บางรักในอดีต ขอบคุณที่มา https://www.silpa-mag.com/

บางรัก ในอดีตเป็นท่าเทียบเรือที่สำคัญ มีเรือขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ ต้องมาจอดเทียบท่า เป็นแหล่งค้าขายที่สำคัญจุดแลกเปลี่ยนสินค้าจากนานาชาติที่หมุนเวียนกันเข้ามา ทำให้บางรัก เป็นชุมชมที่มีความพิเศษ มีควาหลากหลายทางเชื้อชาติ ภาษา และวัฒนธรรม ทั้งจากฝั่งตะวันตก และตะวันออก ทำให้มีความเป็นเอกลักณ์ของชุมชนที่มีความหลากหลาย

ชุมชนบางรัก แต่เดิมเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของ คนไทย ที่ประกอบอาชีพทำสวน ทำนา บริเวณ 2 ฝั่งคลองสีลม และตามแนวถนนสีลม ตั้งแต่ศาลาแดงไปจนถึงถนนเดโช  และตั้งแต่ถนนประมวญไปถึงถนนเจริญกรุง  ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่เป็นย่าน CBD ที่สำคัญ เป็นย่านออฟฟิศเกรดเอของเมืองกรุง

สมัยรัชกาลที่ 4 ได้ประกาศให้ชาวจีนในกรุงรัตนโกสินทร์หยุดขยายตัวทางทิศใต้ไปตลาดน้อย  และให้ชาวยุโรปเข้าไปตั้งถิ่นฐานในย่านบางรัก ซึ่งชาวยุโรปได้ขอให้สร้างถนนเพื่อให้เดินทางสะดวกสบาย เลยกลายเป็นที่มาของถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของกรุงเทพฯ

สมัยรัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 6 เหล่าขุนนางข้าราชการ และเศรษฐีใหม่ ได้ขยับขยายมาตั้งบ้านเรือนในย่านสีลม เป็นทำเลที่ดี อากาศดี และอยู่ไม่ไกลจากเขตพระนคร และในอดีตนิยมสัญจรทางน้ำ และย่านนี้เดินทางสะดวกใกล้ท่าเรือใหญ่  นอกจากนี้ในย่านนี้ยังมีชาวอิสลาม ประกอบอาชีพเลี้ยงโค เลี้ยงแพะ อาศัยอยู่ตามริมคลองซอยประดิษฐ์  และในย่านนี้ยังเป็นที่ตั้งของวัดแขก วัดพระศรีมหาอุมาเทวี และมัสยิดมีรุซุดดีน เป็นศูนย์กลางของชาวฮินดูและมุสลิม เป็นหลักฐานสำคัญของการเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวฮินดู และอิสลาม

ต่อมาหลังการสร้างถนนสีลม ก็เริ่มมีชาวจีน ทยอยเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานทำมาค้าขาย เพราะย่านสำเพ็ง ตลาดเก่า และเยาวราช เริ่มมีประชากรหนาแน่น ซึ่งส่วนใหญ่ทำการค้าขาย เป็นเจ้าของโรงสี โรงเลื่อย รวมถึงรับราชการที่โรงภาษีและกรมเจ้าท่า

ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรือง เกิดการพัฒนาประเทศทั้งการค้า การคมนาคม เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศ และในย่านนี้เอง เริ่มมีการขยายตัวออกมาทางทิศตะวันออก จากสีลมไปสยาม ไปถึงสาทร และสุขุมวิท และถนนเจริญกรุงที่เคยเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางสังคม กลับค่อยๆ เปลี่ยนแปลงคนรุ่นใหม่ที่เคยอยู่ในย่านตลาดน้อย บางรัก ต่างย่านถิ่นฐานกันออกไป เหลือแต่รุ่นพ่อ รุ่นแม่ที่ยังคงอยู่ ย่านบางรักเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และพื้นที่แถบริมแม่น้ำเจ้าพระยาแทบจะไม่ได้รับการพัฒนาเลย เลยยังเหลือร่องรอยประวัติศาสตร์ให้เราได้ศึกษากัน

