จับตาธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศจีนกลับมาบูมอีกครั้งหลังจบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 (Covid-19) ‘AIRBNB’ ในจีนรายงานการฟื้นตัวที่น่าพอใจและแนวโน้มเชิงบวก ขณะที่ข้อมูลจาก Chinadaily.com ระบุโพลสำรวจชาวจีนในปักกิ่ง ผู้บริโภคกว่า 70% คาดว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวหลังจากเดือนมิถุนายนนี้

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 (Covid-19) ที่ทำให้สภาพตลาดและธุรกิจทั่วประเทศจีนชะงัก ตอนนี้ภาคการบริการต่างๆ กำลังจะกลับมาสู่ปกติ การบริการที่พักและโฮมสเตย์เป็นส่วนสำคัญของภาคธุรกิจนี้ ทั้งนี้จากข้อมูล Tourism Review News ระบุว่าช่วงใกล้วันหยุดแรงงานของประเทศจีนมีตัวเลขที่บ่งชี้ว่าจำนวนการค้นหาและการจองที่พักบนแพลตฟอร์มที่ใช้ร่วมกันหลายแห่งได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากข้อมูลที่มีอยู่การค้นหารายชื่อในประเทศล่วงหน้าของวันแรงงานตอนนี้มากกว่า 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับจำนวนที่บันทึกไว้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนภาพได้ว่าประชาชนหรือผู้คนทั่วไปต่างมีความต้องการและสนใจในการท่องเที่ยวกำลังเพิ่มขึ้นและมองหาโอกาสในการท่องเที่ยวอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศก็ตาม

หากพูดถึงอัตราการฟื้นฟูของบริษัทต่างๆ นั้น PENG TAO ประธานของ Airbnb ในประเทศจีน กล่าวว่า ตั้งแต่การที่มีไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 ระบาด Airbnb ขาดทุนทางการเงินจากจำนวนผู้คนที่ยกเลิกที่พัก ซึ่ง Airbnb ได้ทำการแก้ปัญหาโดยจัด คลาสเรียนออนไลน์ที่เปิดให้ผู้คนมากกว่า 10,000 คน ประกอบไปด้วยเจ้าของที่พักเพื่อพัฒนาทักษะให้เตรียมพร้อมในสถานการณ์ไวรัสระบาด และอัดเม็ดเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องของเงินให้กับเจ้าของที่พักที่ใช้บริการ Airbnb

นอกจากนั้น Airbnb ยังได้มีแคปเปญใหม่ในฤดูใบไม้ผลิซึ่งประกอบไปด้วยการแนะนำทิปท่องเที่ยวสถานที่เดินทางใกล้ๆ และ การแนะนำสถานที่ร่วมถึงทำการโปรโมทสถานที่เป็นสถานที่ ปลอดเชื้อ โดยมีการทำความสะอาดตามมาตรฐานสากล โดยหลังจากมีแคปเปญออกไปได้รับกระแสการตอบรับที่เป็นบวกจากเจ้าของที่พักภายในประเทศจีน ซึ่งต่างก็มีความมั่นใจในการปล่อยเช่าระยะสั้นอีกครั้ง และผลลัพธ์จากการทำวิจัยของ Airbnb ในประเทศจีน บ่งชี้ว่า 99% พอใจกับแคมเปญนี้

ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 ระบาดและจากการวิเคราะห์ของรายได้ของเจ้าของที่ดินในจีนแผ่นดินใหญ่ (Main land) ที่ใช้ Airbnb รายได้อยู่ที่ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่า ปี 2018 ถึง 61%

ข้อมูลของศูนย์ข้อมูลในประเทศจีน ได้ทำการประเมินการเงินของภาคธุรกิจนี้ว่า ในปี 2019 รายรับของการทำธุรกิจที่พักแบบAirbnb จะมีอยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็น 36% จากปีก่อน การคาดการณ์นี้ ได้ถูกนำมาใช้ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีผู้เช่าเกินกว่า 100 ล้านคน และจะมีจำนวนบ้านเช่าแบบ Airbnb เกินกว่า 6 ล้านยูนิต

ด้านนักวิเคราะห์ HAN MENGYING ได้คาดการณ์ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 ยังคงส่งผลกระทบกับเจ้าของที่ดิน และ จะทำให้เกิดสภาวะไม่คล่องในด้านเงินทุนของเจ้าของที่ดินทำให้ไม่สามารถดำเนินการธุรกิจได้ อย่างไรก็ตาม แม้ในสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอน เขายังเห็นโอกาสที่ธุรกิจโรงแรมและสถานที่พักร้อนจะกลับมาได้รับความสนใจอีกด้วย ในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวในจีนมากขึ้น รวมถึงจำนวนการจอง และท้ายที่สุดจะมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าระบบเศรษฐกิจจากธุรกิจนี้ อย่างแน่นอน

ขณะที่วงการโรงแรม ภาพจะเป็นบวกเหมือนกัน DAVID CHANGE กล่าวเสริมว่า ธุรกิจโรงแรมในประเทศจีนจะกลับสู่สภาพปกติในเดือนพฤษภาคม เนื่องจาก นักท่องเที่ยงชาวจีนเพราะผู้คนจะที่ได้ชะลอตัวไปในช่วงก่อนหน้าจะมีการกลับไปทำงานปกติและสิ่งนี้จะช่วยภาคธุรกิจนี้ อีกทั้งยังมี นโยบายของรัฐบาลที่ช่วยกระตุ้นตลาดนี้ให้กลับมาดีขึ้นอีกด้วย

ความเห็นต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นยังสอดคล้องกับข้อมูลจาก Chinadaily.com โพลสำรวจชาวจีนในปักกิ่ง ร้อยละ70 คาดว่าภาคท่องเที่ยว มีแนวโน้มจะฟื้นตัวกันอีกครั้งหลังจากเดือนมิถุนายนมีการก่อตั้งทีมวิเคราะห์ร่วมกันครั้งแรกระหว่าง ภาคอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว นำโดยภาคหนังสือพิมพ์ กลุ่มสำรวจโพลภายในประเทศ และ กลุ่มอาลีบาบา โพลได้บ่งชี้ว่าเดิมเปอร์เซ็นต์การท่องเที่ยวของชาวจีน อยู่ที่ 41.3%  ช่วง Covid-19 ลดเหลือ 13.8% และคาดว่าหลังจบปัญหา Covid-19 จะกลับมาสูงกว่า 63.4% โดยการกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งจะเป็นไปในรูปแบบ ค่อยๆ เพิ่มขึ้นการท่องเที่ยวระยะสั้นบริเวณชานเมืองจะกลับมาฟื้นตัวก่อนแบบค่อยเป็นค่อยไป

จากโพลสำรวจหลังหมดการระบาดของ Covid-19 ระบุ 43.5 % จะเลือกออกไปเที่ยวบริเวณใกล้ๆ เช่น ชานเมือง หรือนอกเมืองหลักที่พักอาศัย 20 % เดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด 6.9 % เดินทางท่องเที่ยว ต่างประเทศ และกว่า 30 % ยังไม่เดินทางไปที่ใด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*