ตลาดคอนโดมิเนียมเช่าจะยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากหลายทางต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2564 แม้ว่าแนวโน้มเรื่องของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในภาระของเจ้าของคอนโดมิเนียมเช่าที่ลงทุนซื้อไว้หลายห้องอาจมีความเป็นไปได้ที่จะลดหย่อนลงมาจากเกณฑ์ที่กำหนด เพียงแต่ยังไม่สรุปแบบ 100% เท่านั้น

แต่เรื่องที่น่ากังวลคือ การเข้ามาแข่งขันของโรงแรมซึ่งมีความพร้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกหรืออะไรหลายๆ อย่างที่เพียบพร้อมกว่า อีกทั้งบางแห่งยังเสนอค่าเช่ารายเดือนที่ต่ำกว่าคอนโดมิเนียมเช่าแบบเห็นได้ชัด ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 มีความเป็นไปได้ที่จะมีโรงแรมเข้าร่วมในการแข่งขันมากขึ้น เพราะสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มกลับมาสร้างความวิตกกังวลให้กับคนไทยอีกครั้งในช่วงกลางเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อเนื่องถึงช่วงต้นปี พ.ศ. 2564 ดังนั้นโรงแรมก็จำเป็นต้องการทางออกหรือเตรียมแผนรับมือต่อเนื่อง ซึ่งการปล่อยเช่าแบบรายเดือนเป็น 1 ในทางเลือกที่ผู้ประกอบการเจ้าของกิจการโรงแรมให้ความสนใจ แม้ว่าจะได้รายได้ลดลงแต่ก็ยังดีกว่าเปิดโรงแรมรอลูกค้ารายวันซึ่งแทบจะไม่มีเลยในสถานการณ์แบบปัจจุบัน

ภาพรวมของการลงทุนในคอนโดมิเนียมในอนาคต อาจจะไม่ใช่สวรรค์ที่ปลอดภัย “Save Haven” ของคนมีเงินเย็นเพราะมีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้า (ผู้เช่า) ที่มีจำกัด และการที่มีนักลงทุนเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนในระยะยาวมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งกลุ่มของนักลงทุนที่ซื้อทีละหลายห้องขึ้นไปถึงหลักสิบห้อง และกลุ่มที่ซื้อทีละ 1 – 2 ห้อง รวมไปถึงกลุ่มที่ซื้อแบบลงขันกันหลายๆ คนเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็นำมาบริหารจัดการและแบ่งผลประโยชน์กันภายในกลุ่มตามสัดส่วนเงินลงทุน แต่อย่างที่บอกไปว่ากลุ่มผู้เช่ามีจำกัด ดังนั้นเจ้าของคอนโดมิเนียมเช่าก็จำเป็นต้องแข่งขันกัน หรือพยายามในการสร้างความน่าสนใจให้กับยูนิตคอนโดมิเนียมของตนเองทั้งการตกแต่งพร้อมอยู่ รวมไปถึงลดค่าเช่า ซึ่งมีผลให้ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมเช่าขาดความน่าสนใจลงไปเลย และเมื่อมีการลดค่าเช่าเกิดขึ้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะต่อเนื่องในระยะยาว เพราะเมื่อตลาดรับรู้แล้วก็อาจจะมีการหาคอนโดมิเนียมเช่าในระดับราคานี้ต่อไป ชาวต่างชาติส่วนหนึ่งที่เข้ามาเป็นผู้ซื้อในตลาดคอนโดมิเนียมก็เป็นอีกกลุ่มที่เป็นผู้ปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมเพราะพวกเขาต้องการซื้อเพื่อลงทุนเช่นกัน ดังนั้นกลุ่มผู้เช่าต่างชาติบางกลุ่มอาจจะลดน้อยลงเพราะไปเช่าจากเจ้าของคอนโดมิเนียมที่เป็นคนชาติเดียวกันมากกว่า

ทำเลที่อาจจะยังพอไปได้ในตลาดคอนโดมิเนียมเช่า คือ พื้นที่รอบๆ มหาวิทยาลัยที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หน่วยงานราชการขนาดใหญ่ และศูนย์คมนาคมหรือสถานีรถไฟฟ้า แต่ต้องเป็นคอนโดมิเนียมเช่าราคาไม่แพง หรือต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น

ถ้าค่าเช่ามากกว่านี้ก็อาจจะได้รับความสนใจลดลง ปัจจุบันเห็นคอนโดมิเนียมเช่าในหลายโครงการที่อยู่ในพื้นที่ CBD หรือสุขุมวิทที่ลดค่าเช่าลงมากัน 10 – 20% หรือมากกว่านี้ อีกทั้งหลายคนที่เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมเช่า รวมไปถึงนายหน้าก็เริ่มมีเสียงบ่นออกมาว่าโดนผู้เช่าต่อรองค่าเช่าเพราะรู้ว่าช่วงนี้หาคนเช่ายาก และมีเจ้าของห้องบางรายตกลงยอมที่จะลดค่าเช่าลงมาเพื่อขอให้มีผู้เช่ามีรายได้มาจ่ายค่าผ่อนธนาคาร

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*