วันนี้(12 พฤษภาคม 2563 )บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทฯสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 หรือรอบสามเดือนแรกของปี 2563 ภาพรวมกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ มีรายได้ 7,143 ล้านบาท (ลบ.) ลดลงคิดเป็น 39.9% เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนได้เท่ากับ 11,881 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1/2563 เท่ากับ 922 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 45.3% เมื่อเทียบรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ได้เท่ากับ1,686 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ประจำปี 2563 ยังคงมาจากรายได้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก

เปรียบเทียบยอดขายสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 และ 2562 แบ่งตามผลิตภัณฑ์ ดังนี้บริษัทฯมียอดขายของไตรมาส 1/2563 เท่ากับ 6,069 ล้านบาท ลดลง 5,022 ล้านบาท หรือลดลง 45.3% เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายลดลงจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ทาวน์เฮ้าส์ , บ้านเดี่ยว และอาคารชุด 2,566 ล้านบาท 605 ล้านบาท และ 1,851 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องมาจากจำนวนโครงการที่เปิดลดลง จากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และทั้งโลกชะลอตัว ซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็นหลัก และมาตรการ LTV ใหม่ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2562

เปรียบเทียบผลการด าเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 และ 2562

รายได้

สำหรับไตรมาส 1/2563 บริษัทฯมีรายได้ทั้งหมดมาจากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 7,143 ล้านบาท และรายได้อื่น 33 ล้านบาท รวมรายได้เท่ากับ 7,176 ล้านบาท

สามารถแบ่งรายได้ตามผลิตภัณฑ์สำหรับไตรมาส 1/2563 และ ไตรมาส 1/2562 ประกอบด้วยสำหรับผลประกอบการรอบสามเดือนแรกของปี 2563 ภาพรวมกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ มีรายได้ 7,143 ล้านบาทลดลง 4,738 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 39.9% เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ได้เท่ากับ 11,881 ล้านบาทเนื่องจาก

  • รายได้จากบ้านทาวน์เฮ้าส์ ลดลง 2,127 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 39.0 %
  • รายได้จากบ้านเดี่ยว ลดลง 805 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 37. 0 %
  • และรายได้จากอาคารชุด ลดลง 1,814 หรือลดลงคิดเป็น 42.7%

โดยสาเหตุที่รายได้ลดลงเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และทั้งโลกชะลอตัว ซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็นหลัก และมาตรการ LTV ใหม่ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2562

ต้นทุนขายอสงัหาริมทรัพย์

สำหรับไตรมาส 1/2563 บริษัทฯมีต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 4,582 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64.1% ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์สุทธิ ในขณะที่ต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์ของไตรมาส 1/2562 เท่ากับ 7,780 ล้านบาทหรือคิดเป็น 65.5% ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์สุทธิ ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อัตรากำไรขั้นต้น

สำหรับไตรมาส 1/2563 บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้น 36.3% ปรับเพิ่มขึ้นจากรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 34.8%

ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร

บริษัทฯมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับไตรมาส 1/2563 เท่ากับ 1,268 ล้านบาท คิดเป็น 17.7% ของรายได้รวม โดยลดลงจากรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เท่ากับ 587 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 31.6% โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการขายลดลง เท่ากับ 378 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 41.9% และค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงเท่ากับ 209 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 21.9%

ต้นทุนทางการเงิน

สำหรับไตรมาส 1/2563 บริษัทฯมีต้นทุนทางการเงินประมาณ 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน จากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเป็นหลักอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 เท่ากับ 0.79 และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยหักเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดต่อทุนเท่ากับ 0.66 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ดีจากการบริหารจัดการหนี้สินของบริษัทฯ และบริษัทย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กำไรสุทธิ

บริษัทฯมีกำไรสำหรับไตรมาส 1/2563 เท่ากับ 922 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.8% ของรายได้รวม และกำไร สำหรับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เท่ากับ 1,686 ล้านบาท คิดเป็น 14.2% ของรายได้รวม โดยบริษัทฯมีกำไรลดลงเท่ากับ 764 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 45.3% มาจากรายได้จากการขายที่ลดลง 4,738 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 39.9%

งบแสดงฐานะการเงิน (งบการเงินรวม)ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ มีโครงการที่เริ่มเปิดขายและยังดำเนินงานอยู่ (Active Project)จำนวน 186 โครงการ มูลค่ารวมโครงการ (Total project value) 211,434 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้

  • ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 109 โครงการ มูลค่ารวม 85,445 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยวจำนวน 43 โครงการ มูลค่ารวม 48,987ล้านบาท
  • โครงการอาคารชุดของกลุ่มธุรกิจ Value จำนวน 24 โครงการ มูลค่ารวม 48,876 ล้านบาท
  • และโครงการอาคารชุดของกลุ่มธุรกิจ Premium จำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวม 28,126 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 92,611 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นจากการนำนโยบายบัญชีใหม่ มาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 เรื่อง สัญญาเช่า มาถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 และบริษัทฯมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ประกอบด้วย เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินจำนวน 9,750 ล้านบาท เงินกู้ยืมระยะยาว จำนวน 500 ล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 24,600 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนและบริหารสภาพคล่องของบริษัทฯ

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*