“แสนสิริ”ผนึก“พลัส พร็อพเพอร์ตี้” เดินหน้าฝ่าวิกฤติ COVID-19 ประกาศนโยบาย “Sansiri Care…เพราะเราห่วงใย”ตระหนักครอบคลุมภาพรวมวงจรการดำเนินธุรกิจ  และสังคม ยกระดับคุมเข้มความปลอดภัยและสุขอนามัยขั้นสูงสุดรับมือสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 กางแผนเชิงรุกและเชิงรับกับ 3 มาตรการ รองรับลูกค้าเรียลดีมานด์ในทุกแพลตฟอร์ม การเยียวยาช่วยเหลือลูกค้าใหม่
นายอุทัย อุทัยแสงสุข
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า  ได้ร่วมมือกับ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  ประกาศนโยบาย “Sansiri Care…เพราะเราห่วงใย”ครอบคลุมภาพรวมวงจรการดำเนินธุรกิจ (Business Ecosystem) ด้วยการนำแนวคิดวิธีการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan – BCP) มาปรับใช้กับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมยกระดับมาตรการทั้งแผนเชิงรุกและเชิงรับเพื่อรับมือสถานการณ์แพร่การระบาดที่เพิ่มขึ้นของเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยมาตรการเพื่อความปลอดภัยและอุ่นใจแบบเต็มขั้นแก่ครอบครัวแสนสิริ ผู้มีส่วนร่วมกับองค์กรในทุกระดับตั้งแต่ลูกบ้าน ลูกค้า พันธมิตร ตลอดจนคนงานก่อสร้าง แม่บ้าน และพนักงานรักษาความปลอดภัย แสนสิริและพลัส พร็อพเพอร์ตี้ หวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยป้องกันการระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน เรากำลังดูแลกว่า 100,000 ครอบครัวทุกคนเป็นครอบครัวของแสนสิริ และดึงทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่มาใช้ เพื่อให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและปลอดภัยมากที่สุด ด้วย 3 มาตรการสูงสุดในการป้องกัน ดูแล และรับมือ ที่ครอบคลุมด้านความสะอาด การอำนวยความสะดวก และการเตรียมความพร้อมซึ่งครอบคลุมอย่างเคร่งครัดในทุก brand touch points ที่โครงการแสนสิริทั่วประเทศ ภายใต้การดูแลของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึง SIRI CAMPUS สำนักงานใหญ่เพื่อดูแลลูกบ้านและพนักงานทุกคนอย่างใกล้ชิด มาตรการความสะอาดปลอดภัย ที่ยกระดับเข้มข้นขึ้นทุกวันนี้ จะเป็น New Normalที่องค์กรกำหนดให้เป็นมาตรฐาน การดูแลโครงการของเราทั้งในวันนี้และอนาคต เพื่อให้ครอบครัวแสนสิริ อุ่นใจและปลอดภัยที่สุด

แผนเชิงรับ 3 มาตรการดูแลลูกค้า รับมือสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัส COVID- 19

1.มาตรการป้องกัน ยกระดับมาตรการทำความสะอาดและความปลอดภภัยแบบเต็มขึ้นสูงสุดโดยจัดทำแนวทางการปฏิบัติงาน(protocal) เพื่อควบคุมมาตรฐานและกำกับดูแลในทุกหน่วยงานและพื้นที่ปฎิบัติงาน สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ร่วมมือกับพันธมิตรดูแลทั้งวิศวกรโครงการ คนงานก่อสร้าง ตั้งจุดคัดกรองวัดไข้ สวมหน้ากากตลอดเวลาปฏิบัติงาน พร้อมจัดเจลแอลกอฮอล์

