บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร ประเมินตลาดวัสดุก่อสร้างปี’64 มีโอกาสเติบโตได้สูงถึง 10% ลุยเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ NT-11 เพิ่มความหลากหลายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมนำหุ่นยนต์โรบอตช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อยกระดับสู่การเป็น Smart Factory ล่าสุดเปิดตัว ‘Diamond Studio’ บ้านน็อกดาวน์สำเร็จรูปเจาะฐานลูกค้าสร้างบ้านสำเร็จรูปและปรับปรุงบ้าน

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT
เปิดเผยว่า ตลาดวัสดุก่อสร้างในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตประมาณ 5-10% จะเห็นได้เห็นสัญญาณความต้องการสินค้าในช่วงไตรมาส4 ปีที่ผ่านมาต่อเนื่องมาช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโครงการที่เริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ รองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น

ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่(Modern Trade)ยังเดินหน้าลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการรถไฟฟ้าและการก่อสร้างทางพิเศษสายใหม่  รวมถึงปัจจัยจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้การซื้อสินค้าผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยมีความคึกคักมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการขายสินค้าและบริการปีนี้เติบโต 5% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,409 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 lทำให้การขายผ่านร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ (Modern Trade) และการขายผ่านงานโครงการบ้านจัดสรร (Project) ลดลง

ดังนั้นกลยุทธ์ดำนินงานของบริษัทในปีนี้ จะนำจุดแข็งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทั้งหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด อิฐมวลเบา คานทับหลัง มาช่วยสร้างฐานการเติบโตที่สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันการทำตลาด หลังจากเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ NT-11 เพื่อรองรับการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์เพิ่มขึ้นอีก 55,000 ตันต่อปี โดยเครื่องจักรใหม่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นด้านการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดกลุ่มไม้สังเคราะห์ เช่น ไม้ฝา ไม้เชิงชาย ไม้พื้น และไม้ตกแต่งอเนกประสงค์ เพื่อนำไปใช้ก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทั้งการสร้างบ้านใหม่หรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย

“สายการผลิต NT-11 จะรองรับการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์เพิมขึ้นอีก 5.5 หมืนตันต่อปี หนุนกำลังการผลิตโดยรวมของ DRT เพิมขนเป็น 1.15 ล้านตันต่อปี โดยเครืองจักรใหม่จะทำให้ประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตดีขึ้น เพราะมีความยืดหยุ่นในสายการผลิตสินค้าที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในด้านผลิตภัณฑ์”

นอกจากนี้บริษัทได้นำหุ่นยนต์โรบอร์ต (Robot)จำนวน 6ตัว เข้ามาใช้ในงานกลุ่มสินค้าไม้สำเร็จรูปและกระเบื้อง เพื่อทดแทนแรงงานคนและประหยัดต้นทุนค่าแรงกว่า 7 แสนบาทต่อปี รวมทั้งได้เตรียมผลิตขายบ้านสำเร็จรูป Diamon ให้กับคู่ค้าในกลุ่มผู้รับเหมาสร้างบ้านประกอบด้วย  โดยได้ออกแบบบ้านสำเร็จรูปขนาดพื้นที่ใช้สอย 75 ตารางเมตร  ภายใต้สโลแกน “สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง” โดยเฉพาะงานผนังใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ เป็นบอร์ดตกแต่งผนังพิมพ์ลาย Digital Printing Board ที่ได้นำเอาบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์มาพิมพ์ลายด้วย Digital Printing จากอิตาลี ผสมผสานเข้ากับหมึกพิมพ์แบบอนินทรีย์ที่มีความคงทนต่อสภาวะอากาศ ประกอบเข้ากับโครงเหล็กที่มีความแข็งแรง ส่วนงานพื้น ฝ้าเพดาน หลังคา จะใช้ผลิตภัณฑ์ตราเพชรเกือบทั้งหมด ทำให้บ้าน 1 หลัง ใช้เวลาก่อสร้างไม่ถึง 1เดือน เบื้องต้นตั้งราคาประมาณ 1.2 ล้านบาท

ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของผลิตภัณฑ์ตราเพชร  นายสาธิตกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาจะเน้นการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย (Agent) ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง  57.51% และสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 2,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ทำยอดขายได้ 2,310 ล้านบาท  รองลงมาเป็นการขายผ่านร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ (Modern Trade)ประมาณ 15.63% การขายไปต่างประเทศ (Export) และการขายผ่านงานโครงการบ้านจัดสรร (Project)

ขณะที่รายได้จากการขายสินค้ากว่า 90% มาจากการขายสินค้ากลุ่มหลังคา กลุ่มผนังและฝ้า กลุ่มไม้สังเคราะห์ และกลุ่มสินค้าพิเศษ เช่น โครงหลังคาสำเร็จรูป แผ่นสะท้อนความร้อน ที่เหลือเป็นรายได้จากการบริการ เช่น  การบริการถอดแบบหลังคา การติดตั้งระบบหลังคา และบริการขนส่ง เป็นต้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*