ตลาดน้อย ถ้าพูดถึงย่านนี้คงรู้จักกันว่าเป็นย่านเก่าแก่ เป็นชุมชนชาวจีนหลากหลายวัฒนธรรมทั้งจีนแต้จิ๋ว จีนไหหลำ จีนฮกเกี้ยน จีนฮากกา อาศัยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ที่ขยายตัวมาจากย่านสำเพ็ง มาอาศัยตั้งรกรากอยู่ริมน้ำเจ้าพระ ชุมชนแถบนี้มีการผสมผสานวัฒนธรรมไทย-จีน อย่างกลมกลืนทั้งความเชื่อ อาหารการกิน การดำรงชีวิต รวมถึงที่อยู่อาศัย อาคารบ้านเรือนในย่านนี้มีความเก่าแก่ผ่านกาลเวลา เป็นชุมชนความจีนที่มีเอกลักษณ์

ตลาดน้อย เซียงกงแห่งแรกของประเทศ

หากใครได้ไปเดินเล่นย่านตลาดน้อยคงได้เห็นอะไหล่เครื่องยนต์ กองๆ สุมๆ กันอยู่ กับกลิ่นน้ำมันที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่  เมื่อย้อนกลับไปรุ่นอากงอาม่าเราที่อพยพเข้ามาค้าขาย ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ริเริ่มธุรกิจค้าขายอะไหล่รถยนต์  เมื่อเห็นซากรถยนต์เก่า ก็นำมารื้ออะไหล่ มาซ่อมแซมแล้วขายต่อ หรือนำมาหลอมรวมขายเป็นเหล็กก็ได้ราคา และในยุคนั้นเองก็นิยมอะไหล่เครื่องยนต์เก่า เพราะอะไหล่ใหม่ค่อนข้างมีราคาสูง ทำให้กิจการขายอะไหล่มือสองเฟื่องฟูมาก และทำให้ย่านนี้เป็นย่านค้าขายอะไหล่เครื่องยนต์เก่าแก่ที่สุด ถ้าหากเอาอะไหล่เก่าในตลาดน้อยมากองรวมกันคงได้ภูเขาลูกย่อมๆ เป็นแน่ และในตลาดน้อยเองก็มีร้านเครื่องยนต์มากถึง 38 ร้าน ไม่รวมร้านเล็ก ร้านน้อยที่เพิ่งเปิดใหม่ ซึ่งแต่ละร้านจะมีอะไหล่ตั้งแต่ รถเล็ก รถใหญ่ รถกระบะ บรรทุก สิบล้อ ทั้งฝั่งยุโรป และญี่ปุ่นให้เลือกสรรไปจนถึงสมอเรือ  และไฉ่ย้งยานยนต์ ก็เป็นหนึ่งร้านอะไหล่เครื่องยนต์ในย่านตลาดน้อย

จุดเปลี่ยนจากเซียงกงใหญ่แห่งตลาดน้อย
เป็นย่านสุดฮิปของ
เหล่าฮอปเปอร์

กาลเวลาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปจากศูนย์รวมอะไหล่เครื่องยนต์ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงย่านตลาดน้อยให้เข้ากับยุคนี้  ด้วยเหตุผลหลักๆ การพัฒนาเครื่องจักรกล เครื่องยนต์ต่างๆ จนเราเองกลายเป็นฐานการผลิตอะไหล่ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้เอง ทำให้ความนิยมอะไหล่เครื่องยนต์มือสองลดลง ทำให้กิจการอะไหล่เครื่องยนต์ไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนอดีต ทำให้ร้านอะไหล่เครื่องยนต์หลายๆ ร้านต่างปิดตัวลง  บางร้านปล่อยให้บ้านเรือน ร้านค้าแถวนั้นทิ้งร้างลง  คนรุ่นใหม่ก็ต่างขยับขยายย้ายออกไปอยู่ชานเมืองที่มีพื้นที่มากขึ้น เหลือเพียงคนเก่าคนแก่ที่ยังคงอยู่ในย่านนี้  ตึกแถวเก่าบ้างตึกถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างเงียบเหงา แต่ทำให้ตลาดน้อยเต็มไปด้วยเสน่ห์สวยงามน่าค้นหา บางแห่งถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย บ้างเปลี่ยนเป็นคาเฟ่ บ้างเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร บ้างเปลี่ยนเป็นโฮสเทล แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือเสน่ห์ของชุมชนชาวไทย-จีนที่ผสมผสาน เป็นชุมชนที่น่ารักคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้าไป และตลาดน้อยยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลแสงสี Awakening Bangkok จัดโดย Time Out Bangkok ซึ่งได้การสนับสนุนการจัดงานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประจำทุกปี และย่านตลาดน้อยยังเป็นย่านที่เต็มไปด้วยร่องรอยประวัติศาสตร์ ที่ผสมผสานของวัฒนธรรม ผ่านตึกเก่า อาคารเก่าทรงคุณค่าหลายแห่ง

