แสนสิริฯเผยภาพรวมตลาดอสังหาฯแนวราบครึ่งปีหลัง63 โตแบบก้าวกระโดด มั่นใจดีมานด์ต่างชาติ โดยเฉพาะจีนจะกลับมาแน่ หลังจากประสบความสำเร็จปล่อยเช่าโครงการ “บุราสิริ สันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่” ถึง 40 ยูนิต จ่อนำ“อณาสิริ ป่าคลอก”ต่อยอดธุรกิจ ครึ่งปีหลังเปิดตัวใหม่อีก 12 โครงการ มูลค่ารวม 16,900 ล้านบาท ประกาศปรับเป้ายอดโอนเพิ่มเป็น 39,000 ล้านบาท  คาดภายใน 3 ปี ขึ้นแท่นผู้นำตลาดบ้านเดี่ยว และ Top 3 ในตลาดทาวน์โฮม
นายอุทัย อุทัยแสงสุข
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาาฯแนวราบในครึ่งปีหลัง 2563 ว่า จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยวิเคราะห์จากดีมานด์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ และจากเทรนด์อยู่อาศัยที่คนไทยต้องการมีบ้าน 2 หลัง ทั้งคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเมือง เพื่อการเดินทางทำงานที่สะดวก ขณะที่ยังมีความต้องการบ้านชานเมืองเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีความปลอดภัยมากกว่า  ยังรวมถึงการเปลี่ยนไปของพฤติกรรมการใช้ชีวิต ในรูปแบบ Work From Home ที่ทำให้ดีมานด์ของบ้านแนวราบเพิ่มสูงขึ้น จากการมองหาบ้านที่มีพื้นที่กว้างขึ้น เพื่อจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวในการทำงานที่บ้าน ขณะที่กลุ่มลูกค้าบางกลุ่มเริ่มมองหาบ้านหลังใหญ่ที่สามารถ Social Distancing ได้ หรือต้องการแยกครอบครัวออกจากครอบครัวใหญ่เพื่อจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น ยังรวมไปถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มองหาบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเป็นบ้านหลังแรกเพิ่มขึ้นในปัจจุบันอีกด้วย

นอกจากนี้มองว่าดีมานด์ที่อยู่อาศัยในตลาดต่างชาติจะกลับมา โดยความสำเร็จในการสร้างยอดขายอันดับ 1 ในตลาดต่างชาติในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มองเห็นดีมานด์ความต้องการจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ที่จะมองหาบ้านหลังที่สองในประเทศที่มีความปลอดภัยและมีระบบสาธารณสุขที่ดี ทั้งนี้ จากการรับมือที่ดีในสถานการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ทั่วโลกเล็งเห็นถึงความแข็งแกร่งของประเทศไทย ในการรับมือ นอกจากนี้ไทยยังเป็นประเทศฟื้นตัวจากโควิด-19 อันดับ 2ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย จาก 184 ประเทศทั่วโลก จากการจัดอันดับ Global COVID-19 Index แสนสิรืจึงมุ่งเจาะกลุ่มตลาดต่างชาติที่ต้องการเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ (Leasehold) ในรูปแบบบ้านหรือทาวน์โฮมอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จจากการปล่อยเช่าระยะยาว 30 ปี บวก 30 ปี ในโครงการบุราสิริ สันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่  ระดับราคา 5-10 ล้านบาท(ลบ.)  ที่มีลูกค้าชาวจีนเช่าผ่านเอเจนซี่ ถึง 40 ยูนิต โดยเป็นราคาที่สูงกว่าขายคนไทยประมาณ 10%

นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังมีแผนที่จะนำโครงการ “อณาสิริ ป่าคลอก” จ.ภูเก็ต มาดำเนินการในรูปแบบการปล่อยเช่าระยะยาวให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ เป็นโครงการต่อเนื่อง ซึ่งโครงการดังกล่าวพัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์  ระดับราคา 2-6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าที่สนใจจะเช่าระยะยาว จะเป็นกลุ่มชาวยุโรป และจีน เป็นต้น

