5 ผู้ประกอบการอสังหาฯประกาศผลดำเนินการครึ่งปีแรก–ไตรมาส2/63 พบส่วนใหญ่รับรู้รายได้รวมเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บางบริษัทขาดทุนกำไรสุทธิ คาดครึ่งปีหลังฟื้นตัว จากการปรับแผนธุรกิจ–เปิดตัวโครงการใหม่ และสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
PSHโชว์กำไรครึ่งปีแรก 1,339 ล้านบาท
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกปี 2563 บริษัทฯ ทำรายได้รวม 13,308 ล้านบาท ยอดขาย 9,576 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากทาวน์เฮาส์ 53% บ้านเดี่ยว 24% และคอนโดมิเนียม 23% ทำกำไรสุทธิ 1,339 ล้านบาท พร้อมยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แม้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ ทั้งนี้จากการที่บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายสูงอยู่แล้ว จึงเน้นกลยุทธ์การระบายสต๊อก โดยในช่วงที่ผ่านมา รายได้ครึ่งปีแรกมีสัดส่วนเกือบ 70% มาจากสินค้าสต๊อกพร้อมอยู่ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ประกอบกับพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคม ทำให้ผลการดำเนินงานของพฤกษาในครึ่งปีแรกนี้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ จึงมีการพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2563 ให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.31 บาท
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับเป้ารายได้ปี 2563 อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท และเป้าขายยอดขาย 28,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
RML ขาดทุน 130.4 ล้านบาท
นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 บริษัทมีรายได้รวม 625.8 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 887 ล้านบาท จำนวน 261.2 ล้านบาท หรือลดลง 29.4% และบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 130.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 54.7 ล้านบาท จำนวน 185.2 ล้านบาท หรือลดลง 338.3% ขณะที่สามารถทำยอดขาย (Presales)ได้ 1,322.6 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 241.8 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการจัดโปรโมชั่น Hot Sales ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ตามนโยบายที่ต้องการมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้และรักษากระแสเงินสดในมือให้มีสถานะมั่นคงที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้เร่งระบายสต๊อกโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ซึ่งเป็นโครงการเพิ่งสร้างแล้วเสร็จมีลูกค้าเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ และทยอยเข้ามาอยู่อาศัย อีกทั้งยังคงมุ่งเน้นการขายไปที่โครงการ The Estelle Phrom Phong, TAIT12, The Lofts Ratchathewi ส่งผลให้ตัวเลข Presales ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,881.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดพรีเซล 1,603.4 ล้านบาท
ด้านผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 1,049.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,349.6 ล้านบาท จำนวน 1,300.2 ล้านบาท หรือลดลง 55.3% และมีผลขาดทุน 269.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 150.8 ล้านบาท จำนวน 420.7 ล้านบาท หรือลดลง 279%
ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตลดลง โดยเฉพาะรายได้รวมที่ลดลงในไตรมาส 2/63 มาจากฐานรายได้พิเศษที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีรายได้จากการขายที่ดินและกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยรวม 92 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ อีก 88 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ารายได้อื่น ๆ และเมื่อเปรียบเทียบรายได้หลักในไตรมาสนี้ มาจากการรับรู้รายได้โครงการอสังหาริมทรัพย์ 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ The River, Mews Yen Akat, The Lofts Asoke และ The Lofts Silom รวม 588.9 ล้านบาท ลดลงจาก 685.5 ล้านบาท หรือลดลง 14.1% เนื่องจากโครงการเดอะ ลอฟท์ สีลม ที่คาดว่าจะมีการโอนรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้มีลูกค้าต่างชาติเป็นสัดส่วนราว 49% ของมูลค่าโครงการ ทำให้มีการชะลอการรับโอนห้องชุดจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในแง่ของความพร้อมด้านการเงินของลูกค้าบางรายที่ถูกกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ และความไม่สะดวกในการทำธุรกรรมจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2563 อยู่ที่ 8,379.1 ล้านบาท รวมทั้งหมด 11 โครงการ ได้แก่ โครงการ Tait12 30.8%, โครงการ The Estelle Phrom Phong 26.6%, โครงการ The Lofts Silom 21.7%, โครงการ The Lofts Ratchathewi 8%, โครงการ The Lofts Asoke 7.1%, โครงการ The River 3.7% และโครงการอื่น ๆ 2.2%
CHEWA รายได้เพิ่ม–กำไรสุทธิหด
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด(มหาชน) หรือ CHEWA กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2563 ว่า บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวมอยู่ที่ 331.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 19.68% โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการแนวราบขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 134.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาฯ ที่ลดลงจาก 25.61% เป็น 21.17% จึงส่งผลให้ไตรมาส 2/2563 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 11.32 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1.88 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 14.24%
“ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถฟื้นตัวกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง หลังจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัท ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ส่งผลให้มีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการลดลง ประกอบกับโครงการส่วนใหญ่ของบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ได้ในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งยังมั่นใจว่าทั้งปีบริษัทสามารถทำรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าวในที่สุด
MK ยอดรายได้ขายบ้านเพิ่ม 43%
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวถึง ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 846.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกคิดเป็น 32% ระบุธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายมีรายได้อยู่ที่ 711.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากไตรมาสแรก ด้านธุรกิจให้เช่าและบริการยังแข็งแกร่ง มีอัตราเติบโตต่อเนื่องทำรายได้อยู่ที่ 112.32 ล้านบาท
KUN รับ 2 เด้ง กำไรพุ่ง17%-ปันผลระหว่างกาล 0.03 บาท/หุ้น
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN กล่าวถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 164.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ 148.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 15.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.6 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ 304 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.4 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.9 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากQ2/2563 มีกลุ่มลูกค้า Walk in เข้ามาชมโครงการวิลล่า คุณาลัย เพิ่มขึ้นถึง 62% โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เห็นได้จากมียอดการจองบ้าน ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563 สูงถึง 400 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดขายรายเดือนที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ตั้งแต่เปิดบริษัทฯ มาประกอบกับบริษัทฯ ได้วางแผนกลยุทธ์แบบ Worst case scenario มาเป็นหลักคิด เพื่อวางรูปแบบการทำงานของบริษัทฯ เพื่อสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการเน้นการออกแบบเรื่อง space ที่สามารถจัดสรรแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับความต้องการที่อยู่อาศัยแบบ “everything at home” ทุกสิ่งเกิดขึ้นที่บ้าน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ทุกโครงการของวิลล่า คุณาลัย สามารถตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคได้ครบทุกมิติ
พร้อมกันนี้ช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทฯมีการเปิดขายโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,330 ล้านบาท เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการเดิมซึ่งได้การตอบรับที่ดีมาก ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือกว่า 400 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าวบริษัทฯเชื่อว่า รายได้รวมในปี 2563 จะเติบโตได้มากกว่า 15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 652.67 ล้านบาท อย่างแน่นอน
ส่วนยอดขาย (Presale) ช่วงครึ่งแรกของปี 2563 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯทำยอดขายได้แล้วที่ระดับ 760 ล้านบาท คิดเป็น 58% ของเป้ายอดขายทั้งปีที่ 1,300 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (มกราคม-มิถุนายน 2563) ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 18,720,000บาท ทั้งนี้ กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 และขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 สิงหาคม 2563 เพื่อจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 กันยายน 2563