ที่ดินสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อกาลเวลาผ่านไปจะถูกเปลี่ยนมือเมื่อมีการซื้อขายที่ดินเกิดขึ้น หรือยกให้เป็นมรดก ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “มรดกที่ดิน” หากเจ้าของที่ดินถึงแก่ความตายและมีการทำพินัยกรรมระบุข้อความไว้อย่างชัดเจนว่าต้องการยกที่ดินแปลงนั้นให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง บุคคลนั้นมีสิทธิที่จะได้รับมรดกที่ดินซึ่งเรียกว่า “การได้รับมรดกที่ดินโดยสิทธิตามพินัยกรรม” แต่หากเจ้าของที่ดินหรือผู้มีชื่อในเอกสารเกี่ยวกับที่ดินถึงแก่ความตาย และที่ดินแปลงนั้นไม่ได้มีการทำพินัยกรรมไว้ ที่ดินแปลงดังกล่าวจะกลายเป็นมรดกที่ดิน ซึ่งผู้ที่จะได้รับมรดกที่ดินจะเป็น “ทายาทโดยสิทธิตามกฎหมาย”

ทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมายหรือทายาทโดยธรรม มี 6 ลำดับ แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดก ก่อน-หลัง ดังนี้

ลำดับที่ 1 ผู้สืบสันดาน (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ)
ลำดับที่ 2 บิดา มารดา
ลำดับที่ 3 พี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน
ลำดับที่ 4 พี่น้องร่วมบิดา หรือ ร่วมมารดา เดียวกัน
ลำดับที่ 5 ปู่ ย่า ตา ยาย
ลำดับที่ 6 ลุง ป้า น้า อา
คู่สมรส ที่ยังมีชีวิตอยู่ถือเป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิรับมรดกร่วมกับทายาทโดยธรรมทั้ง 6 ลำดับ

โดยผู้มีสิทธิได้รับมรดกจะต้องไปขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินนั้นที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ในกรณีมีเอกสารเป็นโฉนดที่ดิน น.ส.3 ข. และสำนักงานที่ดินอำเภอในกรณีมีเอกสารเป็น น.ส. 3 , น.ส.3 ก. ถ้าท้องที่ใดที่ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกเลิกอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามกฎหมายที่ดินแล้ว ไม่ว่าที่ดินจะเป็นโฉนดที่ดิน น.ส.3 หรือ น.ส.3 ก , น.ส.3 ข. จต้องไปขอจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาที่ดินที่ตั้งอยู่

หลักฐานที่ต้องนำไปประกอบการขอรับมรดก คือ

• โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองทำประโยชน์
• บัตรประจำตัว
• ทะเบียนบ้าน
• หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น มรณบัตร
• พินัยกรรม (ถ้ามี)
• ถ้าผู้ขอ ขอรับมรดกในฐานะเป็นคู่สมรส ต้องมีหลักฐานการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
• ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบิดาเจ้ามรดก ต้องมีทะเบียนสมรสกับมารดาของเจ้ามรดกหรือหลักฐานการรับรองบุตร
• กรณีบุตรบุญธรรมเป็นผู้ขอรับมรดก ต้องแสดงหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
• ถ้ามีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดก ต้องนำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดไปแสดง
• ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคน บางคนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ต้องมีหลักฐานการตายของทายาทนั้น

ในกรณีที่มีผู้จัดการมรดก หลักฐานที่ต้องนำไป คือ

• คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาของศาล หรือพินัยกรรมซึ่งตั้งให้ผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก
• หลักฐานการตายของเจ้ามรดก
• ทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวของผู้จัดการมรดก
• โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์

ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน

• ค่าคำขอ แปลงละ ๕ บาท
• ค่าประกาศมรดก แปลงละ ๑๐ บาท
• ค่าจดทะเบียนผู้จัดการมรดก แปลงละ ๕๐ บาท
• ค่าจดทะเบียนโอนมรดก ร้อยละ ๒ ตามราคาประเมินทุนทรัพย์
• ในกรณีโอนมรดกระหว่างผู้บุพการีกับผู้สืบสันดาน หรือระหว่างคู่สมรส เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ร้อยละ ๐.๕

ที่มา : กรมที่ดิน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*