จากย่านร้านอะไหล่ยนต์ เป็นโฮสเทล
สไตล์จีนในคอนเซ็ปต์บ้านสุดอบอุ่น

ไฉ่ย้ง ยานยนต์ ร้านอะไหล่เครื่องยนต์แห่งหนึ่งในตลาดน้อยที่เปิดมากว่า 3 รุ่น  แต่วันนี้ปรับเปลี่ยนเป็นโฮสเทลคาเฟ่สไตล์จีนย้อนยุคที่ตกแต่งร้านให้เข้ากับบรรยากาศชุมชนจีนของย่านตลาดน้อย เจ้าของโฮสเทลจากตึกแถวเก่าหลังนี้เล่าให้ฟังว่า ตั้งใจกลับมารีโนเวทตึกแถวเก่าห้องนี้ให้คุณพ่อ เพื่อที่คุณพ่อจะได้กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดของเขา แต่ด้วยคุณพ่ออายุมากแล้วจะให้มาอยู่คนเดียวที่นี่ก็คงไม่สะดวกเท่าไหร่  เลยเปลี่ยนความตั้งใจจากรีโนเวทบ้านเพื่ออยู่อาศัย กลายเป็นโฮสเทลสไตล์จีนย้อนยุคแห่งแรกในย่านตลาดน้อย ด้วยความตั้งใจให้ที่นี่เป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่น ที่ใครผ่านไปผ่านมาสามารถแวะเข้ามานั่งคุย นั่งเล่นจิบชาให้หายเหนื่อยก่อนที่จะเดินทางไปต่อ  เหมือนญาติสนิท เพื่อน คนรู้จักกัน แวะเข้ามาทักทายกันให้หายคิดถึง ถามไถ่สารทุกข์ สุขดิบ เหมือนสมัยที่เป็นบ้าน ส่วนด้านล่างของโฮสเทลจึงตั้งให้เป็นคาเฟ่กึ่งสโลว์บาร์ในคอนเซ็ปต์จีนย้อนยุค  ส่วนด้านบนเป็นโฮสเทลสไตล์จีนเข้ากับบรรยากาศรอบๆ ตกแต่งห้องสไตล์จีน ที่ตั้งใจให้คนที่มาพักต้องได้รูปภาพสวยๆ กลับไป

ไฉ่ย้งโฮสเทลกลิ่นอายจีนอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน

ไฉ่ย้ง ตั้งอยู่ซอยเจริญกรุง 20 จากปากซอยเจริญกรุงเดินตรงเข้ามา ผ่านร้านอะไหล่ยนต์ ร้านขนมเปี๊ยะ และไฉ่ย้งอยู่ตรงข้ามกับวัดอุภัยราชบำรุง หรือวัดญวน  ด้านหน้าทางเข้าเป็นประตูทรงโค้งตามแบบฉบับบ้านชาวจีนในอดีต ตัดด้วยขอบสีดำเข้ม ทำให้ประตูโค้งมีเสน่ห์โดดเด่นสะดุดตา ชวนให้เข้าไปค้นหา ด้านล่างเป็นคาเฟ่สไตล์จีน ขึ้นไปด้านบนเป็นห้องพัก  เริ่มจากโถงบันไดตกแต่งด้วยโคมเต่งลั้งสีแดงสด ยิ่งเปิดไฟตอนกลางคืนยิ่งสวยงามสะดุดน่า กับบานหน้าต่างฉลุลายแบบจีนเป็นอีกมุมที่สวยงามมาก

 

ล็อบบี้ทางขึ้นห้องพัก

ไฉ่ย้ง เป็นตึกแถว 3 ชั้น ขนาด 3 คูหา ที่ชั้น 2-3 เป็นโฮสเทลมีทั้งแบบห้อง 6 ห้อง ในคอนเซ็ปต์ครอบครัวชาวจีน ทั้ง 2 ชั้น ออกแบบให้ต่างกันทั้งขนาด และการตกแต่ง ชั้น 2 เป็นเหมือนห้องนอนของลูกๆ หลานๆ และไม่มีห้องน้ำในตัว แต่มีห้องน้ำไว้รองรับทั้ง 2 ฝั่ง ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ซึ่งบ้านชาวจีนจะไม่นิยมสร้างห้องน้ำไว้ในห้องนอน  ส่วนชั้น 3 เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ เสมือนเป็นห้องของคุณพ่อ คุณแม่ หัวหน้าครอบครัวที่จะนอนห้องใหญ่สุดของบ้าน สำหรับห้องใหญ่เป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เลือกพักที่ห้องนี้ก็สะดวก และเป็นส่วนตัวมาก

โถงบันไดทางขึ้น แต่งด้วยโคมเตงลั้งสีแดง เข้ากับฉากหลังสวยงามสะดุดตา
ประตูห้องพัก ด้านบนชั้น 3 สีแดงโดดเด่น

จากห้องพักสามารถมองออกไปเห็นวิวตึกเก่าในย่านตลาดน้อย  และมองเห็นหลังคาวัดญวณ หลังคาเก๋งจีนสวยงาม ยิ่งทำให้ได้บรรยากาศ เหมือนพักผ่อนอยู่ที่ห้องพักในเมืองจีนเลย ซึ่งคอนเซ็ปต์ของที่นี่ตั้งใจให้เหมือนบ้านที่เพื่อน คนรู้จัก ญาติสนิทแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน และพักผ่อนที่บ้าน ทำให้รู้สึกอบอุ่น อุ่นใจทุกครั้งที่มาพักที่นี่

