LPN Wisdom ระบุ ผู้ประกอบการอสังหาฯ เร่งเปิดตัวโครงการใหม่เดือนส.ค.63 จำนวน 10,215 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 37,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบกับเดือนกรกรกฎาคม 2563 ขณะที่ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 23% 
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพีนี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom:LWS) บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) หรือLPN เปิดเผยว่า หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่โควิด-19 คลี่คลาย ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่มาตั้งแต่ไตรมาสสองของปี 2563 เริ่มทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมาโดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 10,215 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 37,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% ทั้งจำนวนและมูลค่า เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

“บ้านที่พักอาศัยแนวราบยังเป็นที่อยู่อาศัยที่มีการเปิดตัวสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2563 โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้ง ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด จำนวน 5,594 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 54% ของจำนวนโครงการที่เปิดตัวทั้งหมดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่เหลืออีก 4,621 หน่วยเป็นคอนโดมิเนียม คิดเป็นสัดส่วน 46% ของจำนวนโครงการที่เปิดตัวไป ขณะที่อัตราการขายโครงการเปิดตัวใหม่เฉลี่ยในเดือนสิงหาคม (Absorption Rate) อยู่ที่ 23%” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

โดยบ้านพักอาศัยแนวราบที่มีการเปิดตัวสูงสุดยังคงเป็นทาวน์เฮาส์ที่มีการเปิดตัวในเดือนสิงหาคม จำนวน 3,138 หน่วย และเป็นกลุ่มที่มียอดขายสูงสุดโดยเฉพาะที่ระดับราคา 2-5 ล้านบาท โดยมียอดขายเฉลี่ยเปิดตัวใหม่ที่ 18% ขณะที่คอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมมียอดขายเฉลี่ยเปิดตัวใหม่อยู่ที่ 30% เป็นคอนโดมิเนียมระดับราคาเฉลี่ย 2-3 ล้านบาทต่อหน่วย

ทั้งนี้การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้จำนวนที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่สะสม 8 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-สิงหาคม 2563) อยู่ที่ 43,956 หน่วย มูลค่า 177,664 ล้านบาท ลดลง 34% ทั้งจำนวนและมูลค่าเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีกว่าช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ที่มีจำนวนการเปิดตัวและมูลค่าลดลง 43% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562 ขณะที่ยอดขายเฉลี่ยเปิดตัวในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 18% ลดลงจาก 29% ในช่วงเดียวกันของปี 2562

ในขณะที่ทำเลที่มีการเปิดตัวโครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมในเดือนสิงหาคม ยังคงอยู่ในพื้นที่ที่การคมนาคมสะดวกและใกล้กับพื้นที่ชุมชน โดยแนวราบส่วนใหญ่การเปิดตัวโครงการใหม่จะอยู่ในพื้นที่โดยรอบวงแหวนรอบนอก อาทิ เทพารักษ์, บางพลี, บางนา, รัตนาธิเบศร์, บางบัวทอง ในขณะที่คอนโดมิเนียมอยู่ในแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน (เตาปูน-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) และแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีส้ม (บางกะปิ-มีนบุรี-สุวินทวงศ์)

“ผู้ประกอบการเริ่มทยอยเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้นหลังจากที่ชะลอการเปิดตัวโครงการในช่วงครึ่งแรกของปี เป็นผลมาจากสินค้าคงเหลือที่ลดลงผลจากการเร่งลดสต๊อกสินค้าด้วยแคมเปญทางการตลาดเพื่อลดภาระการถือครองสินค้าคงเหลือและเก็บเงินสด เพราะความไม่แน่ใจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องทยอยเปิดตัวโครงการในช่วงไตรมาส3และ4  เพื่อจะลดความเสี่ยงจากปริมาณสินค้าคงเหลือที่ลดลง พร้อมกับรักษาการจ้างงานกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ และเตรียมความพร้อมสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอสังหาฯในอนาคต”นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวในที่สุด

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*