ซีจี คอร์เปอร์เรชั่นฯในเครือCPLAND ไม่หวั่นโคโรนา ไวรัส เชื่อเป็นผลกระทบระยะสั้น มั่นใจรัฐบาลแก้ปัญหาได้ ล่าสุดดึงกลุ่มว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียร์ริ่ง กรุ๊ป ยีอาน ร่วมทุนผุดนิคมอุตสาหกรรม “ซีพีจีซี” รูปแบบ “Smart Industrial Estateมูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท คาดปีแรกขายพื้นที่ได้ 70-80%
นายสุนทร อรุณานนท์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท ซีจี คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด(มหาชน) หรือ CPLAND เปิดเผยว่า แม้สาธารณรัฐประชาชนจีนจะประสบปัญหาโคโรนา ไวรัส มองว่าจะเป็นผลกระทบเพียงแค่ภาพรวมเท่านั้น แต่ไม่กระทบโครงการร่วมทุนระหว่างไทยและจีนซึ่งเป็นพัฒนาร่วมกันในระยะยาว  อีกทั้งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างแน่นอน

สำหรับแผนการดำเนินงานของซีจี คอร์เปอร์เรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง CPLAND ถือหุ้นสัดส่วน 50% ,บริษัท  กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียร์ริ่ง กรุ๊ป ยีอาน สัดส่วน 48% และบริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป ยีอาน(ประเทศไทย)จำกัด สัดส่วน 2% ก่อตั้งเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 2,750 ล้านบาท(ชำระเต็ม) เพื่อพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบ้านค่าย และอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 3,068 ไร่ 1งาน 15 ตารางวา เป็นโครงการนิคมอุตสาหกรรมที่ร่วมดำเนินงานกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และยังได้รับการประกาศเป็นเขตส่งเสริมพิเศษเพื่ออุตสาหกรรมเป้าหมาย จากคณะกรรมการนโยบายเขตภาคตะวันออก (หรือ EEC) ซึ่งโครงการจะมุ่งเน้นในการสนับสนุนอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง โดยมุ่งหวังจะให้เป็น “Smart Industrial Estate”คิดเป็นมูลค่าโครงการประมาณ 10,000 ล้านบาท และหากมีลูกค้าเข้ามาลงทุนเต็มพื้นที่จะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 60,000 ล้านบาท

ซึ่งการพัฒนานิคมฯดังกล่าวจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรก จะใช้เงินลงทุนระบบสาธารณูปโภคประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2563 ,เฟส2 ใช้เงินลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภค อีกประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2563 และเฟส3 ใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท ในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2565   โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTB เพื่อนำมาก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคในโครงการ ด้วยวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท  และมอบหมายให้ บริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป ยีอาน (ประเทศไทย) เป็นผู้รับเหมาหลักในการก่อสร้างโครงการนิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี ซึ่งมีมูลค่าการก่อสร้างกว่า 2,000 ล้านบาท

“นอกจากขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมแล้ว เรายังได้แบ่งพื้นที่ประมาณ 112 ไร่ เพื่อพัฒนาในส่วนของคอมเมอร์เชียล เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่เป็นลูกค้าในนิคมฯอีกด้วย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้” นายสุนทร กล่าว

โดยสาเหตุที่เลือกกลุ่ม กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียร์ริ่ง กรุ๊ป ยีอาน มาร่วมทุนในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี ในครั้งนี้ เพราะมองว่าเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพในจีน และมีศักยภาพในการช่วยทำตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างจุดแข็งให้กับโครงการท่ามกลางการแข่งขันธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่สูงมาก แต่ด้วยความเป็นนิคมฯที่ใหม่และมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน  สามารถดึงลูกค้าเข้ามาใช้พื้นที่ในนิคมฯ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์ ,ชิ้นส่วนรถยนต์,เครื่องมือแพทย์,อาหารแปรรูปที่ทันสมัย และธุรกิจด้านดิจิทัล ซึ่งเริ่มทำการตลาดตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 นี้เป็นต้นไป  โดยที่ดินที่ขายจะมีขนาดเริ่มต้นที่ 15 ไร่ขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท/ไร่ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลของที่ดินในนิคมฯ โดยที่ผ่านมาเริ่มมีลูกค้าต่างชาติสนใจเข้าไปดูพื้นที่อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งจะเน้นลูกค้าที่เป็นชาวจีน  ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นต้น  คาดว่าในปีแรกนี้จะสามารถขายพื้นที่ได้ประมาณ 70-80% ของพื้นที่ทั้งหมด

ด้านนายถัง หนง เฉิน ประธานบริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียร์ริ่ง กรุ๊ป ยีอาน จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯเป็นรัฐวิสาหกิจก่อสร้างขนาดใหญ่ภายใต้เขตปกครองตนเองกว่างซี  โดยได้รับงานภายในประเทศ และตลาดต่างประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย หนึ่งเขตหนึ่งเส้นทาง และการเปิดตลาดต่างประเทศ และธุรกิจครอบคลุมถึงการก่อสร้าง การติดตั้ง อสังหาริมทรัพย์ การผลิต การให้เช่าเครื่องจักรในการก่อสร้าง คอนกรีต การขายวัสดุก่อสร้าง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจระหว่างประเทศ การทำเหมือง โรงแรม และส่วนอื่นๆ โดยบริษัทมีทั้งหมด 24 สาขา รวมถึงบริษัทที่มีคุณสมบัติระดับสูง 7 สาขา ในปี 2562 รายได้บริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จากการดำเนินงานเป็นมูลค่า 113 พันล้านหยวน อยู่เป็นอันดับที่ 2 ในรัฐวิสาหกิจที่เขตปกครองตนเองกว่างซี ซึ่งติดอันดับที่ 190 จาก 500 อันดับของบริษัทจีน  และติดอันดับ 2 จาก 500 อันดับแรกของผู้ประกอบการก่อสร้างในเขตกว่างซีเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกัน 8 ปี  อีกทั้งยังเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมเขตตะวันตก ซึ่งเป็นแนวหน้าของธุรกิจก่อสร้างในเขตตะวันตก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับการร่วมทุนในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี นั้นจะเน้นความทันสมัย คุณภาพสูง และผลิตผลงานออกมาได้ดี เป็นเป้าหมายหลัก ยึดเส้นทางในการพัฒนาเป็นจุดเริ่มต้นที่สูงกว่าระดับมาตรฐานทั่วไป แต่ควบคุมมลพิษให้ต่ำ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลจีน คือ หนึ่งเขตหนึ่งเส้นทาง   และแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 โดยก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายนั้น จะมุ่งเน้นการตลาด การวางตำแหน่งที่แม่นยำ การวางแผนที่ดี และการเชื่อมต่อที่แม่นยำ  เพื่อเปิดตลาดระหว่างประเทศให้บริษัทจีน ก้าวไปสู่ความเป็นสากลอย่างมั่นคง ปรับปรุงความสามารถในการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และขยายความร่วมมือด้านนวัตกรรมจีน-ไทย อย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี ให้เป็นที่ต้องการที่สำคัญสำหรับบริษัทในการลงทุนในประเทศไทย

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*