ซีคอนฯรุกตลาด Blue Ocean แตกไลน์บริษัทในเครือ“ซีคอน ไอดี” สนองลูกค้า-สถาปนิก สร้างบ้านฟรีสไตล์รับเทรนด์หลังโควิด-19 ดีมานด์บ้านแพงโตถึง 60%  เผยลูกค้ากทม.-ปริมณฑลและต่างจังหวัด สนแล้ว 30 ราย ขนาดตั้งแต่ 600 ตารางเมตรขึ้นไป คาดปีแรกกวาดยอดขาย 200 ล้านบาท จากเป้ายอดขายรวมปี64 แตะ 1,700 ล้านบาท
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยว่า  หลังจากที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้ปรับมารุกตลาดบ้านในราคาที่สูงขึ้นมากขึ้น และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดจองบ้านระดับราคา 2-4 ล้านบาท หายไป 30%  โดยเฉพาะในช่วงล็อกดาวน์หายไปถึง 50% แต่เมื่อมีการคลายล็อกดาวนในช่วงเดือนมิถุนายน ทำให้ตลาดในกลุ่มออนไลน์มีอัตราการเติบโตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบ้านระดับราคา 5-20 ล้านบาท จากเดิมในปี 2562 ยอดขายจากกลุ่มออนไลน์อยู่ที่ระดับใกล้เคียง 200 ล้านบาท แต่ในปี 2563 ยอดจองได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 300 ล้านบาท และในปีนี้ก็จะมีรุกการโรดโชว์และทำตลาดออนไลน์มากขึ้น แต่ด้วยสภาวะการแข่งขันตลาดรับสร้างที่สูง แม้ว่าบริษัทฯจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ จึงต้องแสวงหาโอกาสในการทำตลาดใหม่ๆเพิ่มเติม ในกลุ่ม Blue Ocean  บริษัทฯจึงแตกไลน์บริษัทลูกเปิดบริษัท ซีคอน ไอดี จำกัด ขึ้นมา เพื่อเข้าไปรับงานออกแบบก่อสร้างบ้านให้กับลูกค้าที่มีแบบบ้านอยู่แล้ว หรือลูกค้าที่ยังไม่มีไอเดียในการออกแบบบ้าน และรับงานจากสถาปนิกในการสร้างบ้าน ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป

“จากการออกบู๊ธงานต่างๆผ่านมา พบว่าลูกค้าสัดส่วน 20% มีแบบบ้านมาให้บริษัทช่วยก่อสร้าง และบางส่วนมีไอเดีย แต่ไม่มีแบบบ้าน จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งริษัท  ซีคอน ไอดี จำกัด (Seacon ID)ขึ้นมา ซึ่งลูกค้าให้ความสนใจบ้านขนาด 600 ตารางเมตรขึ้นไป” นายมนู กล่าว

โดยกลุ่มลูกค้าที่สนใจบ้าน Seacon ID จะอยู่ในพื้นที่กทม.-ปริมณฑล สัดส่วน 60% และต่างจังหวัด 40% ขณะนี้มีลูกค้าที่อยู่ในระหว่างการเจรจาแล้วประมาณ 30 ราย แบ่งเป็นลูกค้าที่มีแบบแล้ว 25 ราย แยกเป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 20 ราย ,ต่างจังหวัด 5 ราย และยังไม่มีไอเดียในการออกแบบ 5 ราย  คิดในราคา 17,000-20,000 บาท/ตาราเงมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสเปคของวัสดุก่อสร้าง โดยตั้งเป้ายอดจองจาก Seacon ID ในปีแรกที่ 200 ล้านบาท จากเป้ายอดขายรวม 1,700 ล้านบาทในปี 2564 โดยจากการออกบูธงาน “รับสร้างบ้าน FOCUS 2021” และ “บ้านและสวนแฟร์ select 2021”สามารถทำยอดจองถึง 260 ล้านบาท” นายมนู กล่าว

