อนันดาฯ ชูกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด “Change The Plan Never The Goal” ยืดหยุ่นในการกระทำ(วิธีการ)…แต่ยึดมั่นในเป้าหมาย คงเป้าผู้นำคอนโดติดรถไฟฟ้า ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ย้ำการเงินแกร่ง พันธมิตรเหนียวแน่น เล็งผุดโครงการมิกซ์ยูส พร้อมส่งมอบ 7 คอนโดพร้อมอยู่ เล็งรับยอดโอนกว่า 22,000 ล้านบาท
นายชานนท์ เรืองกฤตยา

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 ไม่ค่อยสดใสต้องเผชิญกับความท้าทายและกังวลของผู้บริโภคที่วิตกกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และปีนี้ก็เป็นปีที่ท้าทายที่บริษัทฯต้องฝ่ามรสุมให้ได้เพราะสถานการณ์เปลี่ยนยิ่งทำให้ต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา โดยได้วางแผนธุรกิจภายใต้แนวคิด “Change The Plan Never The Goal” ยืดหยุ่นในการกระทำ(วิธีการ)…แต่ยึดมั่นในเป้าหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและความต้องการของลูกค้า

อนันดาฯ ยังคงให้ความสำคัญการพัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ริเริ่มเป็นเจ้าแรกและดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งการขยายเครือข่ายของรถไฟฟ้าเป็น 221 สถานี ในอีก 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมีกว่า 100 สถานี นอกจากนี้ยังคงเจตนารมณ์ในการสร้างเมืองที่ดีให้กับคนเมืองเพื่อชีวิตที่ดีและลงตัวดังปรัชญา Urban Living Solutions ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Gen C

แผนธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯมีแผนการเปิดตัวโครงการ ไอดีโอ พหล-สะพานควาย อยู่ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย เพียง 0 เมตรบนที่ดินกว่า 5 ไร่  มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,356 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 8,500 ล้านบาท ซึ่งมีการปรับรูปแบบโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและสภาวะตลาด กำหนดราคาขายที่ 139,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) หรือราคาเริ่มกว่า 3 ล้านบาท เปิดขายในไตรมาส 2 / 2563 กำหนดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2565  นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการเตรียมอีก 7 โครงการใหม่ (คอนโดฯ 5 โครงการ / ทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ) มูลค่ารวมกว่า 28,361 ล้านบาทที่พร้อมจะเปิดตัวปีนี้ในกรณีที่มีปัจจัยเชิงบวก หรือสถานการณ์ตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น

ในส่วนธุรกิจร่วมทุนนั้น  อนันดาฯ ยังคงได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง  จำกัด เป็นอย่างดีตั้งแต่เริ่มร่วมทุนในปี 2556 ถึงปัจจุบัน  นอกจากนี้ โครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ที่จับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง  ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจเซอร์วิสเรสซิเด้นซ์ระดับลักชัวรี่ชั้นนำของโลกกำลังจะแล้วเสร็จและพร้อมดำเนินการ 2 โครงการในปีนี้ คือ SOMERSET RAMA9 และ LYF SUKHUMVIT 8 จะมาช่วยเสริมให้มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ(Recurring Income) โดยอนันดาฯ ตั้งเป้าพัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ ปีละ 2 โครงการ ซึ่งตลอด 7 ปีที่ผ่านมาโครงการร่วมทุนระหว่างอนันดาฯกับมิตซุย ฟูโดซัง   ณ สิ้นปี 2562 มีทั้งสิ้น 34 โครงการ (เป็นโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ 5 โครงการและเป็นคอนโดฯ 29 โครงการ)รวมมูลค่า 142,400 ล้านบาท

นายชานนท์ ยังล่าวด้วยว่าบริษัทฯมีแผนขยายแหล่งรายได้ใหม่และสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลักด้วยการลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสครั้งแรกร่วมกับพันธมิตรอย่างกลุ่ม บีทีเอส บนที่ดินกว่า 200 ไร่ บริเวณหน้าโครงการ ธนาซิตี้  ติดถนนบางนา – ตราด โดยตั้งเป้าให้เป็น Smart City และ Technology & Innovation Hub เพื่อพลิกโฉมวงการที่อยู่อาศัยให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง สำหรับกลุ่มดุสิตขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาและพัฒนาร่วมกัน

บริษัทฯมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog)กว่า 31,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการโอนในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดย 56% หรือประมาณ 12,379 ล้านบาท ของยอดโอนในปี 2563 มาจาก Backlog  ในปี 2564 ประมาณ 11,098 ล้านบาท และที่เหลือ 7,652 ล้านบาทรับรู้รายได้ในปี 2565  และในส่วนของกระแสเงินสดของบริษัทฯก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นสุดไตรมาสยังคงรักษาเงินสดที่มีมากกว่า 14,800 ล้านบาท และในปีนี้ บริษัทฯจะมีโครงการพร้อมเข้าอยู่ใหม่อีก 7 โครงการคอนโดฯสร้างเสร็จพร้อมโอนรวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท

ในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายที่ 20,000 ล้านบาท มาจากคอนโดฯเป็นสัดส่วน 88 % และมาจากแนวราบอีก 12 %  ส่วนยอดรับรู้รายได้จากการโอนตั้งไว้ที่ 22,000 ล้านบาท เติบโตจากปี2562 ประมาณ 10 % โดยปีที่ผ่านมามียอดโอนที่ 20,000 ล้านบาท ในจำนวนยอดโอนทั้งหมดของปี 2562 นั้น แบ่งเป็นยอดโอนที่มาจากลูกค้าไทยประมาณ 78 % เป็นต่างชาติประมาณ 22 % คิดเป็นจำนวน 1,067 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 4.2 ล้านบาทต่อยูนิต

ทั้งนี้ พบว่าลูกค้าอนันดาฯ ประมาณ 59 % ยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารและพบว่ามีลูกค้าที่โอนเงินสดอยู่ในอัตราที่สูงถึง 41% ( 19% ลูกค้าไทย, 22 % เป็นลูกค้าต่างชาติ)และพบว่าลูกค้าต่างชาติที่ไม่โอนมีเพียง 6 % ส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2562 มีทั้งสิ้น 9 โครงการรวมมูลค่า 15,944 ล้านบาท เป็นคอนโดฯ 4 โครงการ (เป็นโครงการร่วมทุน 3 โครงการ หรือ 95% ของคอนโดฯที่เปิดตัวทั้งหมด) สวนอีก 2 โครงการนั้นเป็นแนวราบ (ในปี 2561 อนันดาฯเปิดตัวโครงการใหม่รวมมูลค่า 26,756 ล้านบาท) และ 95 % ของคอนโดฯเปิดตัวใหม่ในปี 2562 อยู่ในกลุ่ม VALUE TO MID-END

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*