ส่วนโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมส่งมอบและโอนแก่ลูกค้า เช็ดและทำความสะอาดห้องและบ้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้ง อบโอโซนฆ่าเชื้อก่อนการตรวจรับมอบที่อยู่อาศัย พร้อมป้ายรับรองผ่านการฆ่าเชื้อเรียบร้อย  เพื่อมั่นใจ ปลอดภัยและอุ่นใจสูงสุด โครงการที่มีลูกบ้านพักอาศัยภายใต้การบริหารของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ สำนักงานขายทั่วประเทศ และ SIRI CAMPUS สำนักงานใหญ่ คัดกรองวัดไข้วัดอุณหภูมิลูกบ้านและพนักงานที่ให้บริการทุกคนเพื่อคัดกรองผู้ป่วย แจกหน้ากากอนามัย สวมหน้ากากตลอดเวลาที่ปฏิบัติงานและล้างมือก่อนการให้บริการทุกครั้ง พร้อมจัดเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ทั้งในโครงการ สำนักงานขาย พื้นที่ส่วนกลาง ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลาง ทุก 1-2 ชั่วโมง ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและอบโอโซนในโครงการ ตลอดจนป้อมรปภ. ห้องพักแม่บ้าน ห้องและบ้านตัวอย่าง พื้นที่ส่วนกลาง สำนักงานนิติ สำนักงานช่าง นอกจากนี้ สำหรับสำนักงานขาย

นอกจากนี้ยังทำความสะอาดพื้นที่ตลอดชุดโต๊ะเก้าอี้ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งที่มีลูกค้าเยี่ยมชมโครงการ เพื่อเตรียมรับลูกค้าใหม่ เสิร์ฟน้ำขวดส่วนตัว และจัดแอลกอฮอลล์พกพาสำหรับพนักงานขาย เมื่อพาลูกค้าเยี่ยมชมโครงการ

2.มาตรการดูแล อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตแก่ลูกบ้านกับ Sansiri Privilege ยกระดับการให้บริการตั้งแต่ บริการทำความสะอาด การดูแลสุขภาพ และความสะดวกในการสั่งสินค้า Delivery ของ Sansiri Family ใน Home Service Application Virtual Hospital บริการปรึกษาแพทย์แบบออนไลน์ฟรี จากโรงพยาบาลสมิติเวช พร้อมบริการส่งยาฟรีและส่วนลดค่ายา 20% ตลอดจนบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในที่พักอาศัยพร้อมส่วนลด 5% และการจัดเตรียมตู้จำหน่ายสินค้าประจำแต่ละโครงการจำหน่ายเฉพาะสินค้าและของใช้จำเป็น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร เจลล้างมือ ปลากระป๋อง นม เป็นต้น

3.มาตรการรับมือ จัดมาตรการดูแลลูกค้าที่ต้องกักตัว 14 วันในที่พักอาศัยให้ใช้ชีวิตได้สะดวกปลอดภัย โดยไม่ต้องออกมาภายนอกที่พักอาศัยตลอดระยะเวลา เช่น จัดทำคู่มือ QR code การดูแลตัวเองแก่ลูกบ้าน การอำนวยความสะดวกจัดส่งอาหาร การซื้อของจากซูเปอร์ หรือจัดส่งของอื่นๆไปยังหน้าห้องลูกบ้านแบบ Contactless Delivery 2 ช่วงเวลา เช้าและเย็น การจัดการเก็บขยะ วันละ 2 รอบ ให้กับลูกบ้านเพื่อลดอัตราความเสี่ยง รวมถึงแจ้งเตือนลูกบ้านให้เข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้งหลังจากผ่านช่วงระยะเวลากักตัว 14 วัน อำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนหากต้องการพบแพทย์ตั้งแต่การจัดการลิฟท์ และทำความสะอาดลิฟท์ทันทีหลังจากลูกบ้านใช้บริการ ตลอดจนอำนวยความสะดวกขนย้ายผู้ป่วยหากพบการติดเชื้อ

