แอสเสท เวิรด์ฯ และธุรกิจในเครือ ออกมาตรการรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สอดคล้องนโยบายภาครัฐ  พร้อมช่วยเหลือและยกระดับความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของพนักงาน ผู้เช่าพื้นที่ ลูกค้า และผู้ติดต่อกับโรงแรม ร้านค้าปลีก และศูนย์การค้าทั่วประเทศ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ AWC

นางวัลลภา ไตรโสรัส

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ซึ่งมีพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายทั้งการท่องเที่ยว โรงแรม บริการ และค้าปลีก ได้ติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) อย่างใกล้ชิด และได้กำหนดมาตรการและแนวทางต่าง ๆ สำหรับโครงการโรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงานทั้งหมดที่บริษัทดำเนินงาน ตลอดจน  ที่สอดคล้องกับนโยบายและประกาศของรัฐบาลและองค์การอนามัยโลก

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “เรามีความห่วงใยต่อผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมออกมาตรการต่าง ๆ ตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐและองค์การอนามัยโลก สำหรับใช้เป็นแนวทางปฏิบัติและการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของบริษัท รวมถึงการสื่อสารทั้งระดับภายในและกับภายนอกองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงาน ผู้เช่าพื้นที่ ลูกค้า และผู้ที่มาติดต่อกับโรงแรม ร้านค้าปลีก ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงานทั่วประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแลของ AWC มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและสุขภาวะที่ดี”

กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality)

AWC ร่วมกับพันธมิตรเครือโรงแรมระดับโลกทั้ง 6 รายได้แก่ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์, ฮิลตัน, อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป, บันยันทรี, มีเลีย และโอกุระ ดำเนินมาตรการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด เพื่อดูแลความปลอดภัยเรื่องสุขอนามัยภายในโครงการ ควบคู่กับสร้างความเชื่อมั่นให้กับแขกผู้เข้าพักและใช้บริการในโรงแรม โดยได้ออกมาตรการที่เหมาะสมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

นอกจากนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่แขกผู้เข้าพักและผู้ใช้บริการ ธุรกิจโรงแรมภายใต้การดูแลของ AWC ได้ร่วมมือกับพันธมิตรโรงแรมชั้นนำต่าง ๆ ในการออกนโยบายยกเว้นค่าธรรมเนียมในการยกเลิกเข้าพักในโรงแรม โดยพิจารณาความเหมาะสมในช่วงเวลาที่เดินทางและประเทศต้นทาง รวมถึงการยกระดับความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับสายการบิน คลับ ตลอดจนกิจกรรมลอยัลตี้เพื่อสร้างรายได้อื่นๆ บริษัทจะเร่งการลงทุนและปรับปรุงโครงการอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต อีกทั้งการจัดแผนโปรแกรมทำความสะอาดใหญ่ ทั่วทั้งบริเวณ (Big Cleaning) ในทุกโครงการเพิ่มเติมจากแผนการทำความสะอาดตามปกติ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของทุกโครงการ

 กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการค้า (Retail and Wholesale)

จากการพิจารณาสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดจากจำนวนนักท่องเที่ยวของแต่ละโครงการ AWC ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้เช่าของแต่ละโครงการ ตามผลกระทบของจำนวนลูกค้า และสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในแต่ละเดือน สำหรับโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวและผู้เข้ามาใช้บริการที่ลดลง โดยมอบส่วนลดค่าเช่ารายเดือน 25% สำหรับเดือนมีนาคม 2563 ให้กับผู้เช่าทุกราย และพิจารณาต่อสัญญาเช่าสำหรับผู้เช่าที่จะหมดสัญญาเช่า โดยคงราคาค่าเช่าในอัตราเดิมสำหรับเดือนเมษายน 2563 สำหรับโครงการอื่น ๆ AWC จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามสถานการณ์และผลกระทบของแต่ละกลุ่ม และแต่ละโครงการที่มีความแตกต่างกัน รวมถึงการมอบส่วนลดค่าเช่ารายเดือนแก่ผู้เช่าประมาณ 5-20% บริษัทจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแบบเดือนต่อเดือน เพื่อมอบความช่วยเหลือตามความเหมาะสมของสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ AWC ได้ประสานและขอความร่วมมือกับผู้เช่าที่มีการเดินทางผ่านหรือกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้เฝ้าระวังอาการตนเองอย่างน้อย 14 วันที่บ้านตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

