โควิด-16 พ่นพิษราคาที่ดินย่านทองหล่อช่วง 2 ปีปรับลด 10% ที่แปลงใหญ่ปล่อยขายยาก ล่าสุดได้ฤกษ์เปิดตัว“โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ” โครงการแรกของปี มูลค่ากว่า 5,400 ล้านบาท ปรับลดยอดขายช่วงพรีเซลเพียง 40% เชื่อหลังโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จปี67 กำลังซื้อ-ผู้เช่าต่างชาติคืนตลาดแน่
นายธีรพล วรนิธิพงศ์
นายธีรพล วรนิธิพงศ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นได้ส่งผลกระทบต่อดีมานด์ในย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นทำเลทองในย่านสุขุมวิทพอสมควร ขณะที่ราคาขายที่ดินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็ปรับลดลงมาประมาณ 10% โดยเฉพาะที่ดินแปลงใหญ่ที่เป็นรอยต่อใกล้กับถนนเพชรบุรี ลดลงมาที่ 1.4-1.6 ล้านบาท/ตารางวา แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้สถานการณ์ต่างๆคงคลี่คลาย และกำลังซื้อโดยเฉพาะชาวต่างชาติจะกลับมา

ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวโครงการ“โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ” (NOBLE FORM THONGLOR ) ซึ่งเป็นโครงการแรกของปี 2564 จากที่ประกาศเปิดตัวใหม่ในปีนี้ทั้งหมดรวม 11 โครงการ มูลค่ารวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 45,100 ล้านบาท(ลบ.) แบ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัทฯ จำนวน 5 โครงการ โครงการที่ร่วมทุนกับบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS จำนวน 5 โครงการ

โดยโครงการ “โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ” ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 2 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯสูง 46 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 31.77-76.17 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 6.5-19.5 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 236,000 บาท/ตารางเมตร จำนวนทั้งสิ้น 546 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 5,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดพรีเซลในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นวันแรก ซึ่งจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทปรับยอดขายในช่วงพรีเซลลดลงมาเหลือเพียง 40% เท่านั้น จากช่วงระยะเวลาปกติในช่วงพรีเซลจะมียอดขายถึง 60% และทั้งปีคาดว่าโครงการดังกล่าวจะมียอดขายถึง 60% ส่วนในอีก 2 อีกถัดไปจะมียอดขายปีละประมาณ 20% ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายได้พอดีกับที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายน 2567 โดยลูกค้าที่ซื้ออยู่จริงจะมีในสัดส่วน 50% และซื้อเพื่อการลงทุนอีก 50%
โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ

“เดิมโครงการนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน 2563 แต่จากการแพร่ะระบาดของโควิด-19 จึงเลื่อนที่จะเปิดตัวในเดือนมกราคม 2564 แต่ก็เกิดการแพร่ะระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้เลื่อนการเปิดตัวอีกครั้งมาในเดือนกุมภาพันธ์ นี้ ซึ่งถือเป็นโครงการที่ 3 ของบริษัทฯที่เปิดบนทำเลทองหล่อ หลังจากที่เปิดจาการโครงการแรก โนเบิล ออรา ทองหล่อ (Noble Ora Thonglor) ในปี 2546 ราคาขายเริ่มต้นขณะนั้นที่ 50,000-60,000 บาท/ตารางเมตร และโครงการโนเบิล โซโล(Noble Solo) ในปี 2549 ราคาขายเริ่มต้นขณะนั้นที่ 70,000-80,000 บาท/ตารางเมตร”นายธีรพล กล่าว

นายธีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในช่วงที่โควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาในช่วงนี้ แต่เชื่อว่าหลังจากที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในอีก 3 ปีข้างหน้า สถานการณ์ต่างๆก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ลูกค้าชาวต่างชาติก็จะกลับมา และสามารถปล่อยเช่าได้อย่างแน่นอน โดยห้องขนาด 1 ห้องนอน สามารถปล่อยเช่าได้ในราคา 25,000-30,000 บาท/เดือน ,ห้องขนาด 2 ห้องนอน สามารถปล่อยเช่าได้ในราคา 50,000-65,000 บาท/เดือน และห้องขนาด 3 ห้องนอน สามารถปล่อยเช่าได้ในราคา 75,000-100,000 บาท/เดือน โดยการันตีผลตอบแทน(RENTAL YIELD)ประมาณ 4-5%

“ในปี 2564 นี้ ตลาดคอนโดฯในย่านทองหล่อจะเริ่มทยอยกลับมาเปิดตัว ซึ่งเท่าที่เห็นในปีนี้น่าจะมีซัพพลายใหม่ประมาณ 3 โครงการ คือ “โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ” ,โครงการ “SCOPE Promsri’ ของ บริษัท สโคป จํากัดมี แผนเปิดขายในไตรมาส 1/2564 เป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้น ระดับ International Premium มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท มีเพียงไม่เกิน 150 ห้องพัก ทําเลตั้งอยู่ในซอยพร้อมศรี และโครงการ “ไคลน์ ทองหล่อ”(KLEIN THONG LO) ของกลุ่มบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด จำนวนประมาณ 500 ยูนิต” นายธีรพล กล่าวในที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*