สัมมากรฯปลื้มยอดขายเดือนเม.ย.พ.ค.สวนกระแสวิกฤติโควิด-19 พุ่งเกือบ 500 ล้านบาท ล่าสุดร่วมทุนกลุ่มแอสเซท โปร กรุ๊ป ผุดบ้านเดี่ยว 2 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท จ่อเปิดตัวแนวราบ พัฒนาเอง โซนตะวันออกกทม.อีก 3 โครงการ คาดสรุปผลไตรมาส3/63
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สัมมากร จำกัด(มหาชน)หรือ SAMCO เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯที่เน้นการพัฒนาโครงการแนวราบมาโดยตลอด และมองว่าในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้บริโภคในการที่มีอำนาจในการต่อรองซื้อที่อยู่อาศัยในราคาพิเศษ เพราะในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา หลายบริษัทฯมีการนำโครงการมาจัดแคมเปญพิเศษมากมาย แต่อาจจะมีผลกระทบในบางอาชีพที่มีความเสี่ยงเช่นกัน ในส่วนของบริษัทฯนั้นที่ผ่านมาไม่ได้มีการจัดแคมเปญมากนัก เนื่องจากโครงการที่พัฒนานั้นมีลูกค้าที่เป็นเรียลดีมานด์อยู่แล้ว แม้ว่าวิกฤติโควิด-19 จะผ่านไป ในเรื่องการดีไซน์บ้านก็ไม่ต้องปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด เพราะมีการออกแบบเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีสมาชิกครอบครัวมากอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะต้องมีขึ้นเพิ่มมากขึ้นใน คือระบบการบริหารจัดการในหมู่บ้าน เพราะปัจจุบัน มีการใช้บริการสั่งซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคผ่านระบบเดลิเวอรี่มากขึ้น ซึ่งต้องสร้างความปลอดภัยให้กับลูกค้า

“ต้องยอมรับว่าโควิด-19 ได้สร้างปรากฏการณ์ยอดขายในเดือนเมษายน จากในช่วงปกติจะเป็นเดือนที่ทำยอดขายได้น้อยมาก แต่ในปีนี้สามารถทำยอดขายได้ถึง 180 ล้านบาท (ลบ.)จาก 7 โครงการ และในเดือนพฤษภาคม ก็มียอดขายที่เพิ่มขึ้นเกือบ 300 ล้านบาท(ลบ.) ถือเป็นRecord ในรอบ 50 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา จากปกติมียอดขาย 100-150 ล้านบาทเท่านั้น  เพราะผู้ซื้อมองว่าในช่วงนี้มีอำนาจต่อรองมาก ขณะเดียวกันยอด Reject ก็ลดลงจาก 30% เหลือ 15% เพราะดีมานด์มีกำลังซื้อบ้านจริงๆและมีการเตรียมพร้อมมาก่อนที่จะซื้อบ้านส่วนภาพรวมตลาดอสังหาฯในไตรมาส3/2563 นั้นเชื่อว่ายอดขายจะดีขึ้นกว่าเดิม เพราะสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย แต่คาดว่าจะฟื้นตัว 100% ในปี2564 ซึ่งบริษัทฯโชคดีที่ไม่ต้องเน้นเรื่องการทำตลาดมาก เนื่องจากสินค้าที่พัฒนาส่วนใหญ่เป็นแนวราบเน้นลูกค้าไทยเป็นหลัก ”นายกิตติพล กล่าว

นายกิตติพล กล่าวต่อไปว่า ในด้านนโยบายการบริหารงานนั้น ที่ผ่านมาได้มีการปรับโครงสร้างมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจ ล่าสุดได้นำบริษัท สัมมากร จำกัด(มหาชน)เข้าร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท แอสเซท โปร กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มทุนที่มีประสบการพัฒนาโครงการอสังหาฯที่อุบลราชธานี และศรีสะเกษ รวมไปถึงดำเนินธุรกิจรถยนต์นำเข้า ในการก่อตั้งบริษัท สัมมากร พลัส จำกัด ขึ้นมา โดยสัมมากรฯถือหุ้น 51% และกลุ่มแอสเซท โปร กรุ๊ป ถือหุ้นสัดส่วน 49% พัฒนาบ้านเดี่ยว 2 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ได้แก่

1.โครงการย่านพัฒนาการ ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 20 ไร่ ระดับราคาประมาณ 25-30 ล้านบาท (ลบ.)จำนวน 25 ยูนิต  มูลค่าโครงการประมาณ 750 ล้านบาท

2.โครงการย่านเอกมัย-รามอินทรา ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 5-7 ไร่  ระดับราคาประมาณ 25-30 ล้านบาท จำนวน 10 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท (ลบ.)

โดยคาดว่าทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะเปิดตัวประมาณไตรมาส3 หรือต้นไตรมาส4 ปี2563

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนที่จะพัฒนาแนวราบเองอีก 3 โครงการส่วนใหญ่อยู่โซนตะวันออก ของกทม. ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล คาดว่าจะสรุปผลได้ประมาณไตรมาส3/2563

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*