งานสถาปนิก’63 ปรับแผนเดินหน้าต่อ โดยขยับไปจัดในระหว่างวันที่ 7-12 กรกฎาคมนี้พร้อมเตรียมมาตรการเสริมสร้างความปลอดภัยความเชื่อมั่น ในการเข้าจัดแสดงเข้าชมงาน

นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ด้วยวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงทั่วโลก สมาคมสถาปนิกสยามฯ ในฐานะผู้จัดงาน “สถาปนิก’63” จึงได้มีมติให้เลื่อนการจัดงาน จากเดิมที่กำหนด ระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ออกไปเป็นระหว่างวันที่ 7-12 กรกฎาคม 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมเตรียมมาตรการในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไว้รองรับอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจแก่ผู้จัดแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงาน

“งานสถาปนิก ถือเป็นงานจัดแสดงสินค้านวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมและวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วโลก ทางคณะผู้จัดงานได้ตระหนักถึงความปลอดภัยและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ร่วมแสดงสินค้า ผู้ชมงาน ผู้เกี่ยวข้อง จึงมีมติให้เลื่อนการจัดงาน การตัดสินใจในครั้งนี้เกิดจากการพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย ซึ่งทางคณะผู้จัดงานฯ ก็ได้เตรียมมาตรการด้านสาธารณสุขไว้รองรับแล้ว เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน” นายอัชชพล กล่าว

ด้าน ดร. วสุ โปษยะนันทน์ ประธานการจัดงานสถาปนิก’63 กล่าวว่า  งานสถาปนิก’63ตั้งใจจัดในธีม “มองเก่า ให้ใหม่ : Refocus Heritage” ซึ่งเป็นการปรับมุมมองในการมองและการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมใหม่ เป็นการปรับจูนความคิดให้มองสิ่งเดิมๆ แตกต่างออกไป ซึ่งถ้ามองอีกมุมหนึ่ง สถานการณ์ไวรัสในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่าการปรับตัว ปรับทัศนคติเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเสมอ และหวังว่าการเลื่อนกำหนดการจัดงานสถาปนิก’63 ในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ทั้งในส่วนของผู้มาจัดแสดงสินค้า รวมถึงผู้เข้าชมงานเอง สามารถมางานสถาปนิกและเดินชมนวัตกรรมและนิทรรศการต่างๆ ได้อย่างอุ่นใจเช่นเคย

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ ผู้บริหารงานสถาปนิก’63 กล่าวว่างานสถาปนิกเป็นเวทีสำคัญของวงการสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างที่จัดขึ้นเพียงปีละหนึ่งครั้งเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการมาร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อแสดงศักยภาพ โดยคาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะมีผู้ประกอบการพร้อมร่วมจัดแสดงงานและสนับสนุนอุตสาหกรรมกว่า 700 บริษัท จากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในส่วนของกลุ่มผู้ซื้อ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากบริษัทชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับวงการสถาปนิก ผู้ประกอบการด้านอาคารและการก่อสร้าง การออกแบบตกแต่งภายใน บริษัทในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมต่างๆ จากกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) ที่กำลังมีการพัฒนาโครงการก่อสร้างมากมายภายในกลุ่มประเทศนั้น

“อย่างที่เราทราบกันดีว่า การจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ เป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพบปะเพื่อให้เกิดแลกเปลี่ยนความร่วมมือภายในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจและผลักดันให้อุตสาหกรรมเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ มีนโยบายในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าของประเทศไทย และมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานการจัดงานแสดงสินค้าของไทยสู่ระดับสากล โดยการออกแคมเปญ Exhibiz in Market และASEAN+6 Privilege Campaign สนับสนุนค่าใช่จ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจร่วมชมงานจากต่างประเทศ” นายศักดิ์ชัย กล่าว

อย่างไรก็ตามด้วยความคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของผู้เข้าร่วมงานอย่างสูงสุด ทางคณะผู้จัดงานได้ร่วมกับศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในการวางมาตรการเฝ้าระวังเเละป้องกันโรคระบาดภายใต้การควบคุมของระบบการจัดการด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับการจัดประชุมสัมมนา เเละนิทรรศการ มอก.22300 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ดังนี้

1.เตรียมแอลกอฮอล์บริการลูกค้า ณ ทางเข้าอาคารหลัก ห้องประชุมย่อยรวมถึงห้องน้ำ เพื่อใช้ทำความสะอาด

2.ติดตั้งเครื่องเทอร์มัลสแกน (Thermo scan) บริเวณทางเข้าอาคารหลักและหน้างาน สำหรับคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย และผู้ป่วยที่เข้าข่ายต้องคัดแยกเพื่อเฝ้าระวังติดตามอาการ

3.จัดเตรียมอุปกรณ์เทอร์มัลสแกน (Thermo Gun) สำหรับตรวจวัดอุณหภูมิ คัดกรองผู้ป่วย โดยมีการติดสติกเกอร์ต่างสีในแต่ละวัน เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่เข้าร่วมงานได้รับการตรวจคัดกรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

4.เตรียมห้องปฐมพยาบาลเพื่อคัดกรองผู้ป่วย โดยมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ประจำการ

5.ประสานทีมแพทย์และพยาบาล จากสถาบันบำราศนราดูรให้การช่วยเหลือสนับสนุนทางการแพทย์

6.จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้สร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 พร้อมขอความร่วมมือผู้เข้ามาใช้บริการปฏิบัติตามข้อแนะนำในการป้องกันการแพร่ระบาด

7.เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดอาคาร สถานที่ บริเวณห้องจัดงาน จุดบริการอาหารเครื่องดื่ม ห้องน้ำ และอื่นๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกวัน ตลอดจนฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่จัดแสดงงานทั้งการก่อสร้างและหลังจากการรื้นถอ

8.จัดเตรียมถังขยะสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะ เพื่อการนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี

 

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*