บางรัก ชื่อนี้ไม่ได้เกี่ยวกับ ความรัก แต่อย่างใด

ชื่อ บางรัก นั้น ไม่ได้มีที่มาเกี่ยวกับความรักแต่อย่างใด  พระยาอนุมานราชธนสันนิษฐานว่า สำหรับที่มาของชื่อ บางรัก นั้นมีข้อสันนิษฐานอยู่ 2 ข้อ คือ ข้อสันนิษฐานที่ 1 มาจากชื่อโรงพยาบาล หรือ โรงหมอ ที่มีมิชชันนารีรักษาแบบสมัยใหม่ ที่ผู้คน ชาวบ้านนิยมมารักษา เรียกว่า บางรักษ์ และเพี้ยนมาเป็น บางรัก แบบในปัจจุบัน  ข้อสันนิษฐานที่ 2 คือ บริเวณนี้มีคลองสายเล็กๆ ไหลผ่านลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มีชาวบ้านมาเจอท่อนไม้ซุงขนาดใหญ่ซึ่งเป็น ต้นรัก ต้นใหญ่จมอยู่ในคลอง ความใหญ่โตของ ต้นรัก นี้เป็นที่กล่าวขานกัน ไม่มีใครทราบที่มาที่ไปของ ต้นรัก  ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่าไม้รัก เวลาผ่านไปจึงกลายเป็น บางรัก และคลองที่พบต้นรัก เรียกกันว่า คลองต้นซุง และเมื่อคลองนี้ถูกถม จึงกลายเป็น ตรอกซุง อย่างในปัจจุบัน

ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

บางรักในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ยังคงความเป็นย่านการค้าของชาวจีนที่เก่าแก่อีกย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ ตึกแถวเก่าที่เคยที่ร้านค้า ร้านโชห่วย ก็เปลี่ยนไปตามเวลา ตามสมัยนิยม ร้านค้าสมัยใหม่เข้ามาแทนที่ แต่ยังคงเหลือร่องรอยของอดีตให้เราได้ค้นหา

ปัจจุบันตึกแถวย่านนี้หลงเหลือความเป็นตึกเก่า ย่านค้าขายที่เคยรุ่งเรืองในอดีต มีร้านอาหารอร่อย เจ้าดังหลายเจ้า เป็นเหมือนสวรรค์ของนักกินเพราะมีแต่ของอร่อยๆ ชวนชิม

เดินทาง ทางน้ำ ทางบก เชื่อมต่อทางราง


ในอดีตการเดินทางย่านบางรักใช้การสัญจรทางน้ำเป็นหลัก มีท่าเรือใหญ่เป็นหลักในการเดินทาง ต่อมามีการสร้างถนนซึ่งเป็น ถนนสายแรก ของประเทศไทย คือถนนเจริญกรุง การสัญจรทางบกจึงกลายเป็นเส้นทางหลักของชาวสยามสมัยนั้น  ปัจจุบันถนนเจริญกรุงก็เป็นถนนสายสำคัญอีกสายของกรุงเทพฯ  ต่อมามีการสร้างรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศ แบ่งเป็น 2 เส้นทางคือ สายสุขุมวิท วิ่งระหว่างหมอชิต-อ่อนนุข  และสายสีลมสุดที่สถานีสะพานตากสิน นับเป็นจุดเปลี่ยนของการเดินทางในย่านนี้ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งทางน้ำ ทางบก และทางราง

บางรัก ย่านไลฟ์สไตล์ชิคๆ

นอกจากย่านบางรักจะเต็มไปด้วยร้านอาหารเจ้าดังมากหมายแล้ว  ทั้งโจ๊กปรินซ์ บางรัก เป็ดย่างประจักษ์ ไต๋ตงหูฉลาม-รักนก ก๋วยเตี๊ยวเกี๊ยวโต เป็นแหล่งอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ มีคาเฟ่เก๋ๆ ให้นั่งเล่นจิบกาแฟ

บางรัก ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมดังชั้นนำอันดับ 1 อย่าง โรงแรมแชงกรีลา ที่โดดเด่นอยู่เคียงคู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาแล้วกว่า 35 ปี เป็นโรงแรม 5 ดาว อยู่บนเนื้อที่กว่า 12 ไร่ สูง 15 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด 682 ห้อง บนถนนเจริญกรุง ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือสาทร และ รถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสิน

และนอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น วัดยานนาวา วัดสุทธิวราราม โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคงกรุงเทพ

ถึงกาลเวลาจะเปลี่ยนไปแต่ไหน แต่ บางรัก ก็ยังคงสวยงามอย่างที่เคยเป็น

สนใจบทความโฆษณารีวิว/Advertorial
ติดต่อ 089 748 5171(K.ปลา)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*