“นอกจากมาตรการเชิงรับ ที่แสนสิริและพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้วางมาตรการร่วมกันแล้ว เรายังได้วางมาตรการเชิงรุกด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ Omni-Channel ครบวงจรตอบโจทย์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ รวมถึงตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้สื่อบนหลากหลายแพลตฟอร์ม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าเรียลดีมานด์รายใหม่ที่ยังรองรับในช่วงสภาวการณ์ COVID-19 รวมถึงช่วยเหลือลูกค้าให้ลูกค้ามีบ้านได้ง่ายขึ้นอีกด้วย บริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมให้แก่ลูกค้าด้วยมาตรการความปลอดภัยสุงสุดแก่ลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการและการขายที่สำนักงานขายในทุกวัน ด้วยมาตรการ Private Tour เยี่ยมชมโครงการ ไม่ปะปนกับลูกค้ารายอื่นโดยมีเว้นระยะห่างตามหลัก Social Distancing” นายอุทัย กล่าว

อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากมาตรการป้องกันและดูแลเช่นเดียวกับผู้อยู่อาศัยในโครงการแสนสิริแล้ว ด้านการดูแลพนักงานของแสนสิริ และ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ SIRI CAMPUS สำนักงานใหญ่ ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและอบโอโซน จุดคัดกรองวัดไข้ สวมหน้ากากตลอดเวลาที่ ปฏิบัติงาน ส่งเสริม Social Distancing ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน Work from Home หรือ Work from Site ใกล้บ้าน สำหรับพนักงานที่มีความเสี่ยงจากการเดินทางสาธารณะ

อีกทั้งมีการแบ่งช่วงเวลาการรับประมานอาหารเพื่อลดความหนาแน่น ตลอดจนช้อนและภาชนะแยกชุด จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจ (COVID-Info) เพื่อรับมือ และให้คำปรึกษากับพนักงานและพันธมิตรที่มีความกังวลอย่างทันท่วงที ตลอดจนสวัสดิการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจากโรงพยาบาลชั้นนำ พร้อมดูแลรักษาค่าพยาบาลให้ทั้งหมดหากพบพนักงานติดเชื้อ ให้กับพนักงานที่มีความเสี่ยงด้วย และส่งเสริม Social Distancing ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม

และในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 พนักงานของบริษัทบางส่วนผู้เป็น “นักรบบริการ”ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ผู้เป็นด่านหน้าของการเผชิญความเสี่ยงกับกองทัพไวรัสในทุกๆวันและอยู่เบื้องหลังเสียสละตนเพื่อดูแลความปลอดภัยและอุ่นใจสุงสุดแก่ลูกค้าและประโยชน์ส่วนรวม เพื่อมอบความปลอดภัยและสุขอนามัยสูงสุดแก่ลูกบ้านกว่า 100,000 ครอบครัวและลูกค้าทุกท่าน บริษัทฯขอขอบคุณพนักงานทุกท่านผู้อยู่เบื้องหลังจากใจ และนอกจากพนักงานแสนสิริและพลัส พร็พเพอร์ตี้แล้ว เรายังขยายการดูแลความห่วงใยไปถึงพนักงานของพันธมิตรอย่าง แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย และทีมช่าง แม้ในปัจจุบันจะยังไม่พบว่าพนักงานของแสนสิริและพลัส พร็อพเพอร์ตี้ หรือพนักงานจากบริษัทพันธมิตรธุรกิจติดเชื้อแต่อย่างใด แต่เมื่อตระหนักถึงผลกระทบที่อาจจะตามมา

“แสนสิริ จึงจัดตั้ง Sansiri Care Relief Fund โดยเงินบริจาคจากคณะผู้บริหารเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท เพื่อการดูแลครอบครัวของพนักงานผู้ได้ผลกระทบ จากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือตกงานเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจ แสนสิริขอบคุณทุกความเชื่อมั่น และความไว้วางใจที่มอบให้เรามาโดยตลอด เราสัญญาว่าจะเดินหน้าพัฒนาและรักษามาตรฐานในการดูแลครอบครัวแสนสิริทุกคน เพราะความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของลูกค้า พนักงานและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด” นายอุทัย กล่าวในที่สุด

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*