“เรามองเห็นโอกาสและช่องทางการเจาะตลาดในรูปแบบอื่นๆ จากการเห็นโอกาสทางการตลาด จากความสำเร็จในการขายโครงการบุราสิริ สันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่ ในรูปแบบ Leasehold ในช่วงที่ผ่านมา จากแนวโน้มดีมานด์การเติบโตของตลาดแนวราบ แสนสิริจึงเปิดตัว Sansiri Housing Evolution ที่มุ่งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในทุกความต้องการทุกเซกเมนต์ โดยเราวางเป้ายอดขายแนวราบในปีนี้ที่ 18,000 ล้านบาท” นายอุทัยกล่าว

ส่วนแผนการเปิดตัวใหม่ของบริษัทฯในปี 2563 เดิมกำหนดเปิดตัวทั้งสิ้น 18 โครงการ รวมมูลค่า 24,000 ล้านบาท แต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดคอนโดฯชะลอตัวลง ส่งผลให้ปรับลดการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงเหลือ 15 โครงการ รวมมูลค่า 20,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรก เปิดตัวไปแล้ว 3 โครงการ รวมมูลค่า 3,100 ล้านบาท คือ อณาสิริ ภูเก็ต,สิริ เพลส ประชาอุทิศ90 และ สิริ เพลส พระราม9

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 บริษัทเตรียมเปิดตัวใหม่อีก 12 โครงการ มูลค่ารวม 16,900 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรดักส์ 10 โครงการ มูลค่ารวม 14,300 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท (ตามแผนเดิมจะมีการเปิดตัว 5 โครงการ )

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นจาก 29,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 35,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ทั้งแนวราบและแนวสูงยังสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าภายในระยะเวลา 3 ปี ยอดขายรวมจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 120,000 ล้านบาท โดยในช่วงระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-พฤษภาคม 2563) สามารถทำยอดขายได้แล้ว 22,000 ล้านบาท  แบ่งเป็นยอดขายจากแนวราบและแนวสูงในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 50:50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้ 8,200 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 168%

ด้านยอดโอนในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มียอดโอนแล้ว  18,200 ล้านบาท และความมั่นใจใน Secure backlog ในมือที่จ่อคิวโอนแล้วอีก 16,200 ล้านบาท ดังนั้นจึงได้มีการปรับเป้าหมายการโอนในปีนี้จากเดิม 33,000 ล้านบาท เป็น 39,000 ล้านบาท  คิดเป็นอัตราการเติบโต 26% เท่ากับว่าบริษัทมีเป้าหมายที่ต้องโอนเพิ่มอีกเพียง 4,600 ล้านบาทเท่านั้น จึงคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

นายอาณัติ กิตติกุลเมธี

ด้านนายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรก โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมของแสนสิริมียอดขายเป็นอันดับ 1 โดยปิดการขายไปถึง 13 โครงการ มูลค่ารวม 13,500 ล้านบาท ในครึ่งปีหลัง ครงการแนวราบจะเป็น Strategic Flagship ในการรุกตลาด จึงได้เตรียมเปิดโครงการแนวราบ อีก 10 โครงการ แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์เศรษฐสิริ 2 โครงการ, บ้านเดี่ยวแบรนด์สราญสิริ 1 โครงการ ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรดักส์ในเซกเมนต์ Medium และ Affordable ที่ได้รับการตอบรับสูง ในแบรนด์ อณาสิริ 4 โครงการ และสิริ เพลส 3 โครงการ

“คาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ พฤติกรรมและ Customer Insight ที่เปลี่ยนไปได้ สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ เข้าใกล้เป้ายอดขายแนวราบปีนี้ 18,000 ล้านบาท  อันจะนำไปสู่การก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดบ้านเดี่ยว และ Top 3 ในตลาดทาวน์โฮม ภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าในที่สุด” นายอาณัติ กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*