ด้านการลงทุนและการพร้อมรับสถานการณ์เพื่อดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

AWC ยังคงเดินหน้าตามแผนระยะยาวในการสร้างเสริมศักยภาพของโครงการปัจจุบันและพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดนิ่งตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของบริษัท

ในแผนการรับมือในขณะนี้ บริษัทฯ มีการบริหารค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่กระทบต่อการบริการลูกค้า

นอกจากนี้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์ บริษัทจึงได้จัดให้มีการทดสอบการทำงานที่บ้านตั้งแต่วันที่ 10-14 มีนาคมในกลุ่มพนักงานประจำสำนักงานและโครงการกลุ่มรีเทลและคอมเมอร์เชียล โดยให้ทดลองทำงานผ่านระบบสื่อสารทางไกลและวางระบบการติดต่อและส่งมอบงานตามกำหนด เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย

AWC ได้กำหนดมาตรการ เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้เช่า ผู้เช่าพื้นที่ ลูกค้า และผู้ที่มาติดต่อกับโรงแรม ร้านค้าปลีก และศูนย์การค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแลของ AWC

สำหรับมาตรการภายในอาคาร ได้ดำเนินการทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และพ่นสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อในลิฟต์โดยสารทุก ๆ 30 นาที ติดตั้งเจลทำความสะอาดมือที่บริเวณทางเข้าและในพื้นที่ที่มีการสัญจรคับคั่งของอาคาร แจ้งให้ลูกค้า ผู้มาติดต่อ และพนักงานของหน่วยงานต่าง ๆ ล้างมือบ่อย ๆ บริการเจลทำความสะอาดมือ สบู่ และกระดาษชำระให้พร้อมใช้ในห้องน้ำเสมอ และจัดทำป้ายมาตรการการดูแลและสัญลักษณ์แจ้งจุดที่ให้บริการเจลทำความสะอาดมือได้โดยสะดวก

สำหรับพนักงานในองค์กร บริษัทได้ดำเนินมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยขอให้พนักงานงดการเดินทางต่างประเทศ หากมีความจำเป็นให้แจ้งผู้บังคับบัญชาพิจารณาเป็นรายกรณี รวมถึงหลีกเลี่ยงการประชุมสัมมนาภายนอกและสถานที่ชุมชนหนาแน่น และงดรับนัดหมายประชุมและการพบปะโดยตรงกับบุคคลภายนอก โดยให้ใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านระบบสารสนเทศต่าง ๆ และกรณีพนักงานหรือบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันเดินทางผ่านหรือกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้าน เพื่อสังเกตอาการ 14 วัน โดยระหว่างปฏิบัติงานที่บ้าน หากมีอาการป่วยให้รีบพบแพทย์และแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบทันที

“AWC จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถออกมาตรการและนโยบายในการดำเนินการต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที และสามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้อย่างดีที่สุด”  นางวัลลภากล่าว

เกี่ยวกับบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัท Holding Company ภายใต้เครือทีซีซีกรุ๊ป (TCC Group) ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรในประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ซึ่งบริหารงานโดยผู้บริหารโรงแรมที่มีชื่อเสียงภายใต้แบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพและเป็นที่รู้จักระดับสากล อาทิ แมริออท, เดอะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, บันยันทรี, ฮิลตัน และเชอราตัน และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building)   ซึ่งครอบคลุมโครงการในกลุ่ม

1) อสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail and Wholesale) ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ชอปปิงมอลล์ คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต และอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้าส่ง โดยอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้ามีโครงการที่มีชื่อเสียงคือ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการเกทเวย์ แอท บางซื่อ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ และโครงการตะวันนา บางกะปิ

2) อาคารสำนักงาน (Office) โดยโครงการที่โดดเด่นในเครือ AWC คือ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ และอาคารแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลทางธุรกิจที่มีศักยภาพในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ

 

บริษัทประสบความสำเร็จหลังจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ณ วันที่ 10 ต.ค. 2562 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นับเป็นการซื้อขายหุ้นไอพีโอในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงสุดของโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเป็นหุ้นไอพีโอในธุรกิจอสังหา ฯ ที่มีมูลค่าตลาดที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์ไทย (จากฐานข้อมูลของบลูมเบิร์ก)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*