วันนี้ (3 เมษายน 2563) นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ให้แก่ ผู้เช่าที่ราชพัสดุ บุคลากรของกรมธนารักษ์ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค ตลอดจนประชาชนทั่วไป พร้อมประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ ดังนี้

  1. ผู้เช่าที่ถือสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย และสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อการเกษตร จะได้รับการยกเว้นค่าเช่า 1 ปี (ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564) โดยจะได้รับยกเว้นการเรียกเก็บเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินที่ค้างชำระตามสัญญาที่กำหนดไว้ ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเพื่ออยู่อาศัย และผู้เช่าเพื่อการเกษตรซึ่งมีสัญญาเช่าจำนวน 150,409 ราย และเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้เช่าและสมาชิกในครัวเรือนได้มากกว่า 450,000 คน
  2. ผู้เช่าที่ถือสัญญาเช่าอาคาราชพัสดุ สัญญาเช่าเพื่อประโยชน์อย่างอื่น สัญญาก่อสร้างอาคาร ยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง และสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ (การเปิดประมูลพัฒนาที่ราชพัสดุเนื้อที่เกิน 2 ไร่ / มูลค่าเกิน 10 ล้านบาท) สามารถเลื่อนชำระค่าเช่าและค่าตอบแทนของเดือนมีนาคม – สิงหาคม 2563 (รวมระยะเวลา 6 เดือน) และผ่อนชำระค่าเช่าและค่าตอบแทนเป็นระยะเวลา 12 เดือน (1 กันยายน 2563 – 31 สิงหาคม 2564) โดยยกเว้นเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินที่ค้างตามสัญญาที่กำหนดไว้
  3. สั่งการให้ธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่ทั่วประเทศประสานขอความร่วมมือกับองค์การปกครอง ส่วนท้องถิ่นและเอกชนในทุกจังหวัด ที่เช่าที่ราชพัสดุเพื่อประกอบกิจการตลาดในท้องที่นั้นๆ ให้คัดกรองอุณหภูมิ วางเจลล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน หมั่นดูแลทำความสะอาดพื้นผิวและห้องสุขา จำกัดจำนวนคนเข้าใช้บริการตลาด เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชน และให้พิจารณากำหนดมาตรการ ให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้ประกอบการการค้าในตลาดตามความเหมาะสม
  4. บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับของกรมธนารักษ์ โดยมีหน้าที่บริหารอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ได้ดำเนินการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) โดยจัดจุดตรวจคัดกรอง อบโอโซนบริเวณภายในอาคาร ฉีดพ่นน้ำยาเคมี เพื่อฆ่าเชื้อและร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ผู้มาติดต่อราชการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
  5. ให้ใช้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 8,000 ตารางเมตร เป็นโรงพยาบาลสนามในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
  6. สร้างความมั่นใจในการใช้เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนของประชาชน โดยกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนซึ่งเป็นเหรียญใหม่ในอัตราร้อยละ 70 เพื่อนำเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และมีเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนเดิมเพียงร้อยละ 30 นอกจากนี้เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนก่อนจ่ายแลกให้ประชาชนจะดำเนินการฆ่าเชื้อด้วยระบบ UVC
  7. ความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีต่อบุคลากรของกรมธนารักษ์ จึงกำหนดให้มีจุดคัดกรองอุณหภูมิ วางเจลล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน ดูแลทำความสะอาดพื้นผิวและห้องสุขา อีกทั้ง ยังได้มอบเครื่องวัดอุณหภูมิ จัดทำหน้ากากอนามัย สเปรย์แอลกอฮอล์ 75% (สำหรับทำความสะอาด) ให้แก่บุคลากรกรมธนารักษ์ทั้งในส่วนกลางและสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์และประชาชนรวมถึงให้ปรับรูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์โดยให้คำนึงถึงการปฏิบัติตนตาม Social Distancing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*