นายมนู กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปี 2563 ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ทำให้ตลาดบ้านขนาดเล็ก ขนาดต่ำกว่า 200 ตารางเมตร  ราคา 2-4 ล้านบาท  ซึ่งเดิมมีอัตราการเติบโตถึง 30% เหลือเพียง 10% ขณะที่บ้านระดับราคาสูง ขนาด 350 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราการเติบโตเพิ่มจาก 30% เป็น 60% ส่วนบ้านระดับกลาง ขนาด 200-300 ตารางเมตร ราคา 4-7 ล้านบาท ยังทรางตัว โดยปัจจุบันซีคอนฯมีแบบบ้านสแตนดาร์ด ให้เลือกประมาณ 250  แบบ

“เราได้เล็งเห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างหลากหลายออกไป โดยลูกค้ากว่า 20% ที่มาคุยกับเราต้องการแบบบ้านของตัวเอง คิดเป็นรายได้กว่า 200 ล้านบาท เราจึงเปิดบริษัท Seacon ID เพื่อรองรับความต้องการและการขยายตัวในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบอย่างเดียว หรือสร้างบ้านจากแบบที่ลูกค้ามีอยู่ หรือทำให้ครบวงจร  คือทั้งออกแบบและก่อสร้าง บริษัท Seacon ID ทำให้ได้ตามที่ต้องการ โดยให้บริการออกแบบ และรับก่อสร้างแบบบ้านของลูกค้าทุกชนิด ทุก segment  ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านโครงการ Home Office, Apartment ฯลฯ โดยต้องมีพื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร (ตรม.)ขึ้นไป ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการคุณภาพครบวงจร ทั้งการขออนุญาตต่าง ๆ ตลอดจนการรับประกันงานโครงสร้างจากซีคอนด้วย” นายมนู กล่าว

นอกจากนี้ซีคอนยังพยายามหานวัตกรรมวัสดุก่อสร้างใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพการก่อสร้างให้ลูกค้าอีกด้วย “สภาวะสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทำให้เราต้องเสาะหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาบริการให้กับลูกค้าเพื่ออยู่สบายและความทนทาน โดยมีเทคโนโลยี “บ้านเย็นอยู่สบายปลอดภัยจากมลพิษและเชื้อโรค” จากญี่ปุ่น มาช่วยระบายความร้อนและลดความชื้นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่ม Oxygen เพื่อการนอนหลับพักผ่อนที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการใช้สีที่ทนต่อสภาวะอากาศทั้งแดดทั้งฝน รวมถึงป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย  และยังมีบริการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกบ้านอีกด้วย

“ช่วง Lockdown ที่มีผลกระทบบ้าง แต่เราก็มีช่องทาง Digital Marketing มาช่วยชดเชยงาน Exhibition, Roadshow และ Event ที่ขาดหายไปได้บ้าง โดยยอดจองตลอดปี 2563 เราทำได้ที่ 1,300 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าประมาณ 10%  แต่เรามั่นใจว่าตลาดรับสร้างบ้านยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบ้านขนาดใหญ่ หรือ ขนาด 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งซีคอนคาดว่านี่จะเป็นทิศทางของตลาดรับสร้างบ้านในปีนี้ด้วย” นายมนู กล่าว

สำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านแต่มีความกังวลเรื่องโควิด-19 ทางซีคอนฯมีมาตรการ Seacon Careป้องกันตามมาตรฐานของศูนย์ปกป้องบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงานขายทุกแห่ง งาน Exhibition หรือ Roadshow รวมถึงไซต์งานก่อสร้าง ทางซีคอนจัดเตรียมจุดสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียนใน Application ไทยชนะ มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เช็ดจุดสัมผัสต่าง ๆ ทุกชั่วโมง และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออยู่เป็นประจำ และสำคัญที่สุด คือพนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ให้บริการ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจของลูกค้า

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*