เอเวอร์แลนด์ฯเชื่อหลังวิกฤติโควิด-19 ตลาดอสังหาฯเริ่มฟื้นตัวครึ่งปีหลัง63  ทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว ยังเป็นตลาดของเรียลดีมานด์  ด้านผลประกอบการไตรมาส1/63 กวาดรายได้ 450 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16 ล้านบาท พร้อมปรับกลยุทธ์ขายผ่านช่องทางออนไลน์ และ Re-Marketing กระตุ้นการตัดสินใจให้กับลูกค้า  ไตรมาส2 จ่อผุด 2 โครงการใหม่ รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท หนุนผลงานโตต่อเนื่อง  โชว์ยอดขายรอโอนกว่า 5,000 ล้านบาท
นายสวิจักร์ โลจายะ
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังผ่านวิกฤติไวรัสโควิด-19 ว่ามีโอกาสเกิดภาวะการปรับสู่จุดสมดุลมากขึ้น ทยอยฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง 2563   ตลาดทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท และตลาดบ้านเดี่ยว ยังเป็นตลาดของผู้ที่มีกำลังซื้ออยู่ และเป็น Real Demand   ส่วนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ก็น่าเริ่มกลับมาแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปมากกว่า เนื่องจากยังมีปัจจัยลบของเศรษฐกิจและการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ดังนั้นผู้ประกอบพยายามระบายสต๊อกที่มีอยู่ และบริษัทฯให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการใหม่อย่างรอบคอบที่สุด

ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (11 พฤษภาคม 2563) อนุมัติให้บริษัทย่อยของบริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยอนุมัติบริษัท บางกอก ริว่า ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (“BANGKOK RIVA”) เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 500,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 500,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ภายหลังการเพิ่มทุนจำนวน 1,000,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 50,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เพื่อรองรับการลงทุนในธุรกิจการอสังหาริมทรัพย์ และอนุมัติให้บริษัท บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (“EVER”) เข้าเพิ่มทุนในบริษัท บางกอก ริว่า ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (“BANGKOKRIVA”)จำนวน 50,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท มูลค่ารวม 500,000,000 บาท

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในไตรมาส 1/2563 (สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2563) ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยนั้น ยังเป็นบวกทั้งในด้านรายได้และผลกำไรสุทธิ โดยในไตรมาส 1/63 มีรายได้รวม 448 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.87 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรในส่วนของที่เป็นบริษัทใหญ่ แม้จะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19  ทำให้จำนวนของยอดผู้เข้าชมโครงการลดน้อยลง

โดยรายได้ในไตรมาส 1/63 มาจากโครงการ เดอะโพลิแทน รีฟ เฟส 1 มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวสูงย่านสนามบินน้ำ ภายใต้แบรนด์  “เดอะโพลิแทน” ทยอยโอนรับรู้รายได้ในสัดส่วนกว่า 50 % และมาจากโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” จำนวน 3 โครงการที่ทยอยเปิดขายตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา รวมทั้งยังมีการรับรู้รายได้จากการขายโครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์  “มายโฮม อเวนิว และ มายโฮมซิลเวอร์เลค ฯลฯ เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม

“สถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดผู้เข้าชมโครงการ (Walk in) ลดน้อยลง บริษัทฯจึงได้มีการปรับวิธีการขายด้วยการผ่านช่องทางออนไลน์ และการทำ Re-Marketing เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจให้กับลูกค้า ส่วนในแง่ของการขายเราก็มีการจัดเป็น Conference Call ลูกค้าคุยกับพนักงานขาย เพื่อดูวิวทิวทัศน์หรือดูบ้านพัก ผ่าน Video call เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจของลูกค้า และยังมีภาพวิดีโอการขายแบบ 360 องศาให้ลูกค้าสามารถเก็บไว้ดูได้และเมื่อมีลูกค้าที่สนใจก็สามารถจองและชำระเงินผ่าน E-payment ได้เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐในเรื่อง Social D” นายสวิจักร์ กล่าว

ในส่วนไตรมาส 2/2563  บริษัทเตรียมจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว “ซิลเวอร์เลค พาร์ค” เฟส 2  บนถนนสุวินทวงศ์-ฉลองกรุง ราคาขาย 5 – 9 ล้านบาท จำนวน 67 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 400 กว่าล้านบาท ขณะเดียวกันอยู่ในการพิจารณาเปิดตัวโครงการแนวราบ  ทาวน์เฮาส์ “เอเวอร์ซิตี้ สุขสวัสดิ์ – พุทธบูชา 30  เฟส 2″ มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท  แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือปีนี้ของกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าน่าจะเติบโตได้เนื่องจากมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นมีนาคมปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท โครงการในมือ และโครงการใหม่ ๆ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพื่อเปิดขายจะมีการทยอยโอนให้ลูกค้า และยังมีสินค้ารอขายอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*