ไฉ่ย้ง คาเฟ่สไตล์จีนย้อนยุคในย่านตลาดน้อย

ชั้นล่างเป็นคาเฟ่สไตล์จีน กึ่งสโลว์บาร์ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่บางชิ้นเป็นไม้สักเก่าแก่ แกะสลักสวยงามเข้ากับร้าน ตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้ของชาวจีน ด้านในเป็นบาร์เครื่องดื่มที่ในอนาคตตั้งใจจะเปิดเป็นบาร์ให้นั่งชิลกัน โถงกลางร้านตกแต่งด้วยชุดเก้าอี้นั่งแบบวินเทจ ให้เลือกนั่งกันตามสบาย

ส่วนเครื่องดื่ม ขนม ทางร้านยังคงคอมเซ็ปต์ความเป็นจีน  เครื่องดื่มของร้าน มีชา กาแฟ และน้ำบ๊วยแบบจีน โดยกาแฟทางร้านเลือกใช้กาแฟยูนนาน ผ่านกรรมวิธีสกัดเย็น นำกาแฟบดมาแช่ในน้ำเย็น และนำมาสกัด ได้กาแฟรสชาติหอมของเมล็ดกาแฟ และกาแฟ Clod Brew เป็นกาแฟที่มีคาเฟอีนต่ำ แต่ได้รสชาติที่หอมหวานกว่าแบบวิธีอื่น

สำหรับเมนูกาแฟของทางร้านที่อยากแนะนำ คือ กาแฟหล่อฮั้งก้วย กาแฟ Cold Brew สกัดกลิ่นหอม ผสมกับน้ำหล่อฮั่งก้วย รสชาติเข้ากันได้อย่างลงตัว ชุ่มคอ และยังช่วยแก้ร้อนในได้อีกด้วย

กาแฟสกัดเย็นกับน้ำหล่อฮั่งก้วย เข้ากันมา สดชื่น ดับร้อน และแก้ร้อนในได้ด้วย

อีกหนึ่งเมนูที่อยากให้ลองคือ เมนู น้ำบ๊วยโซดา ของทางร้านที่เลือกใช้ทั้งบ๊วยสด และบ๊วยแห้งในการปรุงสูตรลับของร้าน ได้น้ำบ๊วยที่หอมหวานสดชื่น ดับร้อนได้เป็นอย่างดี และไม่เหมือนที่ไหนมาก่อน

น้ำบ๊วยโซดา

และบรรดาขนมเปี๊ยะไส้ต่างๆ ทั้งไส้ถั่ว ไส้ฟัก ไส้โหงวหยิ้ง และไส้มันม่วง  และขนมจีบไส้สังขยา ชื่อขนมจีบ แต่ไม่ใช้ขนมจีบแบบที่เราเข้าใจกัน ขนมจีบไส้สังขยา เป็นของดีเมืองตรังคล้ายกับพัฟ แต่ใส่ไส้สังขยาหอมหวานกำลังกินเลย

สำหรับขนมที่อยากให้ลองเมนูซิกเนเจอร์ อ้ายหยูน้ำลำไย เมนู พุดดิ้งน้ำลำไยแช่เย็นๆ หอมหวานสดชื้น ท็อปด้วยเนื้อลำไย และพุทราจีน และเม็ดเต๋ากี๊ เป็นเมนูที่อยากให้ลอง เพราะอร่อย สดชื่นมาก

ส้มเช้งเชื่อม สำหรับลูกหลานชาวจีนคงคุ้นเคยกับขนมเปลือกส้มที่อากง อาม่าชอบกินกัน ทางร้านได้เอาลูกส้มทั้งลูกมาทับ และเชื่อม ได้เป็นขนมที่กินได้ทั้งเปลือกรสหวาน และหอมกลิ่มเปลือกส้ม กินกับน้ำชาร้อนๆ รสชาติตัดกันได้ดี

ขนมของที่ร้านไฉ่ย้งชวนให้นึกถึงวันเวลาในวัยเด็ก ขนมเหล่านี้เป็นของที่เห็นจนชินตาที่อากง อาม่า พ่อ แม่ เราชอบกิน แต่สำหรับเรารู้สึกเป็นขนมอะไร อร่อยสู้ไอศกรีม โดนัดก็ไม่ได้ แต่เวลาเปลี่ยนแปลงไปเมื่อได้กลับมาได้กินอีกครั้งกลับเป็นขนมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเช่นเดียวกับ ไฉ่ย้ง ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวที่น่าค้นหา จากรุ่นอากงสู่รุ่นหลาน 3 ชั่วอายุคนของตึกแถวเก่าหลังนี้…ไฉ่ย้ง

ไฉ่ย้ง เจริญกรุง 20
เวลา จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-18.00
MRT หัวลำโพง ทางออก 1 จะเดินเล่นเลาะๆ มา หรือนั่งวินมอร์ไซต์มาก็ไม่ไกล

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*