นที่คุณสามารถเต็มที่กับทุกงานอดิเรก รวมถึงทุกปาร์ตี้ ทุกกิจกรรมที่ทำร่วมกับสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนๆ ได้อย่างอิสระชาร์ตพลังบวกให้กับชีวิต

Co-Kitchen Space พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการทำอาหาร พร้อมเชื่อมต่อโลกออนไลน์ด้วย Free WIFI
Rhythm Studio ห้องซ้อมดนตรี ให้คุณได้สนุกกับกิจกรรมกับเพื่อนได้อย่างไร้ขีดจำกัด

แต่ละอาคารเชื่อมต่อกันด้วย Sky Bridge ที่จะเชื่อมคุณไปยังพื้นที่ส่วนกลางของทุกตึกได้อย่างสบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้เพลิดเพลินกับกิจกรรมในทุกช่วงเวลาได้อย่าง PLAN TO LIVE UNPLANNED พร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้อง CCTV และคีย์การ์ดระบุชั้น

สำหรับทุกยูนิตที่ DENIM Jatujak ออกแบบอย่างเข้าใจไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนชอบกิจกรรม หรือชอบพักผ่อน ก็มีห้องหลายรูปแบบที่รองรับทุกความต้องการ ด้วยดีไซน์ที่ลงตัว และแบ่งสัดส่วนอย่างพอดีช่วยเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว และคุ้มค่ากับการใช้พื้นที่ในทุกตารางเมตรมีรูปแบบห้องในเลือกถึง 4 แบบ ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิต

 

และสำหรับโครงการ DENIM Jatujak พร้อมเปิดตึกใหม่ จองราคาเบาๆ แถมไม่เอาก็คืนเงินด้วย ราคาเริ่ม 1.xx
✔️ เดินทางสะดวกสบายใกล้ห้างสรรพสินค้า แหล่งรวมไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

✔️ เพียง 3 นาทีถึง BTS หมอชิต และ MRT จตุจักร

✔️ ส่วนกลางจัดเต็มมากกว่า 26 รายการ

ไม่มีเหตุผลให้ต้องคิด กับคอนโดที่แพลนไว้ให้ครบ

เพียงแค่ลงทะเบียน รับสิทธิพิเศษ*

ส่วนลดเพิ่ม 10,000 บ.*

คลิก https://bit.ly/3fsJgjx

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่ LINE @grandunity หรือคลิก https://lin.ee/43DSpj9sx

สามารถเข้าชมโครงการได้ทุกวันที่สำนักงานขาย DENIM Jatujak ตรง ซอย วิภาวดีรังสิต 3

เวลา 9.00 – 18.